นักร้องร็อกระดับตำนานของเมืองไทยอย่าง ปู แบล็คเฮด ชีวิตของเขามีหลายเรื่องที่น่าสนใจ แต่สิ่งที่หลายคนโฟกัสนอกจากเรื่องผลงานเพลงแล้วยังเป็นเรื่องราวความรัก ตั้งแต่เริ่มคบจนถึงปัจจุบัน รัก พบ ต่อสู้โรคร้ายและจากลากัน บทสัมภาษณ์ครั้งนี้เราสัมผัสได้ถึงความคิดถึงของผู้ชายคนนึงที่มอบให้กับหญิงสาวคนนึงอย่างบริสุทธิ์ แม้ความตายพรากให้พวกเขาจากกัน แต่ความรักและความผูกพันยังคงอยู่เสมอ "ผมไม่เคยขยับข้าวของของนุ๊กเลย ยิ่งรูปถ่ายกลับเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ" พี่ปูกล่าวเช่นนี้พร้อมกับน้ำเสียงที่สั่นเครือ
มะเร็งนรก
พี่ปู แบล็คเฮดเล่าย้อนความถึงจุดเริ่มต้นโรคมะเร็งของแฟนสาว นุ๊กซี่ อัญพัชญ์
"นุ๊กมีอาการเจ็บที่หน้าอก ก็คาดเดาว่าการไปศัลยกรรมหน้าอกเลยเกิดอาการอักเสบหรือเปล่า เพราะนุ๊กเคยศัลยกรรมที่หน้าแล้วก็มีอาการอักเสบ แล้วก็หายได้เอง แต่ที่หน้าอก มันมีเลือดและน้ำเหลืองออกมา ก็ใช้เวลาเป็นเดือนอยู่เหมือนกันที่ตัดสินใจไปพบแพทย์ เพราะมีความกังวลตลอดว่ามันใช่มะเร็งหรือเปล่า หรือแค่อักเสบ"
แต่เมื่อไปพบคุณหมอ ก็กลายเป็นว่าต้องตรวจร่างกายอย่างละเอียด ซึ่งเราก็เจอมะเร็งที่หน้าอกเข้าจริงๆ
"ตลอดเวลาเราลุ้นตลอดตอนไปตรวจในแต่ละครั้ง มันหยุดเติบโตหรือแพร่กระจาย ตัวมะเร็งมันไม่โตขึ้นแต่มันอาจจะไปที่อื่นแล้วก็ได้ จนน้องเขาเกิดอาการปวดหัว เป็นไข้ พอไปตรวจกลายเป็นว่าไปเจอในสมอง"
มันเริ่มจากทรวงอก ต่อมน้ำเหลือง ปอด สมองและไปที่เยื่อหุ้มสมอง
...
“เราเห็นความวิตกในสายตาของเขาตลอด ซึ่งคนภายนอกจะไม่ได้เห็นเพราะเขาแสดงออกมาว่าหนูสู้ หนูไม่เป็นไร แต่พอเขาเหม่อๆ เขาก็วิตกกังวลว่ามันจะต้องสู้ไปจนถึงเมื่อไหร่ แต่เราก็บอกเขาตลอดว่าพี่อยู่กับหนูตลอดไม่ว่าจะระยะไหน มันต้องสู้จนถึงที่สุด บางวันที่เขาจิตตกมากๆ เขาก็ถามว่าถ้าหนูไม่อยู่ พี่จะอยู่ได้ไหม ซึ่งเราก็ตอบว่า อยู่ไม่ได้ หนูต้องแข็งแรง ต้องสู้กับมันนะ"
ใจสลาย วันที่นุ๊กซี่ต้องไป
"วันนั้นวันที่ 26 มีนาคม 2565 วันนี้มีคนโทรศัพท์มาบอกให้เรารีบไปโรงพยาบาล ภาพที่เห็นคือเห็นการสั่นของตัว เพราะเขาต้องปั๊มหัวใจหลายครั้ง จนหมอต้องเดินออกมาถามว่า ต้องมีคนอนุญาตว่าพอหรือยัง เพราะปั๊มมา 3-4 ครั้งแล้วก็ขึ้นมาได้ 1 นาทีก็หยุด
ถ้าเป็นผมคุยกับคนไข้ ถ้าเขาไปแล้วอย่าพยายามปั๊มขึ้นมา ถ้าหายใจได้แต่ไม่ตอบสนองอะไรเลย อย่าให้เขาเป็นแบบนั้น แต่เราไม่สามารถเป็นคนตัดสินใจได้ ต้องมีคนเซ็นเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน พอให้โทรไปหาคุณพ่อนุ๊ก พ่อก็บอกเอาให้ถึงที่สุด"
พี่ปูเล่าความรู้สึกในช่วงเวลานั้นว่า เมื่อเห็นแฟนสาวสภาพนั้นก็แทบไม่อยากให้เขาฟื้นขึ้นมาแล้ว เพราะน้องเขาคงเจ็บมากแล้ว และถ้าฟื้นขึ้นมาไม่รู้สึกตัว ตอบสนองอะไรไม่ได้แล้วก็ไม่อยากให้เขาทรมาน
"สุดท้ายแล้วหมอก็ถอดเครื่องมือทุกอย่าง เลิกปั๊มหัวใจ ชีพจรก็เป็นศูนย์ ที่เห็นกะบังลมพองขึ้นมาเพราะเครื่องช่วยล้วนๆ ชีพจรที่เห็นก็เครื่องช่วยเช่นกัน แต่เราก็รอจนคุณพ่อของนุ๊กมา มันมีความคิดอยู่สองอย่างคือ ดีใจมากและเสียใจมาก ที่บอกว่าดีใจคือมันพอแล้วไม่อยากเห็นเขาทรมานแล้ว แต่คำว่าเสียใจคือการได้เห็นหน้าเขา ตอนนั้นเริ่มเขียวๆนิดๆ ตรงจมูก ก็ไม่อยากเห็นแล้ว
สิ่งที่เราบอกเขาครั้งสุดท้ายคือให้น้องไปสบายนะ ไม่ต้องห่วงอะไร พี่อยู่ได้”
รักครั้งสุดท้าย
หลายคนไม่เชื่อเรื่องรักแท้หรือรักนิรันดร์ ตัวพี่ปูเองก็พูดชัดเจนว่าตัวเองก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อได้รู้จักกับนุ๊กซี่ เขาก็เชื่อหมดใจว่าสามารถรักใครสักคนได้มากขนาดนี้
"หลังจากเจอนุ๊กซี่ ผมเชื่อแล้วคำว่ารักเดียวใจเดียว รักกันจนวันสุดท้าย เพราะว่าที่ผ่านมาเวลาผมอยู่กับนุ๊ก เรารู้สึกแต่ไม่รู้ว่ามันเรียกแบบนี้ใช่ไหม เรามีคนดูแล นุ๊กเป็นคนที่ดูแลตลอด ผมทำงาน ความอบอุ่นใจ ความสุขก็ไปฝากเขาไว้หมด คำชม คำติ ผมฟังเขาหมดทุกอย่าง เวลาที่เขาอยากให้ทำอะไรผมทำหมดเลยนะ ณ ตอนนั้นผมทำโดยไม่ได้คิดว่าเราทำเพราะเชื่อฟังเขาหรือเพราะความรัก สิ่งที่เขาให้เรามาก็คือความรักล้วนๆ เขาไม่ใช่บังคับให้เราทำ มันคือความรัก ห่วงใยเรา ปรารถนาดีอยากให้เราเป็นแบบนั้นแบบนี้ เพื่อชีวิตวันข้างหน้าที่ดีขึ้น”
ไม่ใช่แค่พี่ปูที่เปลี่ยนทัศนคติความรักไปตลอดกาล ครอบครัวโดยเฉพาะคุณแม่ของพี่ปูก็ยินดีต้อนรับแฟนสาวของลูกชายอย่างเต็มใจ
...
"เขา (นุ๊กซี่) บอกกับผมว่ามันคือความอบอุ่นใจที่ได้เจอผมและครอบครัวของผม ดีใจจังเลยที่ครอบครัวผมรักเขา รักที่นุ๊กเป็นนุ๊ก เพราะสัมผัสแรกคนมองเขาเป็นพริตตี้เซ็กซี่ แต่แม่ผมบอกกับนุ๊กเลยว่า ให้แต่งตัวแบบนี้แหละน่ารักดี เพราะแม่ผมรู้แล้วว่านุ๊กเป็นอย่างไร เวลาเข้าหาผู้ใหญ่ นุ๊กเขาดูแลดี ดีกว่าที่ผมดูแลแม่ผมเองอีก"
เปลี่ยนเสียใจเป็นคิดถึง
ปู แบล็คเฮดยอมรับกับเราว่า เขายังคงทุกสิ่งทุกอย่างของนุ๊กซี่ไว้เหมือนเดิม และยังไม่คิดจะมูฟออนเปิดใจกับความรักครั้งใหม่
"ณ ตอนนี้ยังไม่คิดอะไรเลย ความรู้สึกมันยังอบอวลอยู่ มันเปลี่ยนจากความเศร้าโศกเสียใจเป็นความคิดถึง แต่ทุกวันผมจะทำให้มันเคยชินอยู่แล้ว ผมจะมีรูปเขาอยู่ทุกๆ ที่ จะไม่มีการเคลื่อนย้ายสิ่งที่มันเคยอยู่ นอกจากเสื้อผ้า แต่ส่วนอื่นๆ เฟอร์นิเจอร์หรือห้องของเขา ผมจะไม่เคลื่อนย้ายอะไรเลย วางไว้เหมือนเดิม และแปะรูปเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ อยากให้มันอบอวลไปด้วยเขาอยู่"
ตำนานแบล็คเฮด
เราได้ยินวงแบล็คเฮดและเพลงของแบล็คเฮดกันมาตลอดหลายสิบปี หรือเอาจริงๆ คือเติบโตมาด้วยกัน ซึ่งพี่ปูยอมรับว่ามันก็มีช่วงที่แบล็คเฮดหายสาบสูญบ้าง มีขึ้นมีลงตามปกติของชีวิตมนุษย์ แต่ยืนยันว่าวงแบล็คเฮดไม่เคยมีความคิดจะแยกวง
...
"วงแตกคงยาก แต่รีไทร์คงง่ายๆ ยืนนานเริ่มปวดหลัง เราเคยทะเลาะกัน แต่ก็ไม่เห็นแตกวงนะ เราอยู่ด้วยกันแบบเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกันมากกว่า ไม่ได้อยู่กันเพราะความโด่งดังหรือธุรกิจ"
สุดท้ายพี่ปูได้ให้คำแนะนำรุ่นน้องในวงการเพลงได้น่าสนใจและน่าคิดตามจริงๆ
"เวลาเราคิดอยากจะเป็นอะไร มันจะมีฝันและหวัง พอเราได้เจอ เราจะหลงลืมความฝันแรก จะสนุกและเพลินกับปัจจุบัน จะดีใจกับการสรรเสริญเยินยอ สิ่งเหล่านั้นไม่ยั่งยืน แต่สิ่งแรกที่คุณฝันมานั่นแหละยั่งยืนกว่า ถ้าคุณแวะกลับไปคิดถึงและให้คุณค่ากับมันให้เท่ากับวันที่คุณสำเร็จแล้ว ให้มีน้ำอดน้ำทนให้เท่ากับวันที่คุณยังไม่มีชื่อเสียง"
ผู้เขียน : Bouquet Talk