เรามองเห็นนาย ณภัทร เกิดมาสมบูรณ์แบบด้วยรูปร่างหน้าตา การศึกษาและความสามารถ แต่สำหรับเจ้าตัวกลับเห็นข้อด้อยของตัวเองชัดเจน และยอมรับว่าเขาไม่เพอร์เฟกต์หรือสมบูรณ์แบบอย่างที่ใครเข้าใจ
"ชีวิตผมไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่หลายคนมองเห็น ผมมีข้อเสีย มีข้อผิดพลาด เหมือนทุกคนปกติ แต่เมื่อก่อนผมเป็นคนเพอร์เฟกชันนิสต์นะ ช่วงที่ผมเรียนทุกอย่างต้องเป๊ะ พออะไรไม่เป๊ะไม่ได้อย่างใจ มันหงุดหงิด แต่พอเรามาทำอาชีพนักแสดง มันคนละศาสตร์กับสิ่งที่เราเรียนเลย มันต้องยืดหยุ่นบ้าง ยอมรับข้อผิดพลาดบ้าง ต้องเข้าใจว่ามันไม่ได้มีอะไรตามที่เราคิดตลอดเวลา พอเรายอมรับได้ ก็กลายเป็นว่าเราแฮปปี้ขึ้น รีแลกซ์ขึ้น ชีวิตมันโล่งกว่าเดิม
ยกตัวอย่าง ผมเคยมีความคิดว่า ตอนเข้าฉาก เราต้องเล่นแบบนี้ๆ แล้วพอมันทำไม่ได้ ก็มานั่งโทษตัวเอง ทำไมเราห่วยจัง เราไม่เก่งเลยเหรอ เพราะผมเคยไม่มั่นใจในการแสดงออก แต่พอสุดท้ายเรารู้จักการยืดหยุ่น Hope for the best, prepare for the last มันก็สบายขึ้น โล่งขึ้น"
...
วันที่ให้สัมภาษณ์นายมีอายุ 25 ปีบริบูรณ์ นับถึงช่วงเวลาที่เข้าวงการก็ประมาณ 5 ปี หมายถึงช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ต้องเรียน ทำงานและใช้ชีวิตกับเพื่อนของณภัทร เสียงสมบุญ หายไปหรือไม่?
"เวลาไปพักผ่อน ผมก็เต็มที่ที่สุดนะ มีเวลาแฮงเอาต์กับเพื่อนๆ นะ แต่ผมเป็นคนบ้างาน ชอบทำงานมาก ซึ่งผมไม่ได้รู้สึกว่าขาดช่วงชีวิตวัยรุ่นไปนะ ไม่ได้อิจฉาอะไรเพื่อนๆ หรอก (ยิ้ม)
เรียกว่าผมมีความรับผิดชอบมากแล้วกัน ผมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แต่การที่ผมต้องร่วมงานกับกองละคร ออกกองละคร มีคนอีกเป็นร้อยชีวิตที่ทำงานด้วย ผมก็ต้องมีความรับผิดชอบ รู้หน้าที่ของตัวเองตลอด ถ้าพรุ่งนี้เราทำงาน คืนนี้เราก็ไม่สามารถออกไปเที่ยวได้ แม้บางทีจองตั๋วไปเที่ยวต่างประเทศไว้ มีงานมีโอกาสที่ท้าทายเข้ามา เราก็ต้องเลือกหน้าที่ของเราไว้ก่อน
แต่การไปผับไปเที่ยวกลางคืน ผมไม่ไปนะ ผมไม่ชอบอารมณ์นั้น เป็นคนเต้นห่วยมาก (หัวเราะ)"
ชมคลิปเพิ่มเติม
...