วินาทีแรกที่ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของ 'ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา' ผู้จัดละครชื่อดังของเมืองไทย ภาพที่นึกคือความยิ่งใหญ่อลังการเหมือนละครแต่ละเรื่องการันตีด้วยวลี อลังการดาวล้านดวง แต่สิ่งที่พบกลับผิดคาด

ห้องทำงานของผู้สร้างสรรค์ละครมากกว่าร้อยเรื่องมีเพียงโต๊ะขนาดใหญ่ เอกสาร และหนังสือเป็นร้อยๆ พันๆ เล่ม สิ่งเหล่านี้บ่งบอกตัวตนความเอาจริงเอาจังในการทำงานของพี่ไก่ ซึ่งถ่ายทอดชัดเจนในบทสัมภาษณ์กับทีม Thairath Talk ในครั้งนี้

สัมผัสความจริงใจไม่กลัวดราม่า เล่าจริง กัดเจ็บแน่ EP.นี้ ห้ามพลาด! 

‘ไม่เคยเฟก’ นี่ตัวตนพี่

Thairath Talk : ก่อนมาสัมภาษณ์พี่ไก่บอกว่า ต้องดูฤกษ์ยามก่อนมาคุยกัน

ไม่ใช่อะไร ถ้าวันไหนหงุดหงิดเรื่องงาน พี่ก็ไม่อยากจะคุยกับใคร แต่วันนี้อารมณ์ดีปลอดโปร่ง เพราะเวลาพี่คุยอะไรพี่ไม่ Fake ทุกอย่างออกมาจากตัวตนตัวจริงของพี่ ทุกสิ่งที่พี่พูดออกจากปากแล้วก็ไม่เคยกลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ฉะนั้นวันไหนอารมณ์ดี ก็จะพูดแต่สิ่งดีๆ

...

Thairath Talk : วรายุฑกับอายุ 65 ปีแล้ว แต่พี่ไก่ยังกลัดคำว่ายังหนุ่มยังสาวอยู่เสมอ เพราะอะไรครับ

อย่าไปพูดถึงอายุค่ะ มันเป็นเพียงตัวเลข (ยิ้ม) เพราะพี่ Never Die ใครจะฆ่าก็ได้แต่ไม่ตายค่ะ แมว 9 ชีวิต ถ้าว่าแก่ไหม ไม่แก่ไม่ยอมแก่ ไม่รับความแก่ เรามีความสุขแค่ไหน เราก็หยุดอายุไว้แค่นั้น พี่หยุดอายุตอนที่มีความสุขก็ตอน 48 ปี ยิ่งอยู่ยิ่งอ่อนกว่าหนูแล้วนะ (หัวเราะ) มันอยู่ที่เราเอง เราทำตัวมีความสุขกับหน้าตา กับอะไรทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ใช่แก่แล้วต้องแก่ตามอายุ

Thairath Talk : ความเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่ได้วัดกันที่อายุ วัดกันที่ความคิดและสมอง

พี่ไม่ใช่คนรุ่นใหม่ พี่ยอมรับ พี่เป็นคนรุ่นเก่าที่พยายามศึกษาคนรุ่นใหม่ เพราะต้องทำงานกับคนรุ่นใหม่ พวกโซเชียลเน็ตเวิร์กหรืออะไรต่างๆ ถึงเราไม่เก่ง แค่รู้ก็ยังดี

เด็กช่างศิลป์ - ผู้จัดละคร

Thairath Talk : จุดเปลี่ยนของไก่ วรายุฑ ก็คือครูเล็ก

ครูเล็ก ภัทราวดีคือคนให้ชีวิตใหม่กับการเข้าสู่วงการบันเทิงของไก่ วรายุฑ จนอยู่มาถึงทุกวันนี้ เริ่มต้นจากพี่เรียนช่างศิลป์ไปฝึกงานที่กองละครของแก ครูเล็กหาคนมาเล่นละครเป็นตัวประกอบ ตอนนั้นพี่ปลื้มมาก

จากนั้นพี่ไปเรียนต่อ แล้วมาทำงานที่โรงแรมมณเฑียรเป็นกราฟิกดีไซน์ พอมีโอกาสได้มาทำงานกับคุณเล็ก ภัทราวดี ก็ลาออกเลยทันทีโดยไม่รับเงินเดือนเลยด้วยซ้ำ

2 วันแรกครูเล็กให้เรานั่งดูคนอื่นทำงาน จนวันที่ 3 เราต้องจัดฉากให้รับกับคาแรกเตอร์ตัวละคร หลังจากนั้นเริ่มจัดพรอพ เป็นผู้ช่วยครูเล็ก ศึกษาบท จัดเสื้อผ้า แต่งหน้าให้ดารา เลยรู้ทุกองค์ประกอบของการทำละคร

Thairath Talk : ครูเล็กสำหรับพี่ไก่ เปรียบเหมือนอะไรครับ

พี่เรียกครูเล็กว่าพระอาจารย์ ผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับการเรียนรู้ของเรา เพราะถ้าเราทำแล้วไม่มีใครบอกว่าอันไหนดีหรือไม่ดี เราได้พัฒนาตัวเองจากคำติ ได้รับความรู้แบบไม่มีกรอบ และยึดคาถาครูเล็ก “ไม่ได้ต้องได้ ไม่ได้ ไม่ได้” ไม่มีอะไรที่เราจะไม่ได้ ถ้าเราลองทำแล้ว อย่างน้อยต้องได้ ถ้าไม่ทำ มันก็จะไม่ได้


รสนิยมละคร 2020

Thairath Talk : ผมโตมาในยุคที่ละครมันหรูหรา ฟู่ฟ่ามาก มันเป็นอย่างไรบ้างครับละครในอดีต

สมัยก่อนช่องทีวีมันไม่เยอะ และคนทำละครก็มีไม่กี่ช่องเอง เพราะฉะนั้นคนดูโทรทัศน์มันคือปัจจัยชีวิต เป็นความบันเทิงเพียงหนึ่งเดียวที่มีในยุคสมัยนั้น เลือกดูได้ 3-4 ช่อง และเป็นเวลาที่ทุกคนในครอบครัวใช้เวลาร่วมกันหน้าทีวี

...

แล้วเด็กที่ดูทีวีกับผู้ใหญ่ เด็กเหล่านี้จะเป็นเด็กที่เก่ง เพราะอะไรที่ไม่รู้เขาก็จะถาม หรือผู้ใหญ่ก็จะสอนไปด้วยดูไปด้วย เด็กก็เลยได้รับความรู้ไปโดยไม่รู้ตัว ได้รับสิ่งที่ดีๆ เช่นในละครยิงกัน แปลว่าเราไปยิงไม่ได้นะ ถูกตำรวจจับเห็นไหม แต่ในยุคสมัยนี้ ไม่ได้อยู่ร่วมกัน เสพสื่อกันส่วนตัว ตีความในแบบที่เขาต้องการด้วยตัวเอง ไม่มีใครชี้แนะ

Thairath Talk : เสน่ห์ของวงการบันเทิง อยู่มายาวนานกว่า 30 ปี

หลง เพราะรักมัน มันเป็นการเรียนรู้ไม่รู้จักจบ ละครเรื่องนึงเรานับ 1-10 ใหม่ เริ่มต้นจากศูนย์ใหม่ทุกครั้ง การอัดเทป ออกอากาศนับหนึ่งใหม่ตลอด ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จจากเรื่องที่แล้วแค่ไหนก็ตาม อย่าเอาความสำเร็จในยุคนั้นมาเปรียบกับยุคนี้

Thairath Talk : มาสเตอร์พีซสำหรับ ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา

พี่ไม่เคยมีมาสเตอร์พีซ อย่างเรื่องสี่แผ่นดิน ก็เป็นละครที่ดีที่สุดสำหรับละครแนวพีเรียดของพี่ เรื่องอื่นๆ อย่าง ในฝัน ทะเลเลือด ปริศนา ตามหัวใจไปสุดหล้า ทรายสีเพลิง รักเดียวของเจนจิรา ล้วนเป็นละครที่พี่ชอบหมด คือแต่ละยุคแต่ละสมัย ละครมันพีคขึ้นลงไม่เท่ากัน อย่างที่แล้วๆ มา คนชอบเยอะ เพราะช่องทีวีมันน้อย แต่ตอนนี้ช่องมันเยอะขึ้น เราก็ต้องหาสิ่งที่แปลกและใหม่

Thairath Talk : ตอนนี้รสนิยม คนชอบละครสไตล์ไหน

เป็นละครที่เขาสนุกไปด้วย ไม่ได้หมายความเป็นละครตลกเละเทะนะ มันต้องมีหลายๆ รสอยู่ในเรื่องเดียวกัน พี่ก็ไม่ใช่เจ้าพ่อเจ้าแม่ละคร แต่เราต้องสรรหาสิ่งที่คนดูมีความสุขและสนุกไปกับเรา นี่แหละสิ่งที่เดาใจยากมากในยุคนี้

...

Thairath Talk : เสียใจไหมครับ ที่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป

ไม่เสียใจ มันเป็นเรื่องปกติ เป็นวัฏจักร มันอยู่ที่ความนิยมชมชอบของแต่ละคน อย่างสมัยนี้คนดูละครวาย ก็จิ้นกันเพราะมันสนุก

Thairath Talk : ละครไทยจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน พัฒนาขึ้นไหม

พัฒนาขึ้นมากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำ การแสดง ฉาก แสง สี เสียง พัฒนาขึ้นตามพ.ศ. ไม่อยู่นิ่ง ใครอยู่นิ่งเท่ากับเชย เราต้องก้าวให้ทันมาตรฐาน แต่ไม่รู้ว่าอะไรคือมาตรฐาน อะไรที่ทำออกมาแล้วดี ถามพี่ว่าอะไรคือมาตรฐานของละคร พี่ตอบไม่ได้ พี่สามารถตอบได้แค่ว่า พี่ทำได้ดีที่สุดในทุกเรื่องที่พี่ทำละคร เพราะพี่รัก

ละครบาดแผล
ดั่งดวงหฤทัย

Thairath Talk : มีละครเรื่องไหนที่เป็นบาดแผล อยากกลับไปแก้ไขไหมครับ

มีสิ สิ่งที่เราทำเองไม่ได้ เช่น CG (Computer Graphic) เรื่องดั่งดวงหฤทัย โดนคนกรีดแล้ว เอาน้ำเกลือมาราดซ้ำ เพราะเราเสียเงินเท่ากับทุกคนเสียเท่ากับทุกคนทำ CG แต่เราได้ไม่เท่ากับทุกคนได้ในการทำ CG ยังเจ็บปวดจนถึงทุกวันนี้ ถือว่าเป็นบาดแผลที่สุดในการทำละคร

...

ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของดิฉันเลย ดิฉันไม่ได้ทำ CG ดิฉันทำไม่เป็น ค่าจ้างเป็นหลายล้านเลย แต่มือดีจริงๆ ของประเทศนี้ ในเวลานั้นเขารับงานละครอยู่ 2 เรื่องเลยรับงานเราไม่ได้ เราเลยต้องเอาคนที่เก่งในช่วงนั้นที่เหลืออยู่มาทำ แล้วเพื่อนหรือผู้ใหญ่บางคนบอกพี่ว่า คุณไก่ ถ้าไม่ใส่ CG ในฉากพวกนี้ คุณไก่ก็จะไม่ถูกด่า ถ้าตัดทิ้งไปก็ไม่เป็นบาดแผลเลย แต่ใจเราเองอยากให้สิ่งที่ชีวิตนี้เขาไม่เคยเห็น เป็นความผิดของตัวเราเองที่มีความต้องการมากกว่าละครที่เขาจะดู ต้องด่าใคร ไม่ด่าใคร ด่าตัวเอง คนทำ CG เขาไม่รองรับจินตนาการของเรา เขาทำไม่ได้

ละครเรื่องนี้เป็นละครประวัติศาสตร์ของพี่ แต่มันก็ทำร้ายชีวิตพี่ไปส่วนนึง ช่วงนั้นละเมอเพ้อพกไปเลยช่วงนี้ หลายคนมาปลอบว่ามันไม่ใช่ความผิดเรา แต่ไก่เดือดร้อนกับคนที่มันไม่รู้แล้วมันมาด่าไก่ มาด่าแล้วก็ไปเลย พี่จ้างคนให้ตามโซเชียลมีเดียที่มาด่าพี่ พวกที่เกิดมาเพื่อจะด่าพี่ ด่าซ้ำแล้วซ้ำอีก เรียกมานั่งคุยกัน แต่ก็ตามหาไม่เจอ

Thairath Talk : อยากบอกอะไรกับเขาครับ ฝากทาง Thairath Talk ได้ครับ

คนที่ด่าพี่นะคะ ในเรื่องดั่งดวงหฤทัย ที่ทำ CG มาคุยกัน เพราะดิฉันไม่ได้ทำเอง แต่ตอนนี้มือหนึ่งของเมืองไทยว่างแล้ว พี่เอา CG ที่เสียๆ ไปให้เขาทำใหม่ ตอนนี้จะเป็น CG ใหม่หมด แล้วอัปลง YouTube แล้วก็ช่วยแหกตาดูด้วย ว่าฉันแก้แล้ว ชมกันบ้าง อย่าด่าอย่างเดียว เดี๋ยวจะติดเป็นนิสัยว่าเจออะไรก็ด่าๆๆๆ จะมาหาที่ออฟฟิศก็ได้ ด่ากันขนาดนี้ จะตบกันก็ได้ แต่ต้องมีเหตุผลนะ ไม่งั้นกูตบกลับ (ยิ้ม)

แรง! เรื่องจริง
แมท-ริชชี่

Thairath Talk : ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ที่นางเอกของเรื่อง แมท ภีรนีย์ โดนแฟนคลับแอนตี้หลังโพสต์ภาพคู่กับแฟนหนุ่ม จนเรตติ้งละครตก พี่ไก่มีปัญหากับแมทไหมครับ

ไม่ขัดแย้ง เขาทำให้ตกเอง มันคือละครเขา ก็เสียดายนะ ช่องก็รู้ ละครเราก็สนุกนะ แต่อย่างที่บอกโซเชียลมีเดียมันฆ่าคนได้โดยไม่รู้ตัว

Thairath Talk : แล้วถ้าไม่มีกรณีนี้ ละครจะเป็นอย่างไร

ก็จะเดินหน้า ทุกคนจะชื่นชมกับละคร แต่พี่ไม่ได้คุยกับแมทเลย ไม่ได้ขัดแย้ง เจอหน้าก็ปกติ ไม่ได้ต่อว่าน้อง เพราะนั่นคือชีวิตของน้อง เพราะไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างที่เล่นละคร พอละครจบค่อยมีประเด็นขึ้นมา

Thairath Talk : แล้วพี่ไก่จะมีละครเป็นแมทอีกไหมครับ

ตอนนี้เขากล้ามาเล่นไหมล่ะ (หัวเราะ)

Thairath Talk : อยากบอกอะไรน้องเขาไหมครับ

หนูแมท ไม่ต้องห่วงนะคะชีวิตเป็นของเรา ทำอะไรก็ให้ตัวเรามีความสุข ทำไปเถอะค่ะ คนอื่นไม่ได้อยู่ในชีวิตเราเลย

Thairath Talk : แล้วประเด็นริชชี่ จากละคร ซ่อนเงารัก ประเด็นน้องเรื่องมากและเรื่องเปลี่ยนตัวละครกลางอากาศ

เอาทีละเรื่องนะ การเปลี่ยนตัวละคร เพราะบทละครเขาบอกมาแบบนั้น นางเอกเจอไฟไหม้หน้าแล้วหน้าแหกแล้วไปทำศัลยกรรมมา

Thairath Talk : ไม่ใช่เพราะว่าน้องเรี่องมากนะ

เรื่องมากส่วนเรื่องมาก เป็นอีกเรื่องนึง แต่เรื่องเปลี่ยนตัวละคร พี่ไม่สามารถเปลี่ยนตัวละครได้กลางอากาศ ช่อง 3 จะกระทืบพี่ไหมถ้าไม่เสนอว่าตัวละครเจอไฟไหม้จนต้องศัลยกรรมเปลี่ยนหน้า ตามในบทละคร นวนิยายก็เป็นแบบนี้ ซึ่งน้องก็ทราบดี

Thairath Talk : แล้วใครเป็นคนออกข่าวล่ะ

พวกสื่อมวลชนได้คุยกันแล้วว่าพี่ไม่เคยพูด ริชชี่ก็ไม่เคยด่าพี่ ฉะนั้นเราไม่เคยทะเลาะ คนที่ทำให้เกิดเรื่องคือ แฟนคลับของริชชี่ เพราะเขารักริชชี่ ตัวละคร เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ เราเปลี่ยนตัวละคร ทำไมไม่มาขอบทดิฉันอ่านล่ะคะ แล้วคุณจะได้รู้ว่าบทเขาเขียนไว้ว่ายังไง

Thairath Talk : ประเด็นเรื่องมากล่ะ

เรื่องวิกผม ทุกคนเป็นเราไม่ได้ว่าอะไร การใส่วิกทั้งวัน เหมือนรัดหนังยาง ใส่ทั้งวันมันจะเป็นรอย น้องเขานึกว่าเป็นแผลกดทับ พี่ก็เลยเอาหมอที่โรงพยาบาลมาดู และผู้เชี่ยวชาญด้านวิกผม มันไม่ใช่แผลกดทับ มันคืออีลาสติกเพื่อให้วิกมันอยู่ ไม่หลุด

Thairath Talk : ถ้ามีโอกาสทำละครเรื่องใหม่

เขาไปอยู่ช่องอื่นแล้วค่ะ ช่อง 3 คงไม่รับแล้ว แต่ถ้ายังอยู่ก็จะเอามาเล่น

Thairath Talk : คงอยากร่วมงานอยู่

ไม่ได้อยาก แต่บทตรง ถ้าบทบอกบทตรงก็เอามาเล่น

อีอ๊อด

จุดเปลี่ยนชีวิต 'วรายุฑ'

Thairath Talk : ละครที่เปลี่ยนชีวิตของพี่ไก่ คือบทบาทอีอ๊อด ในเรื่องดงมนุษย์และสงครามพิศวาส

ตอนนั้นพี่มีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่ แล้วไปเล่นละครเรื่องสงครามพิศวาส มันดังมาก จดหมายจากแฟนคลับไม่ใช่มาเป็นกองนะ มาเป็นเข่ง คนชื่นชมกันทั้งประเทศ ไปไหนใครก็เรียกเราว่า ‘อีอ๊อด’ ปลาบปลื้มใจมาก เพราะเวลาใครชมอะไรมันดีใจ ใครๆ ก็ชมว่าเราสวย

และสมัยก่อนมันมีฟุตบอลประเพณี เราแต่งตัวเป็นนักฟุตบอลหญิง ใส่วิก เพื่อจะเตะบอลกับเขา รู้สึกปลื้มใจได้ทำอะไรที่ผู้ชายทำไม่ได้แต่ฉันทำได้ ฉันยืนในกลุ่มผู้หญิงแต่ฉันเป็นผู้ชาย และสวยกว่าผู้หญิงบางคนด้วย

ผู้ชายก็เริ่มเข้ามาจีบ เริ่มเอาของมาให้ จนเรารู้สึกว่า เวลาเราเป็นผู้ชายไม่เห็นได้อะไรเลย มีแต่ให้เขา ไปเที่ยวกันก็ต้องไปส่งแฟนกลับบ้านแล้วเรากลับบ้านคนเดียว แต่พอตอนเราเป็นผู้หญิง ทำอะไรก็มีคนมารับมาส่ง เปิดประตูให้ มันเลยเป็นคล้ายคำพิพากษา สวรรค์เขากำหนดมาแล้ว ชีวิตพี่ตอนนั้นเหมือนกระดาษทิชชู น้ำมันค่อยๆ ซึมจนเต็มแผ่น จนกลายมาเป็นแบบนี้

Thairath Talk : พอเล่นละคร 2 เรื่องนี้ ชีวิตสวิตช์จากชายมาเป็นหญิงได้อย่างไร

พี่ไม่ได้เปลี่ยนในข้ามคืนนะคะ ใช้เวลาเป็นปีนะ พอหลังจากเล่นสงครามพิศวาส พี่ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองมหาชนฝ่ายชายยอดเยี่ยม พอหลังจากนั้นก็มีภาพยนตร์มาติดต่อ เล่นเป็นนางเอก จนพระเอกในสมัยนั้นผ่านมือพี่มาหมดในหนัง มันเลยเหลิง แต่งตัวเป็นผู้หญิง ทุกงานต้องมี ไก่ วรายุฑ และตอนนั้นมีกะเทยน้อยที่จะแต่งหญิง ในยุคนั้นมีวรายุฑคนเดียวที่แต่งแบบนี้ และมันถูกตาต้องใจคนอื่นเขา มันเลยทำให้เราภูมิใจ เรียกว่ากู่ไม่กลับเลย นี่แหละจุดเปลี่ยนที่เปลี่ยนเพศสภาพ และชอบผู้ชายด้วย เพราะผู้ชายมาชอบก่อน

Thairath Talk : ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ พี่ไก่อยากจะแก้ไขไหมครับ

ไม่แก้ เป็นแบบนี้ดีแล้ว พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เคยเสียใจที่ตัวเองเป็นแบบนี้ เป็นจุดเปลี่ยนที่ดีที่สุดของชีวิตตัวเอง

เบื้องหลังโค่น บี๋ อริยะ 


Thairath Talk : กรณีพี่บี๋ อริยะ ที่มีข่าวลือว่า เขาลาออกเพราะพี่ไก่มีส่วน

นี่ยิ้มเลยนะ เพราะนี่กูใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ (หัวเราะ) เขาเข้ามาช่อง 3 ในฐานะ President ตำแหน่งแรกในประวัติศาสตร์ และตำแหน่งใหญ่กว่าพี่ แล้ววรายุฑเป็นแค่ผู้จัดละคร สามารถเอา President ออกได้ไหม

Thairath Talk : ผมถามตรงๆ พี่ไก่มีส่วนให้เขาออกไหม

ไม่มีส่วน (เสียงสูง) เขาพิจารณาตัวเขาเองนั่นแหละว่างานนี้ไม่เหมาะกับเขา เพราะเขาอยู่มาปีนึงแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่มันทำให้ช่อง 3 ดีขึ้นหรือร่ำรวยขึ้น ก็ปกติ เขาคงคิดว่าทำกับองค์กรนี้ไม่ได้แล้ว มันไม่เหมาะกับเขามากกว่า

Thairath Talk : แล้วที่ลูกน้องเขามาโพสต์ว่าละครของพี่ไก่

เขาไม่มีส่วนอะไรกับละคร เขาไม่ได้ดูละคร เขาเป็นฝรั่งอะนะ เลยไม่รู้จักละคร ซึ่งตอนนั้นเคยมีข่าวว่า เขาสั่งให้พี่แก้ CG ในละครดั่งดวงหฤทัย ซึ่งเขาไม่เคยดูละครของพี่เลย เขาจะมาสั่งให้พี่แก้ได้อย่างไร มันไม่ใช่เรื่องจริง

Thairath Talk : สรุปคือเราไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลในช่อง 3 ที่สามารถโค่นใครในช่องได้

ทุกวันนี้ละครของวรายุฑที่ไม่อนุมัติก็มีเหมือนกันนะคะ 30 เรื่องไม่อนุมัติเลยก็มีนะ แล้วจะมีอิทธิพลอะไรล่ะ พี่ไม่ใช่พนักงานช่อง 3 พี่เป็นเพียงผู้จัดละคร แต่ทางนั้นเขามีสิทธิ์ที่จะไม่ให้พี่จัดละครได้.