เรียนไม่จบ ไม่เอาถ่าน ใช้เงินไม่เป็น ภาพลักษณ์ที่สังคมตราหน้าดาราหนุ่ม แน็ก ชาลี ปอทเจส และเขาเองก็ไม่สนใจที่จะปฏิเสธมัน วันนี้เราจะได้รู้แล้วว่าทำไม ซึ่งกว่าที่ Thairath Talk จะได้คิวสัมภาษณ์ดาราอินดี้ผู้นี้ก็หืดขึ้นคอ ข้ออ้างเดียวที่ทุกคนคงได้ยินแล้ว นั่นก็คือ "ชาลีไม่ทำงาน"
แต่ความพยายามของทีมงานเราก็ประสบผลสำเร็จ ชาลียอมใจอ่อน ปรากฏตัวแบบสบายๆ ด้วยเสื้อยืดสีสันสดใส ผมสวยเป็นลอนราวกับผ่านฝีมือช่าง และรอยยิ้มทรงเสน่ห์เหมือนดาราเด็กเมื่อ 16 ปีก่อน พร้อมคำตอบที่ชวนให้อึ้ง เหตุผลที่เขาไม่ทำงาน ทำไมไม่อยากเรียน อายุ 26 ปียังคิดไม่ได้อีกหรือ เสพให้จบแล้วคุณจะเข้าใจวลี "ใครติสต์ใครเซอร์ เจอชาลีแล้วหรือยัง"
โปรดใช้วิจารณญาณรับชม.
ปรากฏการณ์ 'ชาลี'
Thairath Talk : รู้สึกอย่างไรกับปรากฏการณ์ชาลี มันสะท้อนอะไรบ้าง
จริงๆ ผมแปลกใจเรื่องนึง คนชอบเราที่อะไร แต่ก่อนคนเกลียดผมเยอะมาก น่าจะแบบผมพูดไม่รู้เรื่อง แบบเสียงผมว้องแว้ง คนมองผมเป็นเด็กไม่ดี ผมพูดตรงๆ เลยนะใครมองผมดีหรือไม่ดี ผมก็ดีใจนะแต่ผมก็ไม่ได้ดีใจที่ได้งาน คนอื่นอาจจะรับหมดแล้ว หรือไปสัมภาษณ์ที่ไหนเลย เพราะกระแส ผมจะพูดกับทุกที่ ให้มันพ้นกระแสก่อน ถ้ากระแสหมดคนยังมาหาผม แสดงว่าคุณน่ารักนะ
จริงๆ การเป็นแบบนี้มันเสี่ยงมากนะ แต่ผมไม่แคร์ตอนนี้มาก จริงๆ ไอจีเฟซบุ๊กผมก็ลงแบบนี้อยู่แล้ว แต่คนเพิ่งมาเห็นเรา แต่สิ่งที่ผมชอบที่สุด ไม่อยากให้หายไปนะ คือคนดูเราแล้วมีความสุข คนมาคอมเมนต์แล้วมีความสุข เลือกรับรีวิวแล้วเหมาะกับเราจริงๆ คนไม่ว่าไม่เกลียด เลือกให้คนสนุกกับเรายาวๆ ดีกว่า
...
Thairath Talk : ความสุขสำหรับคนดูมีค่าแค่ไหนสำหรับชาลี
เยอะมาก คนชอบที่เราตลก ดูเราแล้วขำ สำคัญที่สุดเลย หลายคนส่งอินบ็อกซ์มาหาผม บางคนอยากตาย บอกว่าอินตาแกรมของเราช่วยให้เขาหายเครียด มันอาจจะเว่อร์ แต่มันก็มีสิทธิ์นะ บางคนเครียดเป็นโรคซึมเศร้า แต่พอดูเราเสร็จ ขำก๊าก สำลักข้าวสำลักน้ำ
เรียนไม่จบ ‘อย่าเข้าข้างผม’
Thairath Talk : ตอนเด็กๆ ฝันอยากเป็นอะไรครับ
อยากเป็นนักบิน ผมชอบเครื่องบินตั้งแต่จำความไม่ได้ ชอบรถ ชอบเครื่องบิน ชอบความเร็ว ชีวิตผมคลุกคลีอยู่กับการบินมาตลอด เป็นสิ่งเดียวที่ไม่เคยพูด คำว่านักบินของผมคืออยากบินผาดโผน ถ้าผมว่างก็จะไปขับเครื่องบินเล่น จริงๆ ผมมีกีฬาที่ชอบเยอะอยู่แล้ว แต่แค่ผมไม่ค่อยพูด
Thairath Talk : ครอบครัวเลี้ยงแน็กมาแบบไหน
เลี้ยงมาแบบโชกโชน ผมไม่ชอบให้ใครโอ๋ผม เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่ให้ใครยุ่ง ลุยและเล่นกีฬาหนักมาก ผมไม่ใช่ลูกคุณหนู สิ่งที่เขาขออย่างเดียวคือ อยากให้เรียนจบมหาวิทยาลัย แต่เป็นสิ่งที่ผมทำไม่ได้ (หัวเราะ) เรียกว่าไม่ทำดีกว่า
"ผมมีพี่น้อง 6 คนนะ จบการศึกษาดีๆ จบปริญญาโท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมเป็นคนต่างจากพี่น้องดีครับ ผมไม่ได้เรื่องเรียนจริงๆ"
Thairath Talk : ถ้าวันนั้นไม่ได้เข้าวงการ จะเป็นชาลีที่อยู่ในไร่ในสวนหรือเรียนหนังสือตามครรลอง
ผมว่าถ้าผมไม่เข้าวงการ ผมเรียนจบ เรื่องจริงต้องยอมรับ ผมเรียนมหาวิทยาลัย 2 ที่ ผมเคยพยายามนะ เคยที่นึงผมตั้งใจเรียนมาก เรียนอยู่เกือบปี ก็ไม่ได้จริงๆ ลองใหม่อีกครั้ง ฝืนไม่ได้จริงๆ
Thairath Talk : เวลาเข้าเรียนหนังสือ มันอึดอัดหรือทักษะในการอยู่ในโรงเรียน มันไม่เหมาะกับเรา มันเป็นปัญหาที่ตัวเราหรือระบบการศึกษา
ผมว่าเป็นที่ตัวเรา เพราะถ้าเป็นที่ระบบการศึกษาเด็กเรียนไม่จบกันหมดแล้ว เพราะผมไม่ชอบ มีแต่วิชาพละที่ถนัด หนังสือน้อยเข้าใจเร็วกว่า วันๆ ผมตีลังกา มันสนุก ทำแล้วมีความสุข ยกเว้นลีลาศ อันนี้เกือบตายนะ ทรมานมาก (หัวเราะ)
...
Thairath Talk : เอาทุกอย่างยกเว้นเรียนหนังสือ ทำไมครับทั้งที่มันคืออนาคต เท่ากับความมั่นคง
จริงๆ ผมไม่เคยเข้าข้างตัวเอง หรือให้คนอื่นมาเข้าข้างผม ที่บอกว่าผมไม่เรียนแต่ผมทำงาน ผมไม่ดีใจกับคนที่เข้าข้างผมเลย มันไม่ได้ยังไงก็ต้องเรียนให้ได้ปริญญาก่อน แต่ความคิดของผม ผมไม่สนับสนุนให้คนไม่เรียนนะ แต่พอดีผมทำได้หลายอย่าง ผมมั่นใจตัวผมเอง สมมติผมเลิกทำงาน ผมไม่กลัว ผมรับทำดนตรีก็ได้ สนุกกว่าเยอะเลย เงินน้อยก็ทำได้ ไปรับจ้างร้องเพลงร้านกลางคืนก็ได้ ทำทุกวันเรื่อยๆ แค่นั้นก็พอแล้ว
19 ปี ภารกิจจบ
Thairath Talk : ความแปลกมันมีข้อดีไหมสำหรับชาลี
มันดีมาก ผมทำได้ทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรบนโลกที่ผมอยากทำแล้ว ผมทำมาตั้งแต่ 19 ปี อยากฝึกดำน้ำ ก็ดำน้ำมันทั้งชีวิต อยากใช้เงินให้หมดบ้านก็ทำมาแล้ว ผมไม่เคยกลัว แต่ที่บ้านผมชินแล้ว (หัวเราะ)
Thairath Talk : วิธีการคิดที่ไม่กลัวแบบนี้ เรามีแผนสำรองไว้ไหม
...
คนกลัวก็ทำไม่ได้หรอก มันไม่ใช่เรื่องที่สนับสนุนนะ แต่สำหรับผม ถ้าผมเลิกทำงาน ผมไปรับร้องเพลงกลางคืนก็ได้แล้ว เพราะผมเคยมีมาหมดแล้ว ผมผ่านจุดสูงสุดมาหมดแล้ว
Thairath Talk : ข้อดีของชีวิตอิสระ
มันเป็นอิสระมากเกินไป มันดีนะมีความสุขมาก ได้ทำทุกอย่างหมดแล้ว ผมเลยต้องหาอะไรหลายๆ อย่างทำ หาอะไรมาเลี้ยงเยอะๆ จะได้มีภาระ (ขำ) แต่ผมบอกตลอดนะ อย่ามาเครียดอย่าสนใจ
Thairath Talk : เวลาคุณมีปัญหา ปรึกษาใคร
ผมไม่ชอบปรึกษาคน ไม่เอาความพวกนี้ไปบอกคนอื่น ไม่อยากให้ใครเป็นห่วง อย่างเรื่องนี้ผมย้ำตลอดไม่ต้องสนใจมาก เพราะมันเป็นเรื่องตลกมาก ผมเอามันอยู่ สบายมาก
Thairath Talk : ใครติสต์ ใครเซอร์ เจอชาลีแล้วหรือยัง อย่างที่ซันนี่เคยพูด
อย่างผมไม่ใช่ติสต์เซอร์หรอก อย่างผมอาจจะเป็นเลือกงาน เราไม่ได้ต้องการมีเงินเยอะมาก เราอยากมีเงิน อยากรวย แต่ไม่ยอมแลกกับการทำงานเช้าเลิกดึก ขอเอาเวลานั้นไปลุยใช้ชีวิตดีกว่า
Thairath Talk : คุณไม่เป็นทาสของเงินใช่ไหม
...
ก็เป็นแหละ (หัวเราะ) เพราะมันก็ต้องใช้ แต่เฉพาะวันที่มันหมดจริงๆ เราก็จะกลับมาทำงาน ผมเลยบอกตรงนี้ว่าไม่ต้องห่วงผม คนด่าผมเยอะมาก ผมอายุ 26 ปีแล้ว ผมรู้ตัวทุกอย่างว่าเราควรจะเก็บเงิน แต่ผมมั่นใจว่าผมไม่กลัว ฟังคำผมไว้เลยนะ แม้วันนึงที่ผมพิการ ผมเป็นคนนึงนะที่ไม่เอาเงินบริจาค ใครให้เงินมา ผมก็ไม่เอานะ ผมมั่นใจมาก
Thairath Talk : ข้อดีของความทะนงตัวนี้มันคืออะไรครับ
ข้อดีของความทะนงมันก็จะเสียอะไรหลายๆ อย่าง (ขำ) รู้ไหมว่าผมไม่รับอะไรเลย ทั้งที่อยากรับอาหารสุนัข พรีเซ็นเตอร์ทุกยี่ห้อทักผมมาหมด หลายสิบล้าน แต่ผมไปตกลงกับที่นึงไว้แล้วแม้เป็นยี่ห้อที่ไม่ดัง
16 ปี ชีวิตวงการบันเทิง
Thairath Talk : ชาลีทำงานตั้งแต่ 9 ขวบ เป็นการทำงานที่เร็วไปไหม
ไม่เร็วไปหรอก มันคือความโชคดี โชคดีกว่าคนอื่นเยอะเลย เพราะเด็ก 9 ขวบที่ผมรู้จักไม่มีโอกาสแบบเรา ผมมีโทรศัพท์มือถือเครื่องแพงมากตั้งแต่ 9 ขวบ เรามีมอเตอร์ไซค์ขี่ตั้งแต่ขายังไม่ถึงเลย พ่อแม่ก็ห้ามไม่ได้เพราะมันเป็นเงินเรา
Thairath Talk : คุณเข้าวงการบันเทิงมาได้อย่างไร
ตอนนั้นเตะบอลอยู่กับเพื่อนที่โรงเรียน พี่ย้ง (ทรงยศ สุขมากอนันต์) กับพี่เดี่ยว (ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล) มาเจอเรา ขอเราถ่ายรูป ไปลองแต่งตัว แล้วก็ได้เล่นเลย
Thairath Talk : การแสดงสำหรับชาลีมันคืออะไร เมื่อมองย้อนกลับไป
ผมเรียกมันว่าอาชีพ พอเราอยากมีเงินใช้ อยากทำงาน มันคืออาชีพเรา แต่พอรับงานมาแล้ว ผมไม่เคยเกเร ไม่เคยพลาด ตั้งใจทำงานมาก
Thairath Talk : มีข้อเสียเมื่ออยู่ในวงการไหม อยู่วงการมา 16 ปี เพราะคงไม่ได้ใช้ชีวิตพื้นฐานแบบคนทั่วไป อยู่แต่ในกองถ่าย เช้าออกไปทำงาน
มีข้อเสียครับ ยิ่งเป็นคนนอนไม่ได้ มีข้อเสียหนักมาก ใครเห็นผมจะเห็นผมนอนที่กอง นัดผม 10 โมง ไปตี 5 ผมเป๊ะเวลามาก ผมเลิกงานดึกแค่ไหนกลับมาบ้านผมก็ไม่ได้นอน แล้วเดี๋ยวก็ต้องออกไปอีกแล้ว มันเหนื่อยมาก ทำให้สุขภาพผมแย่มาก
คือชีวิตผมนอนหลับยากมาก ผมตื่นตลอด 24 ชั่วโมง ไม่รู้เป็นเพราะอะไร มันทรมานตอนจะมาทำงานนี่แหละ (หัวเราะ) ช่วงตี 5 ผมจะขึ้นเตียงนอนละ แล้วหลับครึ่งชั่วโมงแล้วตื่นมาทำโน่นทำนี่ มันไม่ใช่โรคนะ น่าจะเป็นเพราะผมเคยออกกำลังกายหนักมาก แล้วตอนนี้ผมหยุดมัน เลยไม่รู้ว่าร่างกายผมต้องการอะไร มันตลกดีนะ (ยิ้ม)
Thairath Talk : 16 ปี ชีวิตการแสดงอะไรคือมาสเตอร์พีซ
ไม่มีเลยนะ การแสดงเฉยๆ มาก มันคืองานเลี้ยงชีวิตที่ผ่านมา แต่งานที่ชอบคือหนังยอมรับว่าชอบ กับเพลง ชอบมาก แต่ละครกับซีรีส์ไม่ไหว
Thairath Talk : หนังสำหรับชาลีที่เป็นมาสเตอร์พีซ
ถ้าชอบในการแสดง การแสดงผมชอบเด็กหอ เป็นการแสดงที่ทำให้เราได้ไปในหลายประเทศมาก ไปหลายที่มากทั้งปี
Thairath Talk : ย้อนกลับไปอยากแก้ไขอดีตเรื่องเกี่ยวกับการแสดงไหม
ถ้าเลือกได้ ขอดังตอนอายุ 17-18 ดีกว่า คงรวยมากเลย เงินมันต่างกันมากต่างตอนเด็ก ใครคิดว่านักแสดงเด็กตอนนั้นดังและรวย ไม่ได้รวยเลยนะ ตอนนั้นทำงานเรื่องหนึ่งทั้งปีเรื่องหนึ่งได้หกหมื่น เทียบกันไม่ได้ มันต่างกันมาก แต่ถ้าพอ 17-18 คงไม่มีงานหรอก แต่เราได้ทำงานตั้งแต่ 9 ขวบ
ติดยา? ถ้าทำก็สอนเด็กไม่ได้
Thairath Talk : ข้อดีของการอยู่ในวงการบันเทิงสำหรับเรา
ข้อเดียวเลยคือ มีโอกาสทำอย่างอื่นมากกว่าคนอื่น แค่นั้นเลย เพราะผมไม่เคยรับงานอีเวนต์ และผมไม่ชอบกินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และที่สำคัญผมชอบสอนเด็ก ถ้าผมทำไม่ได้ ผมก็สอนเด็กไม่ได้ ยิ่งยาเสพติดมั่นใจมากไม่เคยลองแม้แต่ครั้งเดียว แต่มีจำหน่ายไปเอาที่บ้านได้นะครับ (หัวเราะ) ไม่ใช่ๆ ไม่มี ตรวจได้ตลอด ไม่มีสารเสพติดในร่างกายผม
ไม่เสียดายที่ออกจากวงการ
Thairath Talk : การที่คุณตัดสินใจเดินออกจากวงการไปใช้ชีวิตบุปผาชน ณ วันนั้น เสียดายไหม
ไม่เสียดาย เพราะเหตุการณ์นี้เกิดกับผมเป็นสิบครั้งแล้ว ถ้าคนเสียดายแสดงว่าครั้งหน้าจะไม่ทำอีก ถ้าผมเสียดาย ผมไม่ทำรอบสองรอบสามแล้ว พอผมมีเงินแค่อยู่ ผมใช้เงินเยอะมาก โดยที่ไม่ได้อะไรเลย ยิ่งช่วงปล่อยกุ้งก็หมด ขนาดมีเงินเป็นล้าน ล่าสุดผมจะออกไปซื้อกุ้ง เหลือหมื่นห้าทั้งตัว สองอาทิตย์ใช้เงินไปล้านหก มันเป็นปกติของผมเลยผมชอบใช้เงินเยอะอยู่แล้ว ใช้เงินเละเทะอย่างนี้จริงๆ นะ แล้วเป็นคนใจดี ตอนมีเงินคือแบบไม่แคร์ แต่ก่อนผมอยู่กับปลา ผมก็หมดเงินเยอะ ผมใช้เงินอะไรไม่รู้ ผมตกใจเหมือนกันจนล่าสุดผมรู้สึกมันเหลือเงิน 14,000 บาท ผมตกใจมาก ผมพิมพ์บบอกเพื่อนทุกคน ฉิบหายแล้ว รีบเคลียร์ตัวเอง จัดการขายของได้ไหม
Thairath Talk : 16 ปีคุณหาเงินได้มากกว่า 10 ล้าน คุณใช้เงินหมดไหม
หมดครับ ตอนอายุ 23 ผมหาเงินได้เยอะมาก ผมเล่นหนัง ไม่ได้เล่นหนังอย่างเดียวเล่นละครด้วยปีนั้นเกือบสิบเรื่อง ใช้ทีเดียวก็ใช้หมดได้ มันเหมือนว่าเราทำงานๆ หมดงานทุกอย่างปุ๊บ ใช้ทีเดียวหมดเลย
Thairath Talk : ทำมาหาใช้ไม่ได้ทำมาหาเก็บ
ไม่เคยเก็บตังค์เลย เป็นคนเก็บตังค์ไม่ได้ ชอบซื้อของซำ้ เป็นโรคซื้อของซ้ำ เหมือนร่มอะร่มชูชีพ คนเราจะมีแค่อันเดียว แต่บ้านผมมี 5 อัน มอเตอร์ไซค์อะผมไม่ขี่นะ ผมซื้อมาเป็นสิบคัน ราคาต่อคันเป็นล้าน ห้าแสนบ้าง ผมขี่อยู่คันเดียว นอกนั้นผมซื้อมาให้เพื่อนขี่ อันนี้ลองไปถามเลย รปภ.ที่หมู่บ้านตอนที่ผมอยู่นะ ใครอยากเอารถผมไปขี่เอาไปขี่เลย เพื่อนผมเอาไปขี่เป็นปี ผมบอกเอาไปเลย ผมเป็นคนไม่หวงของ แล้วก็ใครอยากเอาไปถ่ายรูป เพื่อนนักแสดงนะ ผมให้หมดเลย ไม่เครียดเลย
Thairath Talk : เพราะเงินของคุณหามาง่าย
ไม่ใช่หาง่ายหรอก ผมก็เหนื่อยมาก แต่ว่าแบบเราสนุกกับการใช้ชีวิต ใครเอารถเราไปล้ม เราซ่อมเอง
Thairath Talk : หลังจากนั้นทยอยขาย
ทยอยขายเนื่องจากว่าผมเป็นคนหวงรถ ชอบเห็นรถมากกว่าบ้าน เราก็จะขายบ้านก่อน ผมไม่ตลกนะ พูดเหมือนตลก ผมกุมขมับกับแม่เลยนะ แม่ก็แบบเราจะขายหลังไหนก่อนดีน้า ก็ไปทำเรื่องขายกัน
ติดตามรายการ Thairath Talk ฉบับเต็มจันทร์นี้เวลา 18.00 น. ห้ามพลาด
ภาพจาก @Charlie Potjes