นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องสนช.คว่ำ พ.ร.ก.บริหารจัดการแรงงานต่างด้าว เหตุกระทบเศรษฐกิจประเทศจะแย่ไปกว่าเดิม นายจ้างไม่กล้าจ้างแรงงานต่างด้าวในภาคที่ขาดแคลน ทำให้งานล่าช้า
วันที่ 28 มิ.ย. นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว พ.ศ.2560 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า กฎหมายนี้ รัฐมีเจตนาที่จะทำให้แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยเข้าสู่ระบบ สามารถตรวจสอบได้ แต่ผลของการบังคับใช้โดยการเพิ่มบทลงโทษ โดยเฉพาะการปรับสูงสุดที่ 400,000-800,000 บาท ต่อแรงงานต่างด้าวหนึ่งคน จะยิ่งกระทบเศรษฐกิจให้แย่ไปกว่าเดิมอีก เมื่อเลือกวิธีการบังคับเพิ่มโทษให้นายจ้างถูกปรับแพงแบบหมดตัวเช่นนี้ โดยอ้างเรื่องความมั่นคงภายในและทางเศรษฐกิจมาเล่นงานประชาชนคนไทยของตัวเอง ทั้งที่นายจ้างคนไทยพยายามทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแต่ปัญหา คือ การจัดการหน่วยงานภาครัฐ กำลังคนที่มี และช่วงเวลาที่จำกัด ที่สำคัญ คือ การไร้ความรับผิดชอบของตัวแรงงานต่างด้าวเอง ที่เข้าสู่ระบบไม่ถึง 30% เมื่อบังคับใช้เช่นนี้ ผลกระทบที่ตามมา คือ คนไม่มีทำงานในทุกสาขาอาชีพที่ต้องการแรงงาน ทั้งเกษตรกรรม รับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ โรงงานขนาดกลาง ที่ต้องใช้แรงงานต่างด้าวจะไม่กล้าจ้างแรงงานต่างด้าว จะทำให้กำลังการผลิตลดน้อยลง งานล่าช้ากว่ากำหนด แถมเพิ่มต้นทุนของผู้ประกอบการทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ ตนเห็นว่า แทนที่รัฐจะเลือกใช้วิธีบังคับใช้กฎหมายฉบับเดิมให้ได้ผลในการปฏิบัติในการเข้าระบบให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยตกต่ำ ประชาชนเดือดร้อน ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ หากยิ่งมาเจอสถานการณ์แรงงานต่างด้าวเช่นนี้อีก จะเป็นการซ้ำเติมคนไทยด้วยกันเอง จึงขอเรียกร้องถึง สนช.ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทน ส.ส. และกินเงินเดือนภาษีอากรของประชาชน ขอให้คว่ำกฎหมาย พ.ร.ก. ฉบับนี้ เพื่อลดความเดือดร้อนของคนไทยตามอำนาจหน้าที่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ขอให้ท่านเปลี่ยนจากรับใช้ คสช.มารับใช้ประชาชนบ้าง
...