ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 มี.ค.60 ปิดที่ 1,543.15 จุด เพิ่มขึ้น 7.64 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 49,875.34 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,981.65 ล้านบาท
หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด GL ปิด 23 บาท บวก 5.30 บาท, PTT ปิด 397 บาท บวก 3 บาท, SCC ปิด 528 บาท ลบ 6 บาท, KBANK ปิด 190 บาท บวก 1 บาท และ PTTGC ปิด 74 บาท บวก 1.75 บาท
บล.เคที ซีมิโก้ ชี้หุ้นไทยรีบาวน์ทางเทคนิค ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน เชื่อว่านักลงทุนตอบรับข่าวที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมกลางสัปดาห์นี้ ไประดับหนึ่งแล้ว การรีบาวน์กลับของตลาดรอบนี้จึงเป็นแรงซื้อหุ้นกลางและเล็ก ส่วนหุ้นใหญ่ยังไม่ค่อยขยับ นักลงทุนยังระมัดระวังการลงทุน
มองทิศทางตลาดระยะสั้น คาดหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวน์ต่อ แต่ไม่น่าไปได้ไกล เพราะนักลงทุนพร้อมจะขายทำกำไรในจังหวะที่ดัชนีดีดตัวขึ้น ขณะที่แรงกดดันจากกระแสเงินทุนไหลออกสะท้อนจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง ขณะที่
มองว่าเงินทุนไม่น่าจะไหลออกมากนัก เพราะราคาหุ้นใหญ่ยังค่อนข้างทรงตัว
แนะกลยุทธ์ เก็งกำไรระยะสั้นหุ้นรายตัวที่มีข่าวมีปัจจัยหนุน ส่วนการซื้อเพื่อถือลงทุน ให้ชะลอการลงทุนจนกว่าจะรู้ผลประชุมเฟด ด้านเทคนิคให้แนวรับไว้ที่ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,548-1,560 จุด
ปิดท้าย โฟกัส GL ที่ผงกหัววิ่งขึ้นกลับมาชนซิลลิ่งได้ หลังผู้บริหารจัดงานแถลงชี้แจง โดย “มิทซึจิ โคโนชิตะ” ซีอีโอ เผยว่า บริษัทจะเรียกหลักประกันเพิ่มจากผู้กู้กลุ่มไซปรัส เพื่อให้หลักประกันครอบคลุมถึงจำนวนเงินที่ได้
ปล่อยกู้ไป โดยหลักประกันนี้ไม่รวมหุ้น GL ที่เดิมผู้กู้นำมาค้ำประกันด้วย
ส่วนกลุ่มผู้กู้สิงคโปร์นั้น บริษัทได้รับการันตีสินทรัพย์จากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทผู้ขอกู้ ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ของญี่ปุ่นและมีความน่าเชื่อถือเพราะมีสินทรัพย์จำนวนมาก
...
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้บริหารที่เทรดหุ้น หรือใช้กลไกทางวิศวกรรมการเงินอย่างที่มีข่าวลือ นอกจากนี้ ได้มีการแสดงรายได้และเงินได้จากการปล่อยกู้ให้กับกลุ่มผู้กู้ไซปรัสและสิงคโปร์ในงบการเงินของบริษัทมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 58 อีกทั้งทางผู้ถือหุ้นใหญ่และพันธมิตรของบริษัทได้แจ้งว่าช่วงที่ราคาหุ้นลดลงได้เก็บวอแรนต์ไปแล้ว 8.1 ล้านหน่วย และอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มได้อีกหรือไม่ ขณะที่บริษัทเองอาจพิจารณาเรื่องการซื้อหุ้นคืนเพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน
ส่วนการที่ราคาหุ้น GL ปรับลงครั้งนี้ ขอยอมรับว่าเป็นความผิดของตนเองและได้รับความเสียหายจากราคาหุ้นที่ลดลง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย!!
อินเด็กซ์ 51