ตร.นครปฐม ร่วมกับทหาร พล.ร.9 จับกุม 9 ชาวอินเดียมาเช่าบ้านประกอบอาชีพทั้งขายผ้า ขายสินค้าเงินผ่อน ปล่อยกู้ดอกเบี้ยสูง พบอยู่กันเป็นชุมชน บางคนเพิ่งมา บางคนอยู่มานานจนพาสปอร์ตขาดหลายปี เริ่มไต่เต้าจากแขกขายถั่วจนเป็นเศรษฐีเงินผ่อน...
วันที่ 10 มี.ค.60 ร.ต.อ.ชัยรัตน์ รักษ์ชุมคง รอง สวป.สภ.เมืองนครปฐม ร.ต.สุชาติ แสนประเสริฐ จ.ส.อ.มานพ เสียงเพราะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร มว.รส. ม.พัน 19 พล.ร.9 และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนครปฐม ได้ร่วมกันจับกุมต่างด้าวชาวอินเดียตั้งแก๊งปล่อยเงินกู้ ขายสินค้าเงินผ่อน หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าต่างด้าวกลุ่มนี้มาพักอาศัยในบริเวณห้องแถวไม่มีเลขที่ ถนนประปา-นาสร้าง ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบ
พบว่ามีชาวอินเดียมาพักอยู่จำนวนหลายคนตั้งเป็นชุมชน เมื่อเห็นตำรวจและทหาร ต่างตกใจวิ่งหลบหนีไปด้านหลังห้องเช่า ควบคุมตัวไว้ได้ 9 คน ทำการตรวจค้นภายในห้องเช่าพบสมุดบัญชีเงินกู้ บัญชีเงินผ่อนสินค้าจำนวนหลายเล่ม และเงินสดใส่ถุงพลาสติกไว้หลายถุง พร้อมเชิญตัวนายยาเด สัญชาติอินเดีย อายุ 25 ปี นายมายูรา สัญชาติอินเดีย อายุ 43 ปี 3.นายอาคัส สัญชาติอินเดีย อายุ 22 ปี นายราเมช สัญชาติอินเดีย อายุ 28 ปี และชาวอินเดียเป็นชายอีก 5 คน อายุระหว่าง 40-50 ปี มาสอบสวนที่ สภ.เมืองนครปฐม
ร.ต.สุชาติ แสนประเสริฐ หัวหน้าหน่วย มว.รส.ม.พัน 19 พล.ร.9 หัวหน้าชุดจับกุม เผยว่า ชาวบ้านได้มาแจ้งต่อหน่วยทหารว่ามีกลุ่มแก๊งต่างด้าวชาวอินเดีย รวมตัวกันอาศัยอยู่ในห้องเช่าในชุมชนประปานครนครปฐม ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงเกินที่กฎหมายกำหนด ร้อยละ 10 เก็บรายวัน และขายสินค้าเงินผ่อนเก็บรายวัน จึงประสานกับตำรวจและปกครองวางแผนเข้าทำการจับกุม จากการตรวจสอบยังพบว่า บางคนหนังสือเดินทางหมดอายุไปแล้วแต่ไม่มีการต่อวีซ่าในไทย และยังลักลอบปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดให้กับคนไทย บางคนเข้ามาในประเทศไทยโดยถือหนังสือเดินทาง เป็นนักท่องเที่ยว จากนั้นมาเป็นแขกเดินขายถั่ว ขายไอศกรีมรถเข็น ขายเสื้อผ้า เมื่อเริ่มมีเงินมากจะเปลี่ยนอาชีพมาเป็นขายของประเภทเงินผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วจะผันตัวมาเป็นปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยสูง
...
จากการสอบถามผู้เช่าคนไทยข้างห้องเล่าว่าพวกแขกอินเดียจะออกจากห้องไปแต่เช้าแล้วกลับเข้ามาอีกครั้งก็ในช่วงค่ำมืด มีสลับเปลี่ยนหน้ากันมาเรื่อย เท่าที่รู้ เช่าอยู่กัน 4 ห้อง เวลากลับมาก็จะมารวมตัวกันห้องเดียวก่อน สักพักจึงแยกย้ายกันกลับห้อง
ทั้งนี้ ตรวจพบว่ามี 4 คน พาสปอร์ตหมดอายุมาเป็นปี และไม่ได้ต่อ ส่วนอีก 5 คน นั้นเพิ่งเข้ามาประมาณ 1 เดือน พาสปอร์ตยังไม่หมดอายุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบว่ามีส่วนร่วมในการปล่อยกู้หรือมาค้าขายในเมืองไทยหรือไม่ ในเบื้องต้น ตั้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวได้รับใบอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยชั่วคราว โดยการอนุญาตสิ้นสุด และประกอบอาชีพโดยผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังตรวจสอบเอกสารที่ยึดมาหากพบว่ามีการปล่อยเงินกู้นอกระบบ คิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กำหนด จะดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป.