ศาลออกหมายจับ "กำนันเซี๊ยะ" อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เหตุเบี้ยวฟังฎีกาคดีบุกรุกที่ราชพัสดุนับพันไร่ และเลื่อนอ่านฎีกา เป็นวันที่ 18 เม.ย.นี้

ที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลอาญา วันนี้ 10 มี.ค.60 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ อายุ 74 ปี อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในความผิดฐานเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดิน หรือก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ในที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเนื้อที่เกินกว่า 50 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2555

บรรยายความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อต้นปี 2533 ถึงวันที่ 25 มี.ค. 2547 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยได้เข้าไปยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง เผาป่าปลูกพืชไร่ ให้บุคคลอื่นเช่าและใช้ประโยชน์ในที่ดินรวมจำนวน 299 ไร่ ในที่ดินราชพัสดุเลขทะเบียน กจ.209 หมู่ 12 ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี และที่ดินรวมจำนวน 900 ไร่ ในที่ดินราชพัสดุเลขทะเบียน กจ. 209 หมู่ 8 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องติดต่อกันทั้งหมดรวมจำนวน 1,199 ไร่ โดยมิได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่ ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และ ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เกี่ยวพันกัน ขอให้ศาลลงโทษตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 ทวิ และให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดิน

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2557 จำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ฐานกระทำผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 911 และ มาตรา 108 ทวิ วรรคหนึ่ง เข้าไปครอบครองที่ดินของรัฐ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุและเป็นที่ดินเพื่อสาธารณประโยชน์

...

ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ทวิ (1) (3) ให้จำคุก 4 ปี แต่คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง จึงลดโทษให้จำคุก 3 ปี

ต่อมาฝ่ายจำเลยยื่นฎีกา เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานที่นำสืบฟังได้ว่าจำเลยเข้าไปครอบครองที่ดินพิพาทดังกล่าวแล้วไปสร้างบ้านพักอาศัย โดยมอบหมายให้คนงานเข้าไปดูแล ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ยุติว่าจำเลยเป็นอดีตกำนัน รวมทั้งมีประกาศเรื่องที่ดินติดไว้ที่หน้าที่ว่าการอำเภอ จำเลยย่อมรู้ดีว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุซึ่งเป็นที่ดินของรัฐเป็นอย่างดี ที่จำเลยอ้างว่าเมื่อปี 2534 จำเลยไม่ทราบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุนั้นฟังไม่ขึ้น

ขณะที่ในวันนี้เมื่อถึงเวลานัดไม่ปรากฏว่า นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ เดินทางมาฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษาโดยเจตนาหลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยเพื่อมาฟังคำพิพากษา และเลื่อนไปฟังคำพิพากษาฎีกาอีกครั้ง ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น.