คลื่นชีวิต ดราม่าหนักมาก คนดูยกนิ้วชม ญาญ่า-เต้ย สอบผ่านบทสาวแรง-ร้าย
ไทยรัฐออนไลน์
20 ก.พ. 2560 10:14 น.
จ้อหน้าจอสัปดาห์นี้เราจะมาพูดคุยกันถึงละครเรื่อง คลื่นชีวิต เป็นละครแนวดราม่า เนื้อหาค่อนข้างหนัก ซึ่งละครเรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ของ กรุง ญ.ฉัตร เรื่องนี้ถูกนำมาสร้างเป็นละครแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 2526 และ ปี 2537 และในปี 2559 ก็ถูกนำมารีเมคใหม่อีกครั้งหนึ่งโดยค่ายละครไท ออกอากาศทางช่อง 3 ซึ่งได้ผู้กำกับมากความสามารถอย่าง แอ้ว อำไพพร จิตต์ไม่งง และนำแสดงโดยนักแสดงเบอร์ 1 ของช่องอย่าง ญาญ่า อุรัสยา และ หมาก ปริญ มาร่วมงานด้วยกันอีกครั้ง รวมไปถึงนักแสดงมากความสามารถอีกล้นจอ
อย่างที่บอกด้วยชื่อของผู้จัดละครอย่าง ดา หทัยรัตน์ และชื่อของผู้กำกับ แอ้ว อำไพพร ไม่เคยทำให้ละครที่ผลิตออกมาเสียชื่อ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่ละครเรื่องนี้ของผู้จัดและผู้กำกับจะสามารถดึงเอานักแสดงที่มีชื่อเสียงและมีความสามารถมารวมอยู่ในเรื่องเดียวกันได้มากมายขนาดนี้ เพราะเหตุนี้จึงทำให้ละครเรื่องนี้ถูกจับตามองตั้งแต่ประกาศตัวนักแสดงออกมา




แต่สำหรับคลื่นชีวิตเวอร์ชั่นนี้ มีการดัดแปลงเปลี่ยนแปลงแบล็กกราวด์ของตัวละครอย่าง จีราวัจน์ ปียากุล และ ชยันต์ ไป หากใครที่เคยได้อ่านบทประพันธ์เรื่องนี้จะทราบดี แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการนำเอา 2 นักแสดงที่จะถูกผู้จัดและผู้กำกับจับมาพลิกคาแรกเตอร์ใหม่หมดนั่นก็คือ ญาญ่า อุรัสยา และ เต้ย จรินทร์พร ที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่มักจะได้รับบทใสๆ แบ๊วๆ ตามสไตล์นางเอกละครแนวลูกกวาด แต่ในละครเรื่องนี้ ญาญ่าและเต้ย จะได้โชว์ฝีมือทางการแสดงให้แฟนๆ ได้เห็นกันว่าเธอทั้ง 2 คนก็มีดีไม่แพ้หน้าตา





เริ่มจาก ญาญ่า อุรัสยา กับบท จีราวัจน์ ที่ตอนแรกต้องยอมรับว่านึกภาพไม่ออกว่าญาญ่าจะเล่นได้มั้ย เพราะตัวละครจีราวัจน์ เป็นตัวละครที่มีทั้งความแรง ความน่าสงสาร มีปมเรื่องแม่ ซึ่งเป็นบทที่มองยังไงก็มองภาพญาญ่าสาวหวาน ใสๆ เล่นไม่ออก แต่สุดท้าย ญาญ่า ก็สามารถพิสูจน์ฝีมือทางการแสดงว่าเธอสามารถเล่นบทร้ายๆ แรงๆ ก็ได้เช่นกัน ทุกครั้งที่ญาญ่าออกมาในแต่ละฉาก ไม่ว่าจะเป็นฉากสบายๆ หรือฉากดราม่าหนักๆ ญาญ่าก็ทำได้ ถือว่าสอบผ่าน มีหลายฉากหลายซีนที่ดูแล้วต้องปรบมือให้ในความสามารถของเธอ และที่ต้องชมยิ่งกว่าการแสดง นั่นก็คือการพูด เรื่องนี้ญาญ่าพูดชัดถ้อยชัดคำไม่เหลือเค้าสาวเสียงแมว ส่วน เต้ย จรินทร์พร กับบท ปียากุล คุณหนูเอาแต่ใจและขี้หึง ที่คอยตามเฝ้าสามี และเป็นอีก 1 ตัวละครที่เป็นโจทก์กับนางเอก ซึ่งเต้ยสามารถสลัดความเป็นสาวแบ๊ว สาวหวานทิ้งได้ แถมยังเล่นได้เผ็ดพริก 20 เม็ดไม่แพ้ญาญ่าเลยทีเดียว ทำเอาแฟนๆ แอบเกลียดในความงี่เง่าเอาแต่ใจของตัวละครนี้ได้ เชื่อว่าหลายคนรอดูฉากที่ญาญ่า และเต้ย ต้องปะทะอารมณ์กันอยู่แน่นอน เข้าฉากด้วยกันทีไร มันเป็นมวยที่ถูกคู่กันจริงๆ






ส่วนทางด้าน หมาก ปริญ กับบททนายสาธิต ก็เป็นอีกคนที่เล่นละครดีขึ้นตามชั่วโมงบินที่ได้สะสมมา ทั้งฉากดราม่า ฉากอารมณ์ ถือว่าสอบผ่านไม่ได้ปล่อยให้ ญาญ่าและเต้ยขโมยซีนแจ้งเกิดและได้รับคำชมกันอยู่ 2 คน แต่ที่แน่ๆ บทพระเอกที่หมากรับในเรื่องนี้กลับทำให้คนดูเกลียดได้ด้วย ถือว่าหนุ่มหมากสอบผ่านกับบทหนุ่มเจ้าคิดเจ้าแค้นในเรื่องนี้ และนักแสดงร่วมคนอื่นๆ อย่าง ดีเจเอกกี้ เอกชัย, อ้น ศรีพรรณ และ เนย โชติกา แม้หลายคนจะมองว่าเล่นใหญ่ไฟกะพริบไปหน่อย แต่ก็เป็นไปตามคาแรกเตอร์ที่ถูกวางเอาไว้เพื่อเป็นสีสันและให้มาช่วยเบรกความเครียดของเนื้อเรื่อง และนอกจากนี้ก็ยังมี ณิชา ณัฏฐณิชา, มาสุ จรรยางค์กุลดี และ หลุยส์ สก๊อต ก็เป็นอีกตัวละครที่ทำให้ละครเรื่องนี้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น งานนี้ต้องขอบคุณผู้จัดและผู้กำกับที่ดึงความสามารถของนักแสดงออกมาให้พอเหมาะพอเจาะกับเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่สำหรับบทของ เจน ที่รับเล่นโดย บัว วันสิริ ที่มีน้ำเสียงแสบแก้วหู และคาแรกเตอร์ของตัวละครที่น่ารำคาญมากกว่าน่ารัก อาจจะเป็นเพราะนักแสดงหลักมีเยอะ เลยต้องกระจายบทให้กับหลายๆ คน ซึ่งในจุดนี้หากตัดออกไปสักตัวละคร หรือปรับความน่ารำคาญให้มีน้อยลงก็น่าจะดีกว่านี้




เพราะเป็นละครที่มีความดราม่าแบบเข้มข้น บทกระหนุงกระหนิงชวนฟินจิกหมอนแทบไม่มี จึงทำให้เรตติ้งของละครเรื่องนี้ไม่แรงเท่าที่หลายคนคาดหวังเอาไว้ แต่ก็ถือว่าใช้ได้สำหรับช่อง 3 ส่วนเรื่องที่จะฝากเอาไว้ก็ในเรื่องต่อไป ก็คือเรื่องของมุมกล้องที่แฟนละครหลายคนติงว่าดูโบราณไปหน่อย ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เหมือนเดิมกับหลายๆ เรื่องที่เคยทำมา หากเรื่องต่อไปเอาไปปรับ หามุมภาพใหม่ๆ ให้ทันสมัยขึ้นเหมือนค่ายอื่นๆ ทำก็คงจะดี อยากฝากไว้แค่นี้ก็เท่านั้น นอกนั้นถือว่าค่ายละครไท ทำให้ละครเรื่อง คลื่นชีวิต เป็นละครที่น่าดูและพิสูจน์ความสามารถของนักแสดงได้อีกหลายคน.










