ผมยังอยู่ในช่วงเวลาของ “ชีพจรลงก้น” เอ๊ย “ลงเท้า” เหมือนเดิมครับในสัปดาห์นี้ เพราะพอกลับจากเวียงจันทน์นอนบ้านได้คืนเดียว ก็ต้องขึ้นเครื่องบินต่อไปจังหวัดตรังทันที
เพื่อไปพบกับพี่น้องชาวบ้านตำบลในเตา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐและมูลนิธิไทยรัฐตัดสินใจจะไปสร้าง โรงเรียนไทยรัฐวิทยา แห่งใหม่ขึ้นที่นี่
ข่าวแนะนำ
ท่านที่ติดตามความเคลื่อนไหวของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมาเป็นระยะๆ คงจะทราบแล้วว่าปี พ.ศ.2562 จะเป็นปีที่อดีต ผอ.กำพล วัชรพล จะมีอายุครบ 100 ปี
เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน หนังสือพิมพ์ไทยรัฐจึงได้บริจาคเงินจำนวน 50 ล้านบาท สำหรับการสร้างโรงเรียนขึ้นใหม่อีก 10 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีโรงเรียนไทยรัฐวิทยาทั่วประเทศ รวมกันทั้งสิ้น 111 แห่ง
โรงเรียนบ้านเกาะเต่า ตำบลในเตา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เป็นโรงเรียนแรกที่ทางมูลนิธิไทยรัฐเห็นควรว่าจะเชื้อเชิญเข้าร่วมในโครงการนี้ เพราะเป็นโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล และขาดแคลน อะไรหลายๆอย่าง สมควรที่จะได้รับโอกาสเป็นอันดับแรกๆ
คณะของพวกเราจากไทยรัฐ ที่มีพี่ มานิจ สุขสมจิตร เป็นหัวหน้าคณะงวดนี้ จึงต้องไปทำหน้าที่เจรจาพูดคุยกับพี่น้องตำบลในเตา หรือที่เรียกกันว่าไปทำประชาพิจารณ์เสียก่อนตามระเบียบ เพื่อสอบถามความเห็นของพี่น้องทั้งหลายว่า ยินดีจะร่วมโครงการกับเราหรือไม่? อย่างไร?
ผมจะเก็บเรื่องราวของโรงเรียนไทยรัฐวิทยาแห่งนี้ ซึ่งต่อไปจะเป็นแห่งที่ 102 ไว้ก่อนนะครับ เพราะจากนี้ไปคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบต่างๆ จากนั้นจึงจะมีการก่อสร้าง และมีพิธีการส่งมอบอาคารโรงเรียนให้แก่ทางราชการต่อไป
ขออนุญาตรายงานถึงเรื่องบรรยากาศน้ำท่วมภาคใต้ดีกว่าครับ เพราะเป็นข่าวใหญ่ เป็นเรื่องใหญ่ที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ ที่ต่างก็แสดงความเห็นใจและส่งน้ำใจมาช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้โดยตลอด ระหว่างที่ต้องประสบกับปัญหาอุทกภัยครั้งนี้
ดังที่ทราบแล้วว่า น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ปีนี้มาถึง 2 หน แต่ละหนได้นำความเสียหายอย่างรุนแรงมาสู่พี่น้องภาคใต้ที่ตกอยู่ในเขตน้ำท่วม รวมทั้งจังหวัดตรังด้วย
วันที่ผมเดินทางไปถึงฝนหยุดตกไปวัน 2 วันแล้วครับ และน้ำก็แห้งผากไปมาก โดยเฉพาะในตัวเมือง หรือบริเวณใกล้ๆ กลับมาสู่ภาวะปกติแล้วเป็นส่วนใหญ่
แต่ก็จะมองเห็นริ้วรอยของความเสียหายได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะมองไปในสวนยาง 2 ฟากทาง ยังมีอีกหลายๆจุดที่ยังมีน้ำขังเอ่ออยู่
หรือไม่ก็เฉอะแฉะ มองเห็นเป็นทางยาวเลยทีเดียว
ผมมีโอกาสนั่งรถผ่านในบริเวณที่ถูกน้ำท่วมหลายๆที่ โดยเฉพาะโรงเรียนใกล้ๆอำเภอเมืองตรัง ที่เคยมีข่าวน้ำท่วมใหญ่ จนต้องหยุดเรียนไปหลายวัน บัดนี้ก็กลับมาเปิดเรียนได้ตามปกติแล้ว แต่ก็ยังมีร่องรอยของคราบน้ำที่ท่วมสูงถึงเกือบครึ่งห้องเรียนให้เห็นอยู่อย่างชัดเจน
ผมสอบถามทางฝ่ายจังหวัด โดยเฉพาะ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ทำให้ทราบว่า ฝ่ายราชการโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด และทุกๆส่วนที่ไปประจำอยู่ที่โน่น ต่างร่วมกันคนละไม้คนละมือช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเต็มที่ แทบไม่มีเวลาหยุดพัก
จากนี้ไปก็คงจะเป็นขั้นเยียวยารักษา คือลงไปดูแลด้านสุขภาพอนามัยกับการสำรวจความเสียหาย เพื่อหาทางช่วยเหลือกันต่อไป
ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ปัญหาในเรื่องรายได้ เพราะสวนยางส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วม กว่าจะกลับมากรีดยางได้อีก อาจต้องใช้เวลายาวนาน ในขณะที่ราคายางก็ค่อนข้างดี ทำให้ชาวบ้านต้องเสียโอกาสไปถึง 2 ต่อ
เท่าที่ทราบทางฝ่ายราชการก็มีการดำเนินการช่วยเหลืออยู่แล้ว
ผมก็ขอให้กำลังใจในการทำงานของทุกๆฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง
พร้อมทั้งขอฝากไว้ให้เตรียมการหาทางสำหรับการป้องกันในอนาคตด้วย อย่างที่ผมเคยปรารภเมื่อวันเขียนให้กำลังใจหลังเกิดนํ้าท่วมหนัก เมื่อช่วงต้นปีใหม่ว่า ฝนตกปีนี้เป็นฝนธรรมดาๆ มิได้มีชื่อเสียงพิเศษเป็นประเภทพายุใหญ่แต่อย่างใดเลย
ขนาดเจอฝนตกปกติธรรมดาเรายังเสียหายขนาดนี้ หากไปเจอฝนแบบพายุมีชื่อพิเศษเข้าจะหนักขนาดไหน ยังนึกภาพไม่ออกเลย?
สาเหตุมาจากอะไร? แนวทางป้องกันแก้ไขควรเป็นอย่างไร? จะต้องคิดกันให้ดีๆ และเตรียมการให้ดีๆ นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปแล้วนะครับ.
“ซูม”