น้องจ๋า สาวสองแคว ที่พกยาแก้ปวดเดินทางเข้าประเทศโอมาน ถูกจับติดคุก แต่โชคดีที่มีโอกาสโพสต์เฟซบุ๊กจนทางบ้านรู้ เดินเรื่องให้สถานทูตฯ ช่วยเหลือ ได้กลับมาเจอหน้าพ่อแม่ บอกจะขอบวชชีสักเดือน เผยยังมีคนไทยติดคุกข้อหานี้ 4 คน...

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. 59 นางสาวรสสุคนธ์ เนียมกลาง อายุ 32 ปี หรือน้องจ๋า อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 14 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่ถูกจับกุมตัวที่ประเทศโอมาน ฐานนำยาต้องห้ามเข้าประเทศ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2559 จนต้องถูกคุมขังอยู่ที่ต่างประเทศนานกว่า 4 เดือน เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 06.15 น. หลังได้รับการช่วยเหลือจากสถานทูตไทยฯ ในการติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบิน และอำนวยความสะดวกรับตัวออกจากเรือนจำกรุงมัสกัต มาส่งที่สนามบิน ก่อนนั่งเครื่องบินของการบินไทยเดินทางกลับประเทศไทย โดยมี นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก และนางสาวสุวิมล เนียมกลาง น้องสาวที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ไปรอรับที่สนามบิน เดินทางกลับถึง จ.พิษณุโลก เรียบร้อยแล้ว

นางสุนทรี เนียมกลาง อายุ 53 ปี มารดา และนายเครือ เนียมกลาง อายุ 55 ปี บิดานางสาวรสสุคนธ์ ได้มารอรับบุตรสาวอยู่ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก ทันทีที่ นางสาวรสสุคนธ์ พบหน้ามารดาและบิดาถึงกับร่ำไห้เข้ากอด และขอโทษที่ทำให้พ่อแม่ต้องเดือดร้อน ก่อนนำพวงมาลัยดอกมะลิกราบขอขมาพ่อและแม่ต่อหน้าสื่อมวลชน

นางสาวรสสุคนธ์ ยังได้กล่าวขอบคุณสถานทูตไทยในกรุงมัสกัต ประเทศโอมาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก รวมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนงที่ให้กำลังใจ และเสนอข่าวจนได้รับการช่วยเหลือให้ได้เดินทางกลับประเทศไทยในครั้งนี้

...

ต่อมา นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.พิษณุโลก ได้มาต้อนรับ นางสาวรสสุคนธ์ที่ได้เดินทางกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย โดยนางสาวรสสุคนธ์ได้นำพวงมาลัยมะลิ กราบขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ที่ได้เอาใจใส่ หลังจาก นางสุนทรี มารดาของตน นำเรื่องเข้ามาขอความช่วยเหลือจาก นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมฯ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2559

นางสาวรสสุคนธ์ กล่าวว่า ยาต้องห้ามนำเข้าประเทศโอมานที่ตนนำติดตัวไปเป็นยานอนหลับ ยาแก้ปวดไมเกรน และยาแก้คลื่นไส้อาเจียน ถูกจับจำคุกวันที่ 23 ตุลาคม 2559 จนถึงวันที่ 26 มกราคม 2560 ตั้งแต่โพสต์ลงเฟซบุ๊กแล้วแม่นำเรื่องมาร้องเรียน ทางสถานทูตไทยฯ ก็เข้าไปดูแลช่วยเหลือเป็นอย่างดีโดยตลอด ไปเยี่ยม เอาอาหาร เอาน้ำไปให้ และเดินเรื่องให้ทุกอย่าง นอกจากตนแล้ว ยังมีคนไทยที่ถูกจำคุกอยู่ที่นั่นอีก 32 คน คดีแตกต่างกันไป เช่น คดีเรื่องวีซ่า ยาเสพติด และเรื่องอื่นๆ เคสที่คล้ายกับตนคือยาทามาดอลจำนวน 4 คน ถูกจำคุก 2 ปีกับ 4 ปี ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ

ด้าน นายธานินทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากนี้จะพานางสาวรสสุคนธ์ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อตรวจร่างกาย และอาการของโรคที่เป็นอยู่เพื่อขอรับยา ก่อนพาไปส่งที่บ้านเกิดในอำเภอชาติตระการ

ในตอนท้าย นางสาวรสสุคนธ์ ยังกล่าวอีกว่า หลังเสร็จเรื่องการพบแพทย์และถึงบ้านเกิดแล้ว ตั้งใจจะขอบวชชีเป็นเวลา 1 เดือน และจะไม่ขอเดินทางออกไปต่างประเทศอีก เพราะสงสารพ่อแม่ต้องลำบากเดือดร้อนที่ต้องช่วยเหลือตนในครั้งนี้ อยากฝากถึงพี่น้องคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศด้วยว่า หากจะไปประเทศใดขอให้ศึกษาเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับยารักษาโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องนำติดตัวไปด้วยให้ดี ไม่อย่างนั้นจะพบปัญหาแบบเดียวกับตน ที่ต้องติดคุกนอนอยู่ในเรือนจำที่มีแต่ความลำบาก การสื่อสารกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะพูดกันละภาษา.