ผู้หญิงอย่าหยุดสวย! เราเชื่อว่าคำนี้ยังใช้ได้ผลเสมอ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนหน้าตาดีหรือมีบุคลิกดีมักได้รับโอกาสที่มากกว่าเสมอ แต่สวยอย่างเดียวไม่ได้นะจ๊ะสาวๆ ต้องมีความสามารถด้วย และสำหรับสาวคนนี้บอกเลยว่าทั้งสวยแซ่บ รวย เก่ง มีความสามารถจนเราต้องนัดพูดคุยทำความรู้จักกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับนักธุรกิจไฟแรง กิฟท์ - กุลกนก หว่อง สาวสวยวัย 30 ปี เจ้าของสถาบันเสริมความงาม สถานที่ทำให้สาวๆ หลายคนมั่นใจขึ้นเมื่อได้มาเยือนที่นี่...

...

ถึงแม้ต้นทุนครอบครัวของเธอจะสูงกว่าคนอื่น เกิดในครอบครัวที่อบอุ่นและมีฐานะอยู่แล้ว แต่เธอไม่ได้อยู่เฉยๆ แล้วมีทุกวันนี้ เธอเป็นอีกหนึ่งสาวที่ผ่านบทเรียนมามากมายด้วยความพยายามหลายๆอย่าง ทำให้ชีวิตเธอประสบความสำเร็จในระดับที่หน้าพอใจ มีประโยคหนึ่งที่ค่อนข้างประทับใจคนฟังอย่างเรา กิฟท์ กุลกนก เล่าถึงชีวิตของเธอว่า 

"ชีวิตเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เหมือนเป็นถนนที่ขรุขระด้วยซ้ำ แต่มันอยู่ที่เราเลือกมองในมุมไหน เราเป็นคนไม่หนีปัญหาค่ะ และก็อย่ามองให้มันเป็นปัญหา เพราะถ้าเราหนีปัญหา มันก็จะตามเราไปเรื่อยๆ" 

นี่เป็นเพียงบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งที่เราได้พูดคุยกับเธอ ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากให้หลายคนได้อ่าน ได้เวลาแล้วที่ไทยรัฐออนไลน์จะพาไปล้วงลึกชีวิต ธุรกิจ การทำงานและไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของเธอ เราเชื่อว่าคุณอ่านแล้วจะได้แรงบันดาลใจดีๆ จากผู้หญิงคนนี้ที่สามารถเป็นไอดอลของสาวๆ หลายคนได้

พาร์ต 1 : กว่าจะมีทุกวันนี้ 

จุดเริ่มต้นทำธุรกิจ

ก่อนหน้าที่เราจะมาจับธุรกิจทางด้านนี้เราก็เป็นแม่บ้านดูแลลูก ดูแลสามี พอแต่งงานก็ย้ายไปอยู่ฮ่องกงค่ะ อยู่ที่นู้นประมาณ 2 ปี ย้ายกลับมาไทยก็ยังไม่ได้ทำอะไร เป็นแม่บ้านดูแลลูก ดูแลสามีเหมือนเดิม แต่สักพักพอเราเจอเพื่อนเจอคนรู้จักเราก็เริ่มคิดเรื่องธุรกิจ และเรื่องความงามเป็นสิ่งที่เราชอบอยู่แล้วด้วยเลยมาทำธุรกิจนี้

อีกอย่างคือเราเคยโดนหลอกมาก่อน เราเคยฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นฟิลเลอร์ไม่ดี เหมือนเป็นปมของเราเหมือนกันค่ะ มันก็เลยเป็นจุดที่ทำให้เราคิดว่าเราอยากทำอะไรให้คนได้รู้ว่าฟิลเลอร์มันมีหลายชนิดมาก ศัลยกรรมมีหลายแบบ เราต้องรู้ว่าแบบไหนที่ปลอดภัย พอดีกับที่เรามีญาติเป็นหมอด้วยก็เลยปรึกษาเขาในธุรกิจนี้ ตอนนี้ธุรกิจเราเปิดมาได้ 5 ปีแล้ว ตอนแรกมีสองสาขาแต่เกิดปัญหาขึ้นกับหุ้นส่วนตอนนี้จึงเหลือเพียงสาขาเดียวที่เป็นของเราคือ อเมทิสคลินิก สาทรซอย 1

...

ประสบการณ์เลวร้ายหน้าเสียโฉมกับฟิลเลอร์ปลอม

เราเคยไปฉีดฟิลเลอร์มา ฉีดผ่านไป 4-5 ปีได้ หน้าเราก็บวมๆ ยุบๆ ตอนนั้นหน้าเราอูมเหมือนคางคกเลย เอามือจับๆ กดๆ แล้วเจ็บ มีรอยแดง เป็นแบบนี้อยู่ระยะหนึ่งค่ะ เราจึงตัดสินใจว่าจะเอาฟิลเลอร์ออก หลังจากนั้นด้วยความที่เราอยากสวย มีความมั่นใจแบบสาวยุคใหม่ก็เลยไปทำศัลยกรรมเพิ่มเติมด้วยทำยกกระชับใต้ตา ร้อยไหมวีเชพ ทำโบท็อกซ์ ทำคาง จมูก เราทำที่คลินิกเราหมดเลยค่ะ 

คู่แข่งเยอะ กับจุดแข็งของธุรกิจเสริมความงาม

ใช่ค่ะ สมัยนี้คู่แข่งในธรุกิจนี้เยอะมาก แต่เราก็มั่นใจค่ะเพราะเรามีจุดแข็งที่พูดได้เลยว่าเป็นเรื่องของคุณภาพและความใส่ใจในเนื้องาน ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไม่ดียังไงเราก็ไม่มีทางลดต้นทุน มันอาจจะมีปัญหาบ้างแต่เราจะใช้ของดีอย่างเดียวไม่มีทางลดต้นทุนเด็ดขาด อีกอย่างถึงแม้ตัวเราไม่ใช่หมอ แต่เราเลือกอาจารย์หมอมาเป็นเสาหลักของร้านเรา เราก็จะลงไปดูในเรื่องของขั้นตอนการทำทุกอย่าง หมอแต่ละคนจะเข้ามาต้องผ่านสแตนดาร์ดของอาจารย์หมอ ต้องมีการเทสต์หมอแต่ละคนเกิดขึ้น

...

...

ศัลยกรรมไทยกับสังคมไทยอยู่ได้นานแค่ไหน 

จากมุมมองส่วนตัวเราว่ายังอยู่ได้นานค่ะ เราลองนึกภาพตัวเองว่าจะแก่ก็เครียดแล้ว (หัวเราะ) คุณจะสวยก็ต้องดูแลตัวเอง ซึ่งมันก็มีหลายวิธีที่จะดูแลตัวเอง การศัลยกรรมก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่เปิดโอกาสให้กับชีวิตเรามากขึ้น และทำให้ผู้หญิงมีความมั่นใจมากขึ้น ดังนั้นเราคิดว่าธุรกิจนี้ยังอยู่ได้อีกนานค่ะ

มรสุมธุรกิจ จากรายได้หลัก 10 ล้าน เหลือแค่ล้านกว่า

ก่อนหน้านี้เรามีปัญหากับหุ้นส่วนเก่า ช่วงนั้นเราเสียหลักไปเลยค่ะ จากรายได้ตอนนั้นอยู่ที่หลัก 10 ล้านเหลือล้านกว่าๆ ให้เล่าย้อนไป คือมีอยู่ช่วงหนึ่งเกิดปัญหาขึ้น ช่วงที่เรามาตกแต่งคลินิกที่สาทร หุ้นส่วนเก่าก็จะทำงานอยู่ที่สาขาแรกตลอด พนักงานที่ทำงานก็จะสนิทกับเขามากกว่า เราก็ไม่ค่อยได้เข้าคลินิก เพราะเราทำส่วนการตลาดอยู่และกำลังตกแต่งสาขาใหม่ (นั่นก็คือสาขาปัจจุบัน) พอเราเข้าไปทุกคนก็มองเราแปลกๆ แต่เราก็ไม่รู้ว่าทำไม วันหนึ่งความแตกว่าหุ้นส่วนไปพูดว่า เราไปโกงเขาเป็นจำนวนเงินเยอะมาก เอาไปซื้อบ้านซื้อรถ แต่จริงๆ แล้วเรามีหลักฐานว่าเราซื้อก่อนที่จะรู้จักเขาซะอีก เราซื้อเงินสดด้วย

ตอนนั้นเราตัดสินใจหนักมาก แต่เราก็เลือกที่จะไม่ใส่หน้ากากคุยกัน เคลียร์ตรงๆ จบกันไป พอเราเลิกทำธุรกิจกับหุ้นส่วนเก่า เราก็ขาดหมอธุรกิจเราก็ชะงักทันที เราหยุดทำการตลาดไปเลย รายได้จากสิบล้านเหลือล้านกว่าบาท ตอนนั้นเราเสียใจมาก เราไม่มีใจจะทำอะไร แต่เรามีความรับผิดชอบ เราต้องดูแลลูกค้า พนักงาน เราจึงตัดสินใจทำต่อ ถึงแม้ค่าใช้จ่ายจะเยอะกว่ารายรับแต่เราต้องไปต่อให้ได้ แต่ตอนนี้เราก็ผ่านมาได้แล้ว ชำระหนี้สินที่เกิดจากปัญหาหมดลงไปแล้วด้วย ก็ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของเราเลยค่ะ

พาร์ต 2 : หลักการทำงาน ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ 

ไอดอลในการทำงาน

กิฟท์มีไอดอล คือ โอปราห์ วินฟรีย์ กับ ฮิลลารี คลินตัน ที่ชอบสองคนนี้เพราะเขาสองคนผ่านอะไรมาเยอะ แล้วสิ่งที่เขาทำมาก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ ความมุ่งมั่นได้เป็นอย่างดี อย่างฮิลลารี เขาเป็นคนที่สื่อสารเก่ง เวลาเขาพูด เรื่องการวางตัวของเขาก็ดี เขาสามารถสื่อได้ชัดเจน ส่วน โอปราห์ เขาเป็นผู้หญิงที่พูดได้ดี รู้สึกได้ถึงความจริงใจในคำพูด นอกจากนั้นเขายังมีเป้าหมายที่ชัดเจน และมีอารมณ์ขันอีกด้วย เป็นคนเปิดรับสิ่งใหม่ๆ

เจอปัญหาในการทำงานแก้ยังไง

ชีวิตเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เหมือนเป็นถนนที่ขรุขระด้วยซ้ำ แต่มันอยู่ที่เราเลือกมองในมุมไหน เราเป็นคนไม่หนีปัญหาค่ะ และก็อย่ามองให้มันเป็นปัญหา เพราะถ้าเราหนีปัญหา มันก็จะตามเราไปเรื่อยๆ เราจะวิเคราะห์ก่อน บางทีการแก้ปัญหาไม่ใช่การวิ่งชนเสมอไป มันคือการไตร่ตรอง แล้วรอเวลา แล้วค่อยๆ แก้ไป 

สิ่งที่ได้จากการทำงาน

หลักๆ เลยคือเราต้องมีความอดทน ต้องมีจุดยืน คิดว่าทุกอย่างต้องเป็นไปได้เสมอ ผลจะออกมาดีไม่ดี ก็อยู่ที่มุมมอง คุณสมบัติเหล่านี้ ได้มาจากประสบการณ์การทำงานค่ะ เราพัฒนาตัวเราทุกวัน ทำให้เรานิ่งขึ้น มีความสุขมากขึ้น

คิดว่าทุกวันนี้ตัวเองประสบความสำเร็จมั้ย

เราคิดว่าประสบความสำเร็จแค่ในระดับหนึ่งเองค่ะ เราจะพยายามตั้งใจทำให้ประสบความสำเร็จให้มากกว่านี้ ถามว่าแฮปปี้มั้ยกับตอนนี้ก็แฮปปี้แต่จะทำให้มันดีขึ้นไปอีกค่ะ (ยิ้ม) 

พาร์ต 3 : ครอบครัวสุดอบอุ่น

เติบโตมากับครอบครัวแบบไหน การเลี้ยงดูยังไง

กิฟท์เติบโตมากับครอบครัวที่ทำธุรกิจ เมื่อก่อนคุณพ่อทำปั๊มน้ำมัน กับดีลเลอร์ขายรถ มีทำอัญมณีด้วยค่ะ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนที่รักสวยรักงาม เราเลยมาจับธุรกิจด้านความงาม ถามว่าราบรื่นมั้ยตอบเลยว่าก็คงไม่มีธุรกิจไหนที่จะราบรื่น ยิ่งเป็นธุรกิจเสริมความงามเราต้องรับผิดชอบในผลงานเรา มันเป็นธุรกิจแห่งความหวังและรับผิดชอบ ต้องจัดการตรงนี้ให้ได้ถ้าไม่ได้ก็จะไม่สำเร็จ

ส่วนเรื่องของการเลี้ยงดูเราในตอนเด็กๆ คุณพ่อจะเป็นคนที่ค่อนข้างเปิด บาลานซ์ชีวิตให้กับเรา ไม่ได้ปล่อยเราเกินไปแต่ก็ไม่ได้ตีกรอบความคิดให้กับเรา บางอย่างรู้ว่าเราทำแล้วจะเป็นยังไงเขาก็จะเตือนก่อนแต่ก็จะปล่อยให้เราได้ลอง ถามว่าที่เราเติบโตมาได้เพราะว่าเขาซัพพอร์ตเราทุกอย่างในหลายๆ อย่าง เราโชคดีที่เราคุยกับพ่อแม่ได้ทุกเรื่องค่ะ

คุณแม่เคยเป็นดารา ?

คุณแม่เคยเป็นดาราเก่านานมากแล้ว ผ่านเวทีนางงามเคยเป็นนางงามธิดาสมุทรที่ปากน้ำ เคยเล่นคู่กับ ไพโรจน์ ใจสิงห์ ชลิต เฟื่องอารมย์ ตอนนั้นเล่นหลายเรื่องเหมือนกัน ผ่านการประกวดมาด้วย ตอนเด็กๆ คุณแม่ก็บอกว่าเรามีดื้อบ้าง เลี้ยงไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก รักสวยรักงามตั้งแต่เด็ก แต่งตัวเปรี้ยวๆ แต่เรียนเก่งค่ะ สอบนานาชาติได้เอง ดื้อบ้างแต่ก็ฟังที่พ่อแม่พูด

แต่งงานมีครอบครัวแล้วใช่มั้ย?

ใช่ค่ะ สามีเราเป็นคนจีนค่ะ สัญชาติออสเตรเลีย พบรักกันที่ไทยแต่งงานและไปอยู่ฮ่องกงจนกลับมาอยู่ที่ไทยอีกครั้ง ตอนนี้มีลูกผู้หญิงสองคนแล้วค่ะ วัยกำลังซนทีเดียว

ความฝันครั้งเยาว์วัย

เราเรียนจบด้านคอมพิวเตอร์ แต่เรียนจบแล้วคิดว่ามันยังไม่ใช่ตัวเรา เราก็ไม่อยากทำ ตอนเด็กๆ เราฝันจะทำมากกว่านี้ แต่ตอนนี้ก็เริ่มๆ ทำอยู่ค่อนข้างสวนทางกับธุรกิจเสริมความงามค่ะ (หัวเราะ) เกี่ยวกับพลังงานทดแทน ความฝันของเราก็คืออยากเป็นนักธุรกิจทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย คือจริงๆ เราทุกคนช่วยกันได้ด้วยการต้องคิดถึงส่วนรวม เรานึกถึงส่วนรวมให้มากขึ้นประเทศเราก็จะน่าอยู่มากขึ้น

พาร์ต 4 : ชีวิตดี๊ดีกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัว

เวลาว่างจากการทำงาน

กิฟท์ชอบออกกำลังกายค่ะ แต่หลักๆเลยถ้าว่างคือเราใช้เวลาอยู่กับลูกเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็ไปเที่ยวช็อปปิ้งตามประสาผู้หญิงทั่วไปค่ะ แต่ส่วนมากคืออยู่กับลูกเพราะอายุเขาเราไม่สามารถดึงเวลากลับมาได้แล้ว ช่วงเวลานี้เราก็จะอยู่กับเขาให้มากขึ้น

ของสะสมสุดโปรด

เราชอบสะสมกระเป๋า ต่างหู ของเก่า และอีกอย่างเราชอบฟังเพลงก็จะไปสั่งซื้อ สั่งทำลำโพงแบบพิเศษๆ หน่อย เหมือนคู่นี้ก็สั่งเกือบสองปีล้านกว่าบาท กระเป๋าชอบแบรนด์ชาแนล แอร์เมส ชอบกระเป๋าเป็นสีๆ ไม่ชอบสีดำ ต้องแมตช์รองเท้ากับชุด เราชอบของแรไอเทมอย่างโคมไฟเป็นลิมิเต็ดอิดิชั่น

ดูแลตัวเองยังไงให้สวยปิ๊ง เป๊ะเว่อร์

จริงๆ เราออกกำลังกายแต่ไม่ได้หนักมาก เข้ายิมอาทิตย์ละสองครั้ง ไปคาร์ดิโอ และสเตรทชิ่งยืดกล้ามเนื้อบ้าง แล้วก็มีตีแบดมินตันกับคุณพ่อและน้องชาย ส่วนเรื่องผิวพรรณเราก็จะเน้นการกินเป็นส่วนใหญ่ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ผลไม้ที่มีเบอร์รี่ กินวิตามินอาหารเสริมเข้าไปด้วย ทำคีเลชั่นล้างสารพิษในร่างกาย

นี่คือสิ่งที่เราได้จากผู้หญิงสวยเก่งคนนี้ ทั้งข้อคิดของการทำงาน ข้อคิดต่างๆ บอกเลยว่าผู้หญิงยุคนี้สวยอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ บอกก่อนว่ายังไม่หมดเพียงแค่นี้ เจอกันอีกครั้งกับคอลัมน์ไฮโซทาวน์ที่เราพาไปบุกถึงคอนโดฯ สุดหรูใจกลางเมือง มูลค่ากว่าร้อยล้านบาท พร้อมทั้งยังมีเซตแฟชั่นชุดสุดเซ็กซี่จากเธอคนนี้มาฝากกัน อย่าลืมติดตาม !