
ไฟไหม้ป่ารัฐเทนเนสซี ตายแล้ว 11 สุดสลด หญิงวัย 70 หนีออกจากบ้านไม่ทัน
ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในรัฐเทนเนสซี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 11 ราย และหนึ่งในจำนวนนี้ เป็นหญิงวัย 70 ที่บ้านถูกไฟป่าลุกลามมาไหม้ แต่เคราะห์ร้าย หนีออกมาไม่ทัน ลูกชายเผยแม่โทร.มาบอกด้วยความหวาดกลัวว่าบ้านโดนไฟไหม้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ไฟไหม้ป่ารุนแรงในรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐฯ โดยเฉพาะที่เมืองแกตลินเบิร์ก หลังจากเกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ Great Smoky Mountain (เกรต สโมคกี้ เมาเท่น) ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28 พ.ย. จนต้องแจ้งให้ประชาชนรีบอพยพออกจากเมืองว่า จากรายงานของสำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินรัฐเทนเนสซี ระบุมีผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ป่าเพิ่มอีก 4 ราย เมื่อ 1 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ยอดเหยื่อเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 74 คน บางส่วนยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อีกทั้งบ้านเรือนเกือบ 8,500 หลังยังไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ทางการกำลังเร่งประเมินความเสียหายอยู่
ข่าวแนะนำ
เว็บไซต์ NBCNEWS แจ้งว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ 30 พ.ย. ได้ช่วยพนักงานดับเพลิงในความพยายามควบคุมเหตุไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในรัฐเทนเนสซี ซึ่งได้เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 4 หมื่นไร่ และสามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียงได้แล้วประมาณ 10%


ด้านนายไมค์ เวอร์เนอร์ นายกเทศมนตรีเมืองแกตลินเบิร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในชาวเมืองที่ต้องสูญเสียบ้านจากเหตุไฟไหม้ป่าคราวนี้ด้วย กล่าวว่า ห้างร้านธุรกิจส่วนมากในเมืองแกตลินเบิร์กได้กลับมาเปิดทำการได้แล้วเมื่อวันพฤหัสฯ หลังจากพระเพลิงได้ผ่านพ้นไป ขณะที่ WBIR reported รายงานว่า ในจำนวนผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตจากไฟไหม้ป่า ในเมืองแกตลินเบิร์ก คือ นางอลิซ แฮกเลอร์ หญิงวัย 70 ปี ซึ่งได้โทรศัพท์ไปหาลูกชายด้วยความหวาดกลัวว่า ขณะนี้บ้านกำลังถูกไฟไหม้ และลูกชายได้บอกกับนางแฮกเลอร์ว่าให้รีบออกมาจากบ้าน

นายเจมส์ วูด ลูกชายของนางแฮกเลอร์ เล่าวว่า หลังจากแม่โทรศัพท์มาหาว่าบ้านกำลังถูกไฟไหม้แล้ว เขาได้พยายามที่จะไปหาแม่ทันที แต่ตอนนั้น ไฟได้ลุกไหม้พื้นที่บริเวณถนนวิลีย์ โอคลีย์ จนไม่สามารถขับรถฝ่าเข้าไปได้ และสุดท้าย แม่ของเขาเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ป่าในรัฐเทนเนสซี ในขณะที่ ผู้กำกับการฝ่ายดับเพลิง เผยว่า มีอาคารบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างในซีเวียร์ เคาตี้ โดนไฟป่าเผาผลาญและได้รับความเสียหายกว่า 700 หลัง ในจำนวนนี้ราว 300 หลังอยู่ในเมืองแกตลินเบิร์ก