ยุคนี้ใครๆก็ยอมรับประเทศไทยเป็นแหล่งพืชพันธุ์ธัญญาหารและพืชสมุนไพรชั้นดีมากมาย...!
เพียงแต่รู้จักเลือกกินเลือกใช้ให้ตรงจุดก็จะได้ทั้งที่มีสารอาหารและเป็นยารักษาโรคไปในตัวอย่าง “น้ำซาวข้าว” หรือน้ำล้างข้าวสารครั้งที่2ก่อนจะหุง ที่คนยุคใหม่มักไม่สนใจแต่คนยุคก่อนนำมาใช้ประโยชน์ได้นานัปการ
ตามตำรับชีววิถีเชื่อว่าน้ำซาวข้าวเป็นสารฤทธิ์เย็น จึงนิยมนำไปใส่กะละมังให้ตกตะกอนก่อนจะนำมาสระผม 2 ครั้ง แล้วสระด้วยแชมพู เชื่อว่าผมจะนิ่มหยุ่นคลายตัวได้เร็วขึ้น บางคนก็นำไปล้างหน้าช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น
จากข้อดีตรงนี้ รวมทั้งยังมีวิตามินช่วยทำลายพิษหรือท็อกซินจากมลพิษ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนชีววิถี เลขที่ 130 หมู่ 4 บ้านใหม่พัฒนา ต.น้ำเกี๋ยนอ.ภูเพียง จ.น่าน จึงนำมาเป็นส่วนผสมผลิตเป็น “สบู่สมุนไพรน้ำซาวข้าว”
นางศิรินันท์ สารมณฐี ผจก.กลุ่ม บอกว่า เมื่อสังเกตเห็นชาวบ้านนำน้ำซาวข้าวมาล้างหน้าตอนเช้า ผ่านมาหลายสิบปีผิวหน้าก็ยังเต่งตึงไม่เหี่ยวย่น แถมผิวพรรณสดใส หรือหากนำไปล้างผักผลไม้ก็ช่วยลดสารพิษตกค้าง
“เราจึงมั่นใจว่า หากนำมาผลิตสบู่น่าได้รับการตอบรับจากผู้ใช้เป็นอย่างดี จึงเริ่มต้นมุ่งมั่นศึกษาหาวิธีพัฒนาไปสู่กระบวนการผลิตที่เน้นความเป็นธรรมชาติและคงคุณค่าของน้ำซาวข้าวไว้ให้มากที่สุด”
ขณะที่ทางกลุ่มยังพบด้วยว่าน้ำซาวข้าวนั้น นอกจากมีสารช่วยให้ผิวหน้ากระชับนุ่มชุ่มชื่น ยังช่วยลดสิวและความมันบนใบหน้าด้วย ดังนั้นนอกจากจะผลิตสบู่ก้อน จึงต่อยอดผลิตเป็นสบู่เหลวบริสุทธิ์ควบคู่ไปด้วย
เนื่องจากไม่มีสารเคมีใดเจือปนจึงเหมาะใช้กับผิวแพ้ง่าย ส่วนเรื่องกลิ่น และสีก็ทำได้ตรงความต้องการของตลาด ก็ด้วยคุณภาพอย่างที่บอกมานี้ในปี 2556 จึงได้รับการการันตีให้เป็นโอทอป 5 ดาว
...
ใครอยู่ใกล้สนใจเลือกซื้อหามาใช้ได้ โดยสบู่ก้อนราคาก้อนละ 69บาท ส่วนสบู่เหลวขวดละ 109 บาท หรือหากอยู่ไกลหาซื้อได้ตามศูนย์โอทอปทั่วประเทศ หรือสั่งตรงที่โทร.08-1993-6364
จึงเป็นบทสรุปที่ว่า ยุคนี้ของดีมีคุณภาพแถมราคาไม่เว่อร์ยังมีเหลืออยู่จริงไม่ได้โม้แต่ประการใด...!
กัลยา สองเมืองแก่น