
ถ้าคดีไหนที่พนักงานสอบสวนทำตรงไปตรงมา คงไม่ต้องมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรม ไม่ต้องมีความเคลือบแคลงสงสัยในรูปคดี
ตัวอย่างคดี น.ส.พา (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ที่ร้องขอความเป็นธรรมหลังตกเป็น “เหยื่อลูกหลง” ถูกกระสุนปืนที่กลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันในช่วงงานสงกรานต์ปีที่ผ่านมา ปิดถนนปทุมสายใน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เปิดให้คนมาเล่นน้ำสงกรานต์ มีพยานเห็นมือปืนซ้อนท้ายรถ จยย.เพื่อน มาดักยิงถล่มคู่กรณี
ยิงกันต่อหน้าคนนับร้อย
มือปืนที่ลั่นไกยิงไม่สนใจเลยว่า กระสุนปืนจะทำให้คนอื่นบาดเจ็บเสียชีวิต ยังดีที่กระสุนปืนถูกยิงเข้าที่ฝากระโปรงหลัง 1 นัด กระสุนทะลุไปเบาะนั่งด้านหลัง และหลังคามีรอยกระสุนอีก 1 นัด กระสุนปืนที่ระดมยิงเข้าใส่คู่กรณีถูกคนเจ็บที่นั่งเบาะด้านหลังรถ เจาะเข้าที่สะโพกด้านซ้าย 1 นัด
แต่คดีไม่คืบหน้า
ส่อแววยกเอาผิดจำเลยไม่ได้ เนื่องจากพยานโจทก์หลายปากไม่ยอมมาเบิกความต่อหน้าศาล ส่วนพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ กลับไม่มีการสอบสวนพยานปากนี้
ทั้งที่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ขณะคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง
หลังจากเกิดเหตุได้ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนทันที และบอกรูปพรรณสัณฐาน จนสเกตช์ภาพคนร้าย นำไปสู่การขออนุมัติออกหมายจับและจับกุมตัวคนร้ายได้
พยานปากนี้ถูกกระสุนปืนมือปืนยิงโดนที่กระจกรถ เห็นหน้าคนร้ายชัดเจนมาก เพราะห่างไม่ถึง 3 เมตร บอกลักษณะการยิงได้หมดแต่กลับไม่สอบปากคำไว้เป็นพยานและในคดีที่รถเขาเสียหาย มีการแจ้งความ
แต่ไม่มีความคืบหน้าเลย ตำรวจไม่ได้เรียกพยานปากนี้เข้ามาสอบสวนไว้ในสำนวนคดีสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล เป็นข้อสงสัยของญาติคนเจ็บ
หากคดีนี้ไม่มีผู้รู้กฎหมายหรือผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงเข้ามาช่วยเหลือ ผู้เสียหายคงต้องเจ็บตัวฟรี
เอาผิดใครไม่ได้
คงต้องหาเงินออกค่ารักษาพยาบาลเอง ค่ารักษาพยาบาลร่วม 2 แสนบาท พ่อแม่ของผู้เสียหายต้องกู้ยืมเงินมารักษาชีวิตลูก เพราะเป็นเพียงชาวนา ชีวิตถูกซ้ำเติมให้ลำบากยิ่งขึ้นไปอีก
ผู้ร้องขอให้ช่วยตีแผ่เรื่องนี้เพื่อให้ผู้มีอำนาจ ผบ.ตร. ผบช.ภ.1 หรือ ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี เข้ามาดูแลและตรวจสอบกระบวนการสืบสวนสอบสวนให้โปร่งใส
ให้กฎหมายเอาคนผิดมาลงโทษ.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th