
มีโอกาสร่วมย้อนวันวานกับตำนานนักสืบเมืองหลวงหลังจาก พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นโต้โผหลักนัดระดม “สังสรรค์เพื่อนพ้องน้องพี่” อดีตผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา สังกัด กก.สส.น.เหนือ-สืบนครบาล 1 ที่ร้านอาหารบ้านชานกรุง มีนบุรี เมื่อวันก่อน
มีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกความผูกผัน ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ แลกเปลี่ยนแนวคิด ช่วยเหลือกันในยามเดือดร้อน โดยเฉพาะหลายคนที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว
นับเป็นการรวมตัวกันครั้งที่ 3 ตามกำหนดปีละ 2 ครั้ง
นักสืบรุ่นลายครามระดับนายตำรวจไปร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ไล่เรียงตามอาวุโส อาทิ พล.ต.ต.วาทิน คำทรงศรี พล.ต.ต.จิรสิทธิ์ มหินทรเทพ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น พ.ต.อ.สุวัฒน์ พาศรีกุล พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ พ.ต.อ.สุธัช อ่อนตุ้ม พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์
แม้กระทั่ง พล.ต.ต.อังกูร อาทรไผท อดีตสืบสวนใต้ยังขอมาร่วมแจมเพื่อระลึกเรื่องราวอันเกรียงไกรของเหล่า มือปราบชื่อดัง แห่งยุทธจักรตำรวจ
เสียดายที่จำนวนไม่น้อยติดภารกิจ ทำให้อดไปสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความชื่นมื่น
หลายคนประทับใจ เมื่อมารวมตัวนั่งโต๊ะ กินข้าวหม้อเดียวกัน ไม่มีแบ่งสำรับ แยกชนชั้นของนายหรือลูกน้องกันอีกครั้ง
เป็นวัฒนธรรมตำรวจ “สืบสวนเหนือ” ที่ยาวนานหลายสิบปี ก่อนแยกเป็นสืบสวนนครบาล 1
การได้มาร่วมนั่งกินข้าวเหมือนเปิดโอกาสได้ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระดมความคิด มีส่วนช่วย “ปิดฉาก” คดีสำคัญระดับชาติมากมาย
เมื่อทุกคนรวม หัวจิตหัวใจเป็นหนึ่งเดียว ทุ่มเทเสียสละ ประดับความสำเร็จให้แก่องค์กร สร้างความสงบสุข ทำประชาชนชาวกรุงนอนตาหลับ
นี่คือ “เคล็ดลับ” การทำงานที่เนรมิตตำนานนักสืบรุ่นเก่า
ผิดกับนักสืบยุคปัจจุบัน มี “แกะดำ” หัวทิ่มหัวตำอยู่กับกองผลประโยชน์
ไม่รู้ต้องโทษ “ระบบการแต่งตั้ง” ที่เฮงซวย หรือเพราะ “นาย” มันห่วยกันแน่!!!
สหบาท