เล่นงิ้วต้องมีการโหมโรง เล่นลิเกก็ต้องมีออกแขก แม้แต่เล่นปาหี่ ยังต้องตะโกน “อับดุล เอ๊ย” เรียกความสนใจ
ฉะนั้น ในห้วงการเมืองกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม เหลืออีกแค่เดือนกว่าก็จะถึงวันประชามติชี้ชะตาร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์
ข่าวแนะนำ
จึงไม่แปลกแต่ประการใด ที่นักการเมือง เสือ สิงห์ กระทิง แรด จะออกมาวาดลวดลายโชว์พาวกันยกใหญ่!!!
เพราะนักการเมืองไทย มีสัญชาตญาณพิเศษ จมูกไวเหมือนมด สายตาคมประดุจเหยี่ยว อ่านไต๋ขาด มองสถานการณ์ล่วงหน้าทะลุปรุโปร่ง
ไม่ว่าผลการลงคะแนนเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 7 สิงหาคม จะออกมามุมไหน??? ผ่านฉลุยเรียบร้อยโรงเรียน “มีชัย” หรือโดนคว่ำแท้งคาคูหาลงคะแนน!!!
แต่ยังไงๆ การเมืองก็ต้องไหลเลื่อนเคลื่อนขยับกลับไปสู่กระบวนการเลือกตั้งอยู่ดี
ที่สำคัญ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ในฐานะรัฏฐาธิปัตย์ ประกาศล่วงหน้าไว้ชัดแจ้ง
“ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ก็ต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ การเลือกตั้งต้องมีรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งจะจัดได้ ต้องไม่มีความรุนแรง บ้านเมืองต้องมีเสถียรภาพ ใครจะรับหรือไม่รับ ก็ยังเดินไปตามโรดแม็ป”
ฉะนั้นไม่ต้องตีความให้เมื่อยตุ้ม เพราะหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ “บิ๊กตู่” มีอำนาจเต็มที่จะปั้นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาบังคับใช้ เพื่อจัดเลือกตั้งภายในปี 2560 ตามโรดแม็ป ได้อยู่แร้ววว์แหงแก๋
ยกเว้นแต่ว่าเกิดความไม่สงบ มีเหตุจลาจลปะทะกันเสียเลือดเสียเนื้อ ก็ต้องเลื่อนเลือกตั้งไปโดยปริยาย
ด้วยเหตุนี้ นักการเมืองประเภทนกรู้ จึงรีบฉวยจังหวะห้วงรอยต่อเปลี่ยนผ่านสู่สนามเลือกตั้ง ชิงซีนเด่น หวังสร้างกระแส ปั่นราคาให้ตัวเองกันอึกทึกครึกโครม!!!
แต่ที่มาแรงแซงโค้ง ต้องยกให้ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าของฉายา “เจ้าแม่ กทม.” พรรคเพื่อไทย ที่ผันตัวไปปลีกวิเวก เน้นทางธรรมอยู่พักใหญ่
กลับมาคราวนี้ เจ๊ แกกระโจนลงกลางวง แบบสะเทือนเลื่อนลั่น ประกาศตัวเป็นแกนหลัก นัดหารือนักการเมืองบิ๊กเนมทุกพรรค ชูธงพูดคุยแสวงหาความร่วมมือแก้ไขปัญหาบ้านเมือง
ในฐานะที่นักการเมืองเป็นต้นตอสำคัญของปัญหาความขัดแย้งและวิกฤติประเทศ ที่เกิดจากการชิงอำนาจ
ขอโชว์บทเด่น ยกตัวเป็นต้นตำรับปฏิรูปนักการเมืองรอบใหม่!!!
แม้การขยับครั้งนี้ ไม่ได้โดนสกัดขัดขวางจากบิ๊กๆ คสช. มีเพียงแค่ส่งเสียงเตือนเบาๆระวังอย่าทำผิดกฎหมาย
แต่ เจ๊ ก็ต้องสะอึก เมื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระดับความเขี้ยวเก๋าเกมพอกัน แตะเบรกออกอากาศดังๆ บอกนักการเมืองพูดคุยกันโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
“แต่ที่ต้องระวังคืออาจถูกมองว่าสร้างประเด็นทางการเมืองขึ้นมา ทำให้เกิดความหวาดระแวง ทำให้เกิดช่องว่างกับฝ่ายอื่นมากขึ้นว่าคิดแต่เรื่องตัวเอง”
พร้อมส่งสัญญาณห้ามลูกพรรค ไม่ให้เข้าร่วมวงเป็นนั่งร้าน
คนรู้ทันกัน แค่กรีดเล็กๆ แต่มันเจ็บลึกถึงกระดองใจเชียวนะทั่นผู้ชม!!!
“พ่อลูกอิน”