การโฆษณา ไม่ว่าจะทางสื่อโทรทัศน์ หรือสื่ออื่นๆ มีเป้าหมายเดียวกันครับ คือแนะนำหรือตอกย้ำผลิตภัณฑ์สินค้านั้นๆให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายของผู้บริโภค
แต่ผู้สร้างสรรค์สปอตโฆษณาต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นมืออาชีพ จะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม
ข่าวแนะนำ
เนื้อหา นอกจากจะไม่ขัดต่อกฎหมายระเบียบแล้ว การให้ความจริงไม่หมด หรือเป็นเท็จในบางส่วน ก็ไม่ควรกระทำ...
แต่เดิมนั้น โฆษณาลักษณะนี้จะตั้งราคาสินค้าไว้สูงลิบลิ่ว แต่หากโทร.มาในเวลาที่ออนแอร์ (ความจริงโทร.ได้ตลอด) เขาลดราคาหลายๆเท่า หรือซื้อ 1 แถม 3 ประมาณนี้
จะนิยมโฆษณาในช่องทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวีครับ
หากออนแอร์ในทีวีกระแสหลัก ก็เป็นช่วงตีสามขึ้นไป คือกระมิดกระเมี้ยนทำพอสมควร?!?
วันนี้ สินค้าคงขายยาก เขาโฆษณาอย่างโจ่งแจ้งในเวลาปกติของทีวีช่องหลักๆเลยล่ะครับ...
ผมไม่โทษพรีเซ็นเตอร์ที่ไปยืนแหกปากโฆษณา กระทะใบหนึ่งราคาหมื่นกว่าๆเกือบสองหมื่นบาท เพราะเขาว่าไปตามบท
แต่ สคบ.แยกส่วนประกอบวัสดุที่ผลิตกระทะนั้นหรือยัง ว่ามันทำมาจากหนวดเต่า เขากระต่ายอะไร ถึงได้แพงลิบลิ่วประมาณนั้น??
แม้ตอนหลังจะพูดว่า หากโทร.มาตอนนี้ ลดเหลืออีกราคาหนึ่ง ซื้อ 1 แถม 1 (มุกเก่า)
ผู้บริโภคนะครับ บางทีวิจารณญาณไม่เท่ากัน เพียงได้ยินราคาตอนแรก และเปรียบเทียบราคาตอนหลัง ก็รีบซื้อ เพราะนึกว่าลดสุดๆ
ในอังกฤษนะครับ ผู้ผลิตสินค้าอันหนึ่ง น่าจะเป็นเครื่องตรวจจับระเบิด
ต้นทุนการผลิตไม่กี่ร้อย แต่นำมาเสนอขายในราคาที่ต่างกันมาก!!
และตอบสังคมไม่ได้ว่าที่แพง แพงจากวัสดุอะไรในตัวสินค้า ปัจจุบันก็ถูกศาลยึดทรัพย์ เป็นคดีความโด่งดังไปทั่วโลก...
โฆษณาหลายๆชิ้นในสื่อโทรทัศน์ไทยก็ทำนองนี้แหละ รักดอกจึงเตือนมานะครับ.
สันติพงษ์ นาคประดา
“แจ๋วริมจอ”
jaewrimjor@gmail.com