“เวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก”
เผลอแป๊บเดียวปีพุทธศักราช 2559 ก็ล่วงผ่านเข้าสู่เดือนที่ห้า “พฤษภาคม” กันแล้ว
เดือนพฤษภาคม จัดเป็นเดือนที่มีวันสำคัญของประเทศไทยเราอยู่หลายวันเริ่มจาก “เมย์เดย์” วันแรงงานแห่งชาติ ในวันที่ 1 พ.ค.
ตามด้วยวันฉัตรมงคล 5 พ.ค. ต่อเนื่องไปถึง วันพืชมงคล ในวันที่ 9 พ.ค. และวันวิสาขบูชาที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 20 พ.ค.
แต่ละวันมีความสำคัญที่แตกต่างกันออกไป แต่วันนี้ผมตั้งใจจะเขียนถึง “วันฉัตรมงคล” ที่กำลังจะมาถึงในวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ค.นี้
เพราะจะเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยทั้งชาติ จะทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์องค์ใดในโลกใบนี้
ในหลวง รัชกาลที่ 9 ของเรา ขึ้นครองราชย์ ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 ซึ่งครั้งนั้นพระองค์ได้ทรงมีพระปฐมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์ สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
จากวันนั้นถึงวันนี้เวลาล่วงเลยมา 7 ทศวรรษแล้ว “พระเจ้าแผ่นดิน” ของพสกนิกรชาวไทยทุกคน ไม่เคยละจากคำสัญญานั้น
พระองค์ทรงงานหนัก จนเรียกได้ว่าเป็น “พระราชา” ที่เหน็ดเหนื่อยที่สุดในโลก ก็เพื่อความผาสุกของไพร่ฟ้า อาณาประชาราษฎร์
และเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน สโมสรราชพฤกษ์ หรือ ราชพฤกษ์คลับ ซึ่งเป็นสโมสรกีฬาที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บริการด้านการออกกำลังกายและนันทนาการ จึงได้ร่วมกับสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทยและชมรมคนข่าวสุขภาพดี
จัดโครงการเดินวิ่งเทิดพระเกียรติวันฉัตรมงคล เฉลิมฉลอง 70 ปี แห่งการครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้ชื่อรายการ “ราชพฤกษ์...แด่ในหลวงด้วยดวงใจ” 5 พ.ค. 5 กม. ไมโครมาราธอน 2559
โดยงานนี้ริเริ่มจัดกันมาตั้งแต่ 5 พ.ค.ปีที่แล้ว โดยมี “บิ๊กแป๊ะ” ถิรชัย วุฒิธรรม ประธานกีฬาราชพฤกษ์คลับ เป็นหัวหอก
เดิมทีตั้งใจที่จะจัดงานเล็กๆให้ผู้คนมาร่วมออกกำลังกายแสดงความจงรักภักดีในวันฉัตรมงคล แต่เอาไปเอามาปรากฏว่างานนี้กลายเป็นงานใหญ่ที่ผู้คนสนใจและถือเป็นงานวิ่งที่ถูกโจษขานถึงมากที่สุดของเมืองไทยอีกงานนึง
ถึงขนาดถูกโหวตให้เป็นรายการวิ่งประเภทมินิมาราธอน และฟันรัน ที่นักวิ่งประทับอก ประทับใจ มากที่สุดเป็น “อันดับที่ 2” ในสังคมโซเชียลกันเลยทีเดียว
เนื่องจากบรรยากาศอบอุ่น มีสีสัน และเจ้าภาพสโมสรราชพฤกษ์ก็เลี้ยงดูปูเสื่อนักวิ่งทุกคนอย่างดี
ที่สำคัญเหรียญที่ระลึกของงานนี้ไม่เหมือนที่ใด เพราะเป็นเหรียญที่ทำการสลักชื่อของทุกคนลงไป แบบเหรียญใคร เหรียญมัน
กลายเป็นเอกลักษณ์ของงานวิ่งราชพฤกษ์ที่ต้องสืบสานกันต่อไป เรียกว่าใครวิ่งแล้วอยากจะมีเหรียญเป็นของตัวเองก็ต้องมางานนี้
ยิ่งผู้จัดเขาจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมไว้ เพียง 999 คน ยิ่งทำให้งานวิ่งของราชพฤกษ์
ฮอตฮิตขนาดที่ว่าเปิดรับสมัครกันยังไม่ถึง 15 นาที จำนวนดังกล่าว “เต็ม” เรียบร้อย และไม่มีการรับเพิ่มอีกอย่างเด็ดขาด
ดังนั้นใครที่อยากจะวิ่งงานนี้ก็ต้องรออีกทีปีหน้า
ส่วนผู้ที่มือไวสมัครได้ทัน ก็ถือว่าท่านโชคดีที่จะได้ร่วมเดินวิ่งเทิดพระเกียรติในหลวงของเรา ในวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ค.นี้
แล้วไปร่วมกันเปล่งคำว่า “ทรงพระเจริญ” ให้กึกก้อง ในเช้าวันนั้นครับ !!!