อีกไม่กี่อึดใจแล้ว มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี จะประเดิมจัดงานใหญ่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
กับการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 43 หรือ “กันเกราเกมส์” ระหว่างวันที่ 9-18 ม.ค.นี้
สำหรับชื่อ “กันเกราเกมส์” หากใครยังไม่ทราบที่มา หรือไม่คุ้นหู ขออนุญาตขยายความเล็กน้อย
กันเกรา ถือเป็นไม้มงคล 1 ใน 9 ชนิด
และยังเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นไม้ยืนต้น มีดอกสีเหลือง กลิ่นหอม ออกดอกเดือน เม.ย.-พ.ค.ของทุกปี
แม้ต้นกันเกราจะขึ้นอยู่ในดินอันขาดความอุดมสมบูรณ์ ก็สามารถยืนต้น เจริญเติบโตได้อย่างงดงาม
เนื้อไม้กันเกราแข็งแรง ทนทาน ปลวกไม่สามารถทำลายได้ ทั้งยังมีน้ำมันในเนื้อไม้ ช่วยรักษาเนื้อไม้ได้ดี และขัดเงาได้สวยงาม
เปรียบเหมือนมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
แม้เป็นมหาวิทยาลัยขนาดเล็ก แต่ละปีได้รับการจัดสรรงบประมาณไม่มากนัก
แต่ก็ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออำนวยคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ การออกดอกพรั่งพรูพร้อมกันทั้งต้น ก็เปรียบได้กับความสามัคคีของบุคลากรและนักศึกษา ที่จะทำให้สถาบันเจริญก้าวหน้า
เรียกได้ว่า มีความหมายที่ดี น่าจะนำทางให้การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จและราบรื่นไปได้
สำหรับกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 43 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ใช้คำขวัญว่า “สายน้ำ แสงตะวัน เชื่อมสัมพันธ์ สามัคคี”
มีปลาบึกชื่อ “บึกบึน” และ “บัวบาน” เป็นสัตว์นำโชค
เจ้าภาพจัดแข่งขันทั้งหมด 25 ชนิดกีฬาหลัก ชิงชัยรวม 340 เหรียญทอง พร้อมกันนี้ ยังมียูยิตสู และบีบีกัน เป็น 2 กีฬาสาธิต
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ตั้งเป้าผลงานของนักกีฬาเอาไว้ที่ “ทำให้ดีที่สุด”
ส่วนสถิติการแข่งขันครั้งล่าสุด กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 42 “นนทรีเกมส์” ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นเจ้าภาพ
เป็นทัพนักกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่คว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในภาพใหญ่ มหา- วิทยาลัยรามคำแหงยังครองสถิติเป็นเจ้าเหรียญทองมากที่สุด ทำไปได้ 15 สมัย
รองลงมา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 12 สมัย ต่อด้วยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 7 สมัย ขณะที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 4 สมัย
และมหาวิทยาลัยศรีปทุม กับสถาบันการพลศึกษา 2 สมัยเท่ากัน
ส่วนในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 43 “กันเกราเกมส์” สถาบันใดจะครองความยิ่งใหญ่ ยึดตำแหน่งเจ้าเหรียญทองไปครอง
ติดตามกันให้ดี...