จากกรณีนายอภินันท์ พิงคะสัน ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองไซ หมู่ 14 ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน พร้อมด้วยนายเลิศฤทธิ์ มะโน ทนายความและชาวบ้านกว่า 20 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ ทิพยผลาผลกุล รอง ผกก.สส.สภ.เหมืองจี้ อ.เมืองลำพูน ให้ตรวจสอบมูลนิธิอโศกมุนีแสงธรรม บ้านหนองไซ หมู่ 14 ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน และให้ดำเนินคดีนายสินธพ ทรวงแก้ว ที่อ้างว่าเป็นผู้ดูแลมูลนิธิ ซึ่งมีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นเกจิอาจารย์เขียนตำนานพระพุทธประวัติฉบับพิสดาร โน้มน้าวให้ผู้คนศรัทธาบริจาคเงิน ทั้งยังอ้างว่าเป็นผู้มีบุญบารมีเก็บพระอรหันต์ 28 องค์ พระพุทธรูปโบราณอายุพันกว่าปี
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นหากมีชาวบ้านร้องเข้ามายังตำรวจภาค 5 และยื่นเรื่องถึง พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 ท่านก็จะสั่งการมายังชุดสืบสวนให้เข้าไปตรวจสอบ เนื่องจากตำรวจท้องที่อาจจะติดขัดในเรื่องของกำลังเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจค้นตามจุดต้องสงสัย โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แอบอ้างว่าไม่ได้สร้างขึ้นเองและอ้างว่าพบตามป่าดอยไซ ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน ทางตำรวจก็จะทำการตรวจสอบพร้อมกับประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการเพื่อให้ได้รับความกระจ่างว่าพระพุทธรูปนั้นเป็นพระอรหันต์พันปีจริงหรือไม่ หรือมีการแอบอ้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงชาวบ้านหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ทางตำรวจจะดำเนินการได้ แต่ต้องมีผู้ร้องก่อนถึงจะลงไปตรวจสอบ
ทางด้านนายเลิศฤทธิ์ มะโน ทนายความชาวบ้าน เปิดเผยว่า ดูเหมือนว่าในการตรวจสอบพระพุทธรูปที่นายสินธพ ทรวงแก้ว กล่าวอ้างว่าเป็นพระอรหันต์พันปีจากประเทศอินเดียแล้วไปอยู่ตามป่าเขา ดอยไซ จ.ลำพูน เรื่องนี้ดูแล้วจะล่าช้า ทั้งๆที่เราร้องทุกข์ให้ตรวจสอบมานานเป็นสัปดาห์แล้ว แต่ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร สาเหตุอาจจะติดชะงัก ในบางเรื่อง เช่น การตรวจเอกสารที่ทางมูลนิธิได้นัดหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ตอนแรกนายสินธพอ้างว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ แต่พอ เอาเข้าจริงกลับขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 21 ธ.ค.ซึ่งล่าช้ามาก หลักฐานและเอกสารบางอย่างอาจจะถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ได้ โดยเฉพาะบัญชีทางธนาคาร อย่างไรก็ตาม ตนจะเดินทางเข้าพบกับ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนและให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนต่อไป.
...