“ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่การบอก ความจริงไม่หมด หรือบอกเพียงครึ่งหนึ่ง
คนที่บริโภคสื่อโฆษณา โดยเฉพาะการ โฆษณาทางโทรทัศน์เรื่องการประกันชีวิต ประกันสุขภาพต่างๆ อาจไม่เป็นดั่งท่านมุ่งหวังหรือเป็นตามที่เอาดาราอาวุโสมาโหมโฆษณา...
ข่าวแนะนำ
หลายบริษัทประกันแข่งขันกันดุเดือด ครับ
ปัญหาอยู่ที่ว่า คนดูนั้นเข้าใจกี่มากน้อยในการประกันชีวิตแบบต่างๆที่ “ยัดเยียด” เข้ามาถึงห้องนอนผ่านสื่อโทรทัศน์...
การประกันชีวิตซึ่งความจริงคือนิติกรรมและสัญญารูปแบบหนึ่งระหว่างบุคคลสองฝ่าย
มันง่ายเพียงแค่ยกหูโทร.แค่ครั้งเดียวก็บรรลุผลจริงๆหรือครับ??
หรือว่ามันง่ายเพียงแค่ “ขั้นตอนการสมัคร” กับ “ตัวแทนขายประกัน”
แต่มันยากเย็นและไม่เป็นไปตาม โฆษณา ในขั้นตอนการจะเคลมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิต บาดเจ็บ ฯลฯ
ผมเข้าใจว่า มีอีกหลายสาระสำคัญ
ที่หมกเม็ดอยู่!!
ส่วนใหญ่จะเน้นผู้สูงอายุ 50-70 ปี
โดยประมาณ ตะบันน้ำส่งเบี้ยประกันไปเรื่อยๆ แหละ
จากนั้นหากยังมีชีวิตอยู่ หรือยังจำได้ว่าเงินคืออะไร ก็อาจจะได้รับคืนเมื่อตอนอายุ 90 ปี!!
ส่วนประเด็นเรื่องไม่ต้องตรวจ หรือ ตอบคำถามสุขภาพนั้น ความจริงเคยมี
เคสสู้กันถึงโรงถึงศาลมาแล้ว แพ้ชนะว่ากันไปตามบริบท!!
เอาเป็นว่า ตัวแทนขายมิใช่ผู้มีอำนาจเต็มในการลงนามในสัญญากรมธรรม์ ทั้งสคบ. ทั้งหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการประกัน ชีวิต น่าจะไม่เคยดูโฆษณาจำพวกนี้กระมัง??
ว่างๆก็ดูบ้างนะครับ จริงเท็จอย่างไรบอกไปได้ ถ้าดีก็ควรสนับสนุน เพราะเป็นสวัสดิการพื้นฐานอย่างหนึ่งของ ประชาชน...
แต่ถ้าหมกเม็ด ไม่จริงใจ ก็จะได้จัดหนัก จัดเต็มกันต่อไป”
“สันติพงษ์ นาคประดา”
ครับ, ใครจะปกป้องคุ้มครองผู้อาวุโส ก็กวักมือเรียกเข้ามาได้เลย!!
‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com