ชาวบ้านที่โพธารามราชบุรี แห่ขอตรวจสอบทองรูปพรรณที่จำนำไว้กับสถานธนานุบาล หลังมีข่าวเหม็นฉึ่งออกมาว่า มีคนในฉ้อฉลยักยอกทอง ด้วยการแอบเอาทองปลอมมาจำนำ จนเกิดความเสียหายนับสิบล้าน ล่าสุดรองอธิบดีฯรุดมาสอบด้วยตัวเอง...
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 20 ก.ค.58 หลังจากที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองโพธาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้หยุดทำการมาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งวันนี้ ได้มีประชาชนนับร้อยคนที่เป็นผู้จำนำทรัพย์สิน ได้แห่เข้ามาขอตรวจสอบทองคำรูปพรรณที่ตนเองนำมาจำนำไว้ หลังจากมีข่าวว่าเกิดการทุจริตด้วยการนำทองคำรูปพรรณปลอม มาแอบอ้างจำนำแล้วยักยอกเอาเงินออกไป และทางโรงรับจำนำได้ปิดทำการ เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น ได้มีนายโชคชัย เดชอมรธัญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เดินทางมาตรวจสอบ โดยได้สอบถามข้อเท็จจริงจากนิติกรของเทศบาลเมืองโพธาราม และมีนายสวัสดิ์ จังพาณิชย์ นายกเทศมนตรีเมืองโพธาราม ร่วมให้ข้อมูล
นายโชคชัย เดชอมรธัญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น แต่เป็นเรื่องภายใน ไม่กระทบต่อประชาชนแต่อย่างใด โดยประชาชนยังสามารถมาใช้บริการได้ตามปกติ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะที่มีเจ้าหน้าที่บางคนของโรงรับจำนำเอง ใช้ทองคำปลอมที่ส่วนใหญ่เป็นทองรูปพรรณทั้งหมด แอบอ้างนำชื่อบุคคลอื่นที่เคยเป็นลูกค้าประจำของโรงรับจำนำยักยอกเอาเงินออกไป ไม่ใช่ทรัพย์สินของประชาชนอย่างแน่นอน และจากการตรวจสอบพบว่า บางส่วนเป็นทองปลอมนำมากระทำการดังกล่าวจริง บางส่วนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะนี้ผู้เสียหายคือทางเทศบาลเมืองโพธารามได้มีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว ส่วนตัวเลขเงินที่ถูกยักยอกไปนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกัน
...
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีการสั่งพักงานผู้จัดการสถานธนานุบาลดังกล่าว พร้อมผู้ช่วยผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่สถานธนานุบาลที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีก 2 คน เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ากระทำผิดก็จะมีความผิดทั้งทางวินัย แพ่ง และอาญา ซึ่งการมาตรวจพบการทุจริตในครั้งนี้เป็นการตรวจสอบตามระบบปกติที่มีรอบของการมาดูแลอยู่แล้ว และมาพบการกระทำผิด จึงได้มีการสั่งการให้มีการตรวจสอบไปยังสถานธนานุบาลที่อยู่ภายใต้การดูแลทั่วประเทศด้วย รวมถึงจะเพิ่มความถี่และเฝ้าระวังตั้งแต่รับจำนำทองรูปพรรณเข้ามายังสถานธนานุบาลว่า เป็นของจริงหรือของปลอม อย่างเข้มงวดขึ้น
ด้านนางกาหลง ยอดรัก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.6 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี ที่มาขอดูทองคำรูปพรรณที่นำมาจำนำไว้ที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองโพธาราม กล่าวว่า หลังจากรู้ข่าวว่ามีการนำทองปลอมมาแอบอ้างจำนำแล้วยักยอกเงินออกไปก็รีบมาดูว่าทองของตัวเองยังอยู่และเป็นของจริง ซึ่งเมื่อดูแล้วพบว่าทองคำยังอยู่เหมือนเดิม ก็สบายใจว่าตัวเองไม่ได้มีอะไรเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบ หลังทราบข่าวว่ามีการทุจริตภายในสถานธนานุบาลดังกล่าว พบว่าสถานธนานุบาลฯปิดทำการ จึงได้ถ่ายภาพเพื่อทำข่าว แต่ถูกนายจีระศักดิ์ รอดชาติ ผจก.ห้ามไม่ให้ถ่ายภาพ ซึ่งเมื่อสอบถามนายจีระศักดิ์ บอกว่ามีการทุจริตจริง แต่เงินประมาณ 1,800,000 เท่านั้น แล้วจะเดือดร้อนอะไร ขณะที่ตัวเลขความเสียหายจริงน่าจะเป็นหลักหลายล้าน หรืออาจจะถึง 10 ล้านบาทเลยทีเดียว จนรองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง.