
จุดชนวน ‘สละเรือแป๊ะ’
ไม่ต้องอารัมภบทเลย
รายการคืนความสุขฯสัปดาห์ล่าสุดที่ผ่านมา เริ่มต้นประโยคแรก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ก็จั่วหัวถึงการดูแลเศรษฐกิจในขณะนี้ เป็นเรื่องสำคัญมาก
ข่าวแนะนำ
ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ในการดูแลทุกภาคส่วน
โดยแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ระดับประเทศ ได้แก่ การค้าการลงทุน ในเรื่องของเศรษฐกิจมหภาค และในระดับชุมชนที่เน้นกลุ่มชาวบ้านผู้มีรายได้น้อยต่างๆ
ตามรูปการณ์มันก็ชัดเจน ปมเศรษฐกิจถูกจัดชั้นความสำคัญมาเป็นลำดับแรก
โดยโจทย์หินของรัฐบาลทหาร เงื่อนสถานการณ์บังคับที่เต็มไปด้วยปัจจัยด้านลบทั้งในและนอกประเทศ ขณะที่ความเดือดร้อนกำลังลามถึงปากท้องประชาชน
อารมณ์ของคนหงุดหงิดจากปัญหาเศรษฐกิจ มันพาลไปได้หมด
ถึงเวลาระเบิดขึ้นมา เผลอๆอำนาจปลายกระบอกปืนก็สะกดไม่อยู่
ดูแล้วท็อปบูตแหยงเรื่องเศรษฐกิจที่สุด เพราะนี่คือปัจจัยแทรกที่เสี่ยงทำให้สถานการณ์อำนาจภายใต้การคุมเกมของ คสช.พลิกผัน
จับทาง พล.อ.ประยุทธ์ไม่กล้าประมาทก็แล้วกัน
โดยเฉพาะในจังหวะที่โรดแม็ปเดินมาถึงโค้งสำคัญ กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญใหม่มาถึงประเด็นที่ส่งผลได้เสียกับเกมอำนาจประเทศไทย
ตามโปรแกรมที่ “36 อรหันต์ทองคำ” นำโดย “ด็อกเตอร์ปื๊ด” นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ยกพลไปเข้าค่ายออกแบบกติกาใหม่กันที่ริมหาดชายทะเลพัทยา 6 วัน 6 คืน
“ปล่อยของ” ออกมากระตุกเสียงฮือฮาต่อเนื่อง
ทั้งเรื่องของสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งทางอ้อมของผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่างๆ โดยตัด ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งตรงจากประชาชนออกไป รวมถึงประเด็นการเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรีคนนอกที่ไม่ต้องมาจาก ส.ส. ตามหมายเหตุ เว้นช่องไฟไว้เผื่อสถานการณ์ “ติดล็อก” การเมืองวิกฤติเหมือนที่เคยเกิดขึ้น
กระแส “ลากตั้ง” ดังอื้ออึง จุดชนวนต้านพรึบพรับ
แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า ไปกระตุกอาการขยับพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย ทั้งยี่ห้อประชาธิปัตย์ ทั้งค่ายเพื่อไทย ประสานเสียงโห่ฮาสามัคคีกันเฉพาะกิจ “นักเลือกตั้งอาชีพ” รวมหัวต่อต้านโมเดลเวนคืนอำนาจไปใส่มือคนนอก
นักการเมืองไม่ยอมเสียดุลอำนาจง่ายๆอยู่แล้ว
และขึ้นชื่อว่า “นักเลือกตั้งอาชีพ” ก็พวกมีฤทธิ์เดชด้วยกันทั้งนั้น
ซึ่งมันก็คือสัญญาณแรงเสียดทาน ตามกระบวนการที่วางกันไว้ ถ้าสุดท้ายเลยร่างรัฐธรรมนูญต้องผ่านขั้นตอนการทำประชามติ
มีหวังฝ่ายคุมเกมปฏิรูปต้องออกแรงลากกันเหนื่อยแน่
ตามรูปการณ์ แรงเสียดทานภายนอกก่อตัว พร้อมๆกับแรงกระเพื่อม ภายในก็เขย่าจนกระฉอก ตามปรากฏการณ์ที่นางทิชา ณ นคร ได้ตัดสินใจ “ถอนยวง” ยื่นใบลาออกทั้งจากคณะกรรมาธิการยกร่างฯ และการเป็น สปช.
ทิ้งทุ่นไว้ว่า ไม่อยากเป็น “ปลาคนละน้ำ”
เบื้องต้นเลย มันยิ่งซ้ำสถานการณ์ของทีมงาน “36 อรหันต์ทองคำ” ที่กำลังทรงตัวสู้กับแรงเสียดทานโมเดลรัฐธรรมนูญใหม่ที่พุ่งเข้าใส่ทุกทิศทุกทาง
อย่างไรก็ตาม นายบวรศักดิ์เคยกระซิบผ่านคนใกล้ชิดเหมือนคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ในบรรดา “36 อรหันต์ทองคำ” ต่างคนต่างแน่ด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครชี้นิ้วกำกับเกมได้
ถ้าถึงขั้นมีปัญหา ก็น่าจะมีคิว “ถอนยวง” แก้เผ็ด ย้อนเกล็ดประจานกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในมุมของนายบวรศักดิ์ตอนนั้น เน้นน้ำหนักไปที่ประเด็น “พิมพ์เขียว” ของ คสช. ที่ล็อกโพยให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทำตามโจทย์ที่กำหนดไว้
ไม่ได้หมายรวมถึงประเภท “ดราม่า” แค่ปมไม่สบอารมณ์ส่วนตัว ไม่ได้ดั่งใจก็ชิงถอนสมอ ก่อแรงกระเพื่อมภายในคณะกรรมาธิการยกร่างฯ
ทำลายความชอบธรรมของ “36 อรหันต์ทองคำ”
ก่อชนวนให้เห็นภาพของการเริ่ม “สละเรือแป๊ะ”.
ทีมข่าวการเมือง