"มนุษย์ติ่ง" ถ้าเอ่ยคำนี้ขึ้นมาเรียกได้ว่าอานุภาพของพวกเขาและเธอช่างแรงสูงเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นติ่งไทย ติ่งเทศ ติ่งอะไรก็ตามแต่ แต่ในที่นี้ "ไทยรัฐออนไลน์" ขอพูดถึงติ่งเกาหลี...
ในปีนี้สังเกตได้ว่าศิลปินเกาหลีมักจะแวะเวียนมาจัดคอนเสิร์ตใหญ่ จัดงานมีตติ้งกันบ่อยเหลือเกิน เรียกได้ว่ามากันไม่ขาดสาย สาเหตุใหญ่ๆ ก็คงจะเป็นเพราะการต้อนรับที่สุดแสนจะอบอุ่นของแฟนคลับชาวไทย ไม่ว่าจะเป็น Got7, 2NE1, EXO, JYJ, ลี มินโฮ, ปาร์คชินเฮ, รันนิ่งแมน, และการกลับมาอีกครั้งของวง 2PM ที่จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ในวันที่ 11 ต.ค.2557 กับคอนเสิร์ต 2 PM WORLD TOUR IN BANGKOK

งานนี้ต้องบอกไว้เลยว่าใครได้หลวมตัวเป็นสาวกของไอดอลเกาหลีแล้ว เป็นแล้วเลิกได้ยากมาก จะให้ไปเลิกที่ถ้ำกระบอกก็เห็นท่าจะไม่ได้ ด้วยเสน่ห์และอะไรหลายๆ อย่างในตัวศิลปินเกาหลี มนุษย์ติ่งทั้งหลายขอทุ่มทั้งแรงกายแรงใจ ไม่ว่าไอดอลของพวกเขาและเธอจะมาเยือนไทยกันสักกี่ครั้ง ติ่งเกาหลีพร้อมซัพพอร์ตทุกงาน

...
ไทยรัฐออนไลน์ ขอเอาใจมือใหม่หัดติ่ง ทำคู่มือเตรียมความพร้อม เป็นมนุษย์ติ่ง เขาต้องทำอะไร มีพฤติกรรมอย่างไร พกอะไรกันบ้าง เมื่อจะไปตามศิลปินเกาหลี เริ่มมาสแกนความเป็นติ่งในตัวคุณกันได้เลย!
1. ข้อแรกสำคัญที่สุด สิ่งที่ติ่งเกาหลีจะต้องมี คือ "เงิน" ถ้าไม่มีสิ่งนี้ก็คงจะอยู่ยากกันสักหน่อย แต่จะไปขอพ่อแม่ ผู้ปกครอง อันนี้ก็สุดแล้วแต่ว่าบ้านของคุณจะมีรายได้มากพอให้คุณนำไปติ่งไหม หรืออาจจะมีการตกลงกันในครอบครัวก็ได้ว่า ถ้าลูกสอบได้เกรดเท่านี้ๆ จะซื้อบัตรคอนเสิร์ตให้ จะซื้ออัลบั้มเพลง ของสะสมต่างๆ ให้ หรือถ้าอยากติ่งด้วยความสามารถของตัวเอง การทำงานพิเศษก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ไม่ต้องรบกวนเงินในกระเป๋าผู้ปกครองอีกด้วย

2. รู้ประวัติศิลปินที่คุณรักแบบลึกถึงคณาญาติ
3. ตื่นเช้าตรู่เพื่อกดจองบัตรและเข้าคิวซื้อบัตรคอนเสิร์ตคนแรกๆ เพราะถ้าเกิดช้าบัตรอาจจะหมดก่อนได้
4. มีขนมนมเนย ตุ๊กตา ของฝาก ไว้ให้กับไอดอลที่คุณรัก สิ่งนี้น่าจะเตรียมพร้อมกันไว้ทุกคน อาจจะเอาไว้หลอกล่อศิลปินของคุณ มาทางนี้สิๆ มาหาฉัน ฉันมีของจะให้คุณนะ
5. คุณจะต้องมีผ้าเชียร์ ป้ายไฟ (ถ้าเอาเข้าคอนเสิร์ตในฮอลล์ ต้องมีขนาดไม่เกิน A4) และสิ่งที่จะทำให้ศิลปินประทับใจอย่างไม่รู้ลืมคือ ป้ายโปรเจกต์

6. สิ่งที่มนุษย์ติ่งต้องพกนอกจากเงินและพร็อพต่างๆ แล้ว คือ ยาดม พัด น้ำดื่ม เหมือนจะไม่สำคัญนะ แต่จริงๆ แล้วสำคัญมาก สำคัญต่อชีวิตของเราทีเดียว ยามเหนื่อย หอบแดด ร่างกายไม่ไหว ก็ควักสิ่งพวกนี้ขึ้นมาประทังชีวิตก่อนจะได้ตามศิลปินกันไปยาวๆ

...

7. ใครที่ติ่งหนักๆ ติ่งแบบมืออาชีพ คิดว่าวันนี้ฉันจะต้องเห็นหน้าโอปป้าให้ได้ ก็น่าจะมีเก้าอี้พับไว้ยืนเพื่อจะได้เห็นหน้าโอปป้าของคุณ ทั้งยังได้เก็บภาพความประทับใจไว้ทุกชอต ก็ต้องมีเลนส์กล้องเหมือนปืนใหญ่ซูมได้ 1,000 เท่า เห็นถึงรูขุมขน
8. มนุษย์ติ่งต้องตามงานเพลง ต้องรู้ว่าไอดอลของคุณ จะมีโชว์ไลฟ์แบบไหน มี Goodbye stage, comeback stage เมื่อไหร่ไปออกรายการวาไรตี้ที่ไหนอะไรยังไงต้องตามดูให้หมด

...
9. มีทักษะในการรวมพลแฟนคลับกลุ่มเดียวกันเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่นการโหวตเพื่อให้ชนะรางวัลในรายการต่างๆ การช่วยกันแฮชแท็ก ให้ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์ให้ศิลปินของคุณชนะ
10. ติ่งเกาหลีจะต้องมี Fanchant โค้ดเชียร์ เป็นการเชียร์ประเภทหนึ่ง ที่แฟนคลับจะตะโกนเป็นรหัสเชียร์ศิลปินในระหว่างช่วงพักของแต่ละเพลง ซึ่งศิลปินแต่ละวงแต่ละคนก็จะมีโค้ดเชียร์แตกต่างกันออกไป มนุษย์ติ่งเราเรียกว่าการอังกอร์

ข้อความจากใจ จากปาก "มนุษย์ติ่ง"
นางสาว ปฐมาภร ปรีชา นักศึกษามหาลัยแห่งหนึ่ง เล่าว่า เริ่มจากตอนแรกเลยเราแอนตี้พวกติ่งเกาหลีมากเลยนะ (หัวเราะ) เพราะเรารู้สึกว่ามันเยอะเกินอะไรกันนัก แล้วศิลปินนี่ก็ไม่เห็นจะหล่อตรงไหนเลย (สมัยเราตอนนั้นกระแสเกาหลีเพิ่งเข้ามาใหม่ๆ ยังไม่มากหลายวงเท่าตอนนี้) แต่หลังจากนั้นไม่นานเราก็เริ่มจากการดูซีรีส์เกาหลีก่อน ตั้งแต่ Full House, Coffee Prince แล้วก็เรื่องอื่นๆ ตามมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ได้ตามแล้วก็ติ่งอะไร แค่ดูหนังแล้วก็จบไป จนมาดูเรื่อง Dream high เราชอบมาก เริ่มสนใจนักแสดงที่เล่นในเรื่อง ก็เลยตามดูสืบประวัติว่าใครเป็นใคร ซึ่งในภาคแรกก็จะมี คิมซูยอน, อึนจอง T-ara, ซูจี MissA, IU, แทคยอน, อูยอง 2pm เป็นนักแสดงนำ ก็เลยเริ่มตามวง 2pm เริ่มตามสมาชิกในวง หลังจากตอนนี้ก็เข้าสู่การเป็นติ่งจริงจัง
ปฐมาภร เล่าต่อว่า ส่วนตัวเรา เราเป็นติ่งไม่ถึงขั้นตามไปรับส่งสนามบิน ตามไปนั่นนี่สถานที่ต่างๆ ขนาดนั้น เพราะที่บ้านด้วย และก็ไม่ได้อยู่ใน กทม.เลยลำบาก แต่เวลามีกิจกรรมต้องเทรนด์ ต้องโหวต เราก็จะเต็มที่จะช่วย จะอยากให้ศิลปินที่เราชอบชนะรางวัลนั่นนี่ เราเรียกแบบนี้ว่าติ่งโซนหน้าคอมฯ ซึ่งบางคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการหรือไม่ได้ติ่งแบบเราก็อาจจะไม่เข้าใจว่าอะไรจะขนาดนั้น
...

เรามองว่ากว่าคนกลุ่มหนึ่งจะได้มาเป็นไอดอลได้ เขาต้องผ่านการฝึกหรือเทรนมาเป็นปีๆ ซึ่งก็มีไอดอลที่ดังๆ ตอนนี้เกือบสิบปีก็มี ศิลปินของเขาถึงมีความสามารถรอบด้าน เพราะช่วงเวลาเทรนเขาก็ไม่ได้เทรนเฉพาะการร้องหรือเต้น แต่มีการเรียนรู้มารยาทตอนออกอากาศ หรือการวางตัวในรายการวาไรตี้ด้วย คำว่าไอดอลหรือศิลปินของเขาจึงจะต้องมีพฤติกรรมที่ดีในระดับหนึ่ง เป็นแบบอย่างได้ ก็เลยเป็นสาเหตุว่าเวลาที่ไอดอลทำผิดหรือมีแฟนถึงได้มีกระแสด้านลบออกมาเยอะแยะ เพราะแฟนๆ บางส่วนก็ยังรับไม่ได้ รวมถึงแฟนฝั่งตรงข้ามหรือแอนตี้แฟนก็จะถือโอกาสมาโจมตี ซึ่งเราว่าปัจจุบันนี้แฟนคลับหรือติ่งก็มีหลายกลุ่มมากๆ เช่น ซาแซงแฟน (ตามศิลปินแบบคลั่งไคล้) หรือแอนตี้แฟน เพราะตอนนี้กระแสเกาหลีในเมืองไทยค่อนข้างแรงมากๆ ศิลปินมาโด่งดังที่บ้านเรามากขึ้น ประกอบกับคนที่มาเป็นติ่งอายุน้อยลงเรื่อยๆ เรื่องวุฒิภาวะก็น้อยลงตาม เราถึงได้เห็นตามข่าวทั่วไปว่ามีพฤติกรรมการด่าทอระหว่างกันและกัน เมื่อมีใครสักคนมาแตะต้องศิลปินที่เขาชอบหรือแม้กระทั่งการทำร้ายตัวเองเมื่อรู้ข่าวว่ามีแฟน

"กลุ่มคนทุกกลุ่มก็ย่อมมีทั้งคนที่ดีและไม่ดี สังคมติ่งก็เหมือนกัน บางคนอาจจะโดนโกงค่าบัตรคอนเสิร์ต หรือแม้แต่คนนอกก็อาจจะเคยโดนกลุ่มติ่งสร้างความเดือดร้อนให้ แต่เราอยากให้รู้ว่าความจริงคนที่ไม่ได้เป็นแบบนั้นก็มีอีกเยอะ และเราก็แค่คนกลุ่มหนึ่งที่รักและอยากที่จะสนับสนุนศิลปินที่เรารัก เหมือนกับทุกคนที่อยากจะสนับสนุนคนที่ตัวเองชอบเหมือนกัน" ปฐมาภร ย้ำให้ข้อคิด
นางสาว พรรณนิภา บุญเวช พนักงานบริษัทเอกชน เล่าถึงพฤติกรรมการติ่งเกาหลีของเธอผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า ติ่งเกาหลีเป็นไม่ยากหรอก แต่เป็นแล้วเลิกไม่ได้ พอมันเริ่มนับหนึ่งแล้ว ก็จะมีสอง สาม สี่ตามมา ส่วนตัวเริ่มเป็นติ่งวง SHINee (ชายนี่) จากรายการ Hello Baby ตอนแรกที่เห็นเนี่ย รู้สึกหน้าตาเหมือนกันไปหมด แยกไม่ออก แต่รายการมันไม่มีตอนเดียวจบไง ดูไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มแยกออกเอง ทรงผม น้ำเสียง ท่าทาง ส่วนสูง ลักษณะ อุปนิสัย รู้หมดแหละ ชวนพี่ที่สนิทกันดูก็ชอบด้วยกัน ทำให้มีเรื่องคุยกันมากขึ้น

พรรณนิภา เล่าต่อว่า พอเริ่มชอบได้ไม่นาน ก็มีโอกาสได้เจอตัวจริง เพราะชายนี่มาร่วมคอนเสิร์ตรวมที่ไทย ตอนนั้นยังเด็กนะ ไม่มีตังค์หรอก หางานพิเศษทำ เก็บตังค์ไปติ่ง พยายามมาก (ลากเสียงยาว) นอกจากค่าบัตรคอนเสิร์ตแล้วยังมีค่ารถตู้อีก แต่มันก็คุ้มนะ สนุกดี ตั้งแต่ไปนั่งรอที่สุวรรณภูมิ รอรับ-รอส่งศิลปิน ต้องคอยตามข่าวสารทางทวิตเตอร์ตลอดเวลา อาจจะมีแท็กสำหรับอัพเดตข่าวสารสำหรับช่วงนั้น ศิลปินถึงไหนอะไรยังไง เวลารถตู้ติ่งขับตามรถตู้ศิลปินเนี่ย เราจะขับต่อกันเป็นแถว เปิดไฟกะพริบ ไม่ได้ขับฉวัดเฉวียนแบบที่ใครๆ คิด

"จริงๆ การไปตามศิลปินก็มีกฎพื้นฐานที่แฟนคลับทุกกลุ่มทำนะ อย่างเช่น การไม่รบกวนเวลาส่วนตัวของศิลปิน การไม่ถูกตัวศิลปิน (จริงๆ ถูกไม่ได้หรอก การ์ดกันอยู่แล้ว) และที่สำคัญและเน้นย้ำกันมากๆ คือการไม่สร้างความเดือดร้อนแก่สถานที่ที่ศิลปินไปเยือน อย่างสนามบิน โรงแรม อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไปเวลาไปดูคอนเสิร์ตก็จำพวกแท่งไฟสีประจำวงของตัวเอง ผ้าเชียร์ บางคนอาจจะใส่เสื้อ เพ้นต์หน้า ว่ากันไป เพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์ว่า เราติ่งวงนี้นะ" พรรณนิภากล่าวทิ้งท้าย