มะม่วงชนิดนี้ เป็นมะม่วงไทยโบราณนิยมปลูกเฉพาะถิ่นแถบ อ.บางกรวย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี กับย่านตลิ่งชัน เขตบางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี กทม. มาช้านานแล้ว โดยในยุคสมัยก่อนนิยมเอาผลสุกล้างน้ำให้สะอาดแล้วใช้มีดคมๆเฉือนเป็นแก้ม 2 แก้ม ไม่ต้องปอกเปลือกใช้ช้อนตักเนื้อกินกับข้าวสวยร้อนๆหรือข้าวเหนียวนึ่งสุกใหม่ๆ หวานหอมอร่อยชื่นใจได้คุณค่าทางอาหารดีมาก และจากความอร่อยร่ำลือของมะม่วงดังกล่าวทำให้ พระยาศรีสุนทรโวหาร หรือ (น้อย อาจารยางกูร) ในยุคนั้นต้องรีบไปทดลองชิมและรู้สึกชื่นชอบในรสชาติ ถึงขนาดนำไปบรรยายไว้ในกาพย์ยานี 11 เมื่อปี พ.ศ.2427 ว่า “มะม่วงพราหมณ์ขายเมีย” ดูท่วงทีรสขยัน เมียรักดังชีวันยังถูกขายจ่ายอำพา หมายถึงความอร่อยของมะม่วงดังกล่าว ทำให้พราหมณ์ยังต้องยอมขายเมียตัวเองเพื่อเอาเงินไปซื้อผลสุกมากิน เลยเรียกว่า “มะม่วงพราหมณ์ขายเมีย” เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน

มะม่วงพราหมณ์ขายเมีย มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ยืนต้นสูง 10-15 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาเยอะ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับรอบกิ่งก้านส่วนปลายยอด ใบเป็นรูปรีแกมรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนมน เนื้อในหนา สีเขียวสด

ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ดอก เป็นสีเหลืองนวล มีกลิ่นหอม “ผล” รูปกลมรี ผลโตเต็มที่น้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 3-4 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม ผลดิบสีเขียว รสชาติเปรี้ยวปนหวานและมัน ฝานจิ้มพริกเกลือป่นหรือน้ำปลาหวาน อร่อยไม่แพ้มะม่วงกินดิบทั่วไป ผลสุกสีเหลือง เนื้อในสีเหลืองอมส้ม หวานหอมไม่เละ ไม่มีเสี้ยน เมล็ดเล็กบาง ความหวานวัดได้ถึง 19.2 องศาบริกซ์ ติดผลปีละครั้งตามฤดูกาล

ปัจจุบัน “มะม่วงพราหมณ์ขายเมีย” มีกิ่งตอนขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 17 แผง “นายดาบสมพร” ราคาสอบถามกันเองครับ.

...

“นายเกษตร”