"หมอรัชตะ" แจงนั่งควบ 2 ตำแหน่งผ่านวารสารมหาวิทยาลัย ชี้เป็นโอกาสได้ใช้ความรู้ ความสามารถช่วยพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศ รวมถึงด้านอื่นใน ครม. เผยจ่ายงานในมหา'ลัยแล้ว มั่นใจไม่สะดุด ระบุเมื่อเริ่มงานที่ สธ. แนวทางทำงานจะชัดเจนขึ้น...

ภายหลังการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการนำปี๊บคลุมหัว และเดินจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ไปยังสำนักงานอธิการบดี เพื่อเข้าร่วมประชุมคณบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เนื่องจากไม่เห็นด้วยกรณีที่ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยไม่ลาออกจากการเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 10 ก.ย.57 ที่ผ่านมา

โดยในการประชุมคณบดีนั้น ศ.นพ.รัชตะ เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ไม่มีการแถลง หรือชี้แจงการดำรงตำแหน่งทั้ง 2 ตำแหน่งแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวกับสื่อมวลชนที่เดินทางไปรอสัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ ศ.นพ.รัชตะ จะยังไม่ชี้แจงใดๆ เนื่องจากไม่ต้องการให้เรื่องบานปลาย ซึ่งหากจะแถลงข่าวก็จะติดต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ได้มอบวารสารของมหาวิทยาลัย "มหิดลสาร" ฉบับที่ 8 (31 ส.ค.57) ซึ่งเป็นวารสารภายในมหาวิทยาลัย โดยให้เปิดอ่านที่หน้า 7 เพราะ ศ.นพ.ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวไว้แล้ว ทั้งนี้ เนื้อหามีใจความตอนหนึ่งว่า

"ผมได้รับเชิญจากท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้มาช่วยดูแล สธ. ผมพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นโอกาสที่จะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ในการช่วยพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศ เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนชาวไทย และจะยังมีโอกาสได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และตัดสินใจในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการปฏิรูปประเทศไทยในด้านต่างๆ อีกด้วย จึงได้ตอบรับคำเชิญของท่านนายกรัฐมนตรี

สำหรับการบริหารงานต่อไปของมหาวิทยาลัยคงจะไม่มีการสะดุด เพราะช่วงนี้เป็นฤดูกาลมอบหมายงานแก่ส่วนงานต่างๆ และการประเมินผลงานประจำปีของผู้บริหารและบุคลากร งานตามแผนยุทธศาสตร์จะดำเนินไปตามปกติ กิจกรรมพิเศษต่างๆ ก็เป็นไปตามที่วางแผนไว้แล้ว ขณะนี้งบประมาณของมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีงบประมาณ 2558 ก็ผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการในวาระ 2 แล้ว ทั้งนี้ เมื่อผมเริ่มต้นปฏิบัติงานที่ สธ. ระยะหนึ่งแล้ว คงจะมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี ซึ่งจะแจ้งให้ทราบโดยเร็ว ในระหว่างนี้ ผมและท่านรองอธิการบดีทุกท่านพร้อมที่จะช่วยกันทำงาน โดยยึดแนวทางที่จะยังประโยชน์สูงสุดให้แก่มหาวิทยาลัย"

...