
หมอวรงค์ แนะ ครม.ประยุทธ์ 1 อ่าน 'มหากาพย์โกงข้าว'
"อภิสิทธิ์-ศ.ระพี" ร่วมเปิดตัวหนังสือ "มหากาพย์โกงข้าว" ยกเป็นคู่มือแฉขบวนการโกงทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ชี้ผลเสียหายรัฐบาลประยุทธ์ 1 ต้องจัดงบ 7.2 หมื่นล้าน ใช้หนี้ ธ.ก.ส.ต่ออีก 5-7 ปี พร้อมจับตา อสส.จะส่งฟ้อง "คดีโกงจำนำข้าวประวัติศาสตร์" หรือไม่ ด้าน "วรงค์" แนะ ครม.ประยุทธ์ 1 ต้องอ่านทุกคน ย้ำทีมข้าว "รัฐบาลปู" ต้องอ่านเช่นกัน วางแผง 5 ก.ย.
วันที่ 3 ก.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ศ.ระพี สาคริก อดีตอธิการบดี ม.เกษตรศาสตร์ ร่วมเป็นประธานเปิดตัวหนังสือมหากาพย์โกงข้าว ที่เขียนโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก
ข่าวแนะนำ

โดย ศ.ระพี กล่าวถึงปัญหาข้าวไทยว่า มีตั้งแต่เรื่องของพันธุ์ข้าวไทย ที่ถูกต่างชาติแอบนำไปพัฒนาต่อยอด การนำเครื่องจักรเข้ามาใช้แทนแรงงานภาคเกษตร และการให้ความรู้ที่ผิดพลาด จนทำให้สังคมไทยเสียวัฒนธรรมท้องถิ่น
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่า นพ.วรงค์ รับหน้าที่ตรวจสอบโครงการจำนำข้าวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก่อน ที่สร้างปัญหาตั้งแต่กระบวนการผลิต ทำลายตลาดข้าว การค้า และสร้างภาระด้านการเงินการคลัง ในวันที่ 4 ก.ย.นี้ จะเป็นวันสำคัญที่อัยการสูงสุดจะพิจารณาสำนวนสอบสวนของ ป.ป.ช. ที่ชี้มูลเกี่ยวกับคดีทุจริตจำนำข้าวว่า จะเห็นพ้องในการส่งฟ้องศาลหรือไม่

หนังสือเล่มนี้ จะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริตทั้งหมด โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้น เฉพาะด้านงบประมาณ คือ ภาระงบประมาณในปี 2558 ต้องใช้เงินประมาณ 7.2 หมื่นล้าน ไปกับการใช้หนี้ ธ.ก.ส. เป็นความสูญเสียโอกาสที่เกิดขึ้น เพราะเงินดังกล่าวไม่ได้ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เลย ซ้ำยังต้องจัดเงินใช้หนี้ให้ ธ.ก.ส. ในจำนวน 7.2 หมื่นล้านต่ออีก 5-7 ปี จึงหวังว่าจะไม่ต้องมีหนังสือที่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชันออกมาอีกในประเทศไทย แต่ขอให้ใช้หนังสือนี้เป็นคู่มือ เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นอีก
ด้าน นพ.วรงค์ กล่าวว่า เหตุที่เขียนหนังสือนี้ เพราะโครงการจำนำข้าวมีการโกงในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การลงทะเบียนเกษตรกร กลางน้ำคือ โรงสี การเก็บรักษาข้าว และปลายน้ำคือ การระบายข้าว ซ้ำยังมีการบิดเบือนกลไกตลาดจนทำลายอุตสาหกรรมข้าวไทยทั้งระบบ ซึ่งรัฐบาลที่แล้วไม่สามารถชี้แจงได้แม้แต่เรื่องเดียว และไม่มีสำนักพิมพ์ใดกล้าพิมพ์

ดังนั้น ตนจึงขอขอบคุณ นายศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการนิตยสารลิป ที่รับจัดพิมพ์ จนกระทั่งออกมาเป็นรูปเล่ม ซึ่งอยากให้ประชาชนได้ซื้อมาอ่าน เพราะเชื่อว่าจะมีการบิดเบือนเรื่องนี้ในอนาคต แต่หนังสือเล่มนี้จะเป็นหลักฐานและเป็นคำตอบเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยจะวางแผงในวันที่ 5 ก.ย. ในราคาเล่มละ 310 บาท นำรายได้ไปใช้ในการศึกษาวิจัยเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้เด็กไทยพูดภาษาอังกฤษได้ โดยต้องเรียนตั้งแต่อนุบาล ซึ่งมีการทำโครงการนำร่องในโรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง เพื่อเด็กด้อยโอกาสได้เรียนภาษาอังกฤษวันละสองชั่วโมง จึงถือว่าการซื้อหนังสือยังเป็นการทำบุญเพื่ออนาคตประเทศด้วย

นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า ครม.ของ พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะบอกว่าจะปราบปรามการทุจริต หากได้อ่านจะเข้าใจเรื่องข้าวทั้งระบบ โดยขอบังคับให้ ครม.อ่านในบทที่ 11 ซึ่งจะเป็นมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างยั่งยืน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่หวงหาก ครม.ชุดนี้ จะนำไปดำเนินการก็จะเห็นแนวทางแก้ไข เช่น ให้ชาวนาทำข้าวโอท็อป รัฐบาลทำตลาด และฝากถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นคนคิดนโยบายนี้ โดยหวังที่จะชี้นำราคาตลาดโลกขอให้อ่านความผิดพลาดของตัวเองที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ รวมถึงทีมงานที่เกี่ยวกับข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งหมด หากได้อ่านแล้วจะเข้าใจว่า ทำไมต้องติดคุก.