เดือด! 'โอปอล์' แฉกลับ! อดีตคู่หมั้นน้องชายฮุบชื่อ 'กาแฟมงคล'
ไทยรัฐออนไลน์
4 ก.ค. 2557 15:45 น.
โอปอล์-ปาณิสรา ตั้งโต๊ะชี้แจงกรณีเปลี่ยนชื่อร้านกาแฟที่ทำกับครอบครัวมาเป็น 10 ปี หลังอดีตคู่หมั้นน้องชายยื่นโนติสท์ข่มขู่ขอให้เปลี่ยนชื่อร้านจากกาแฟมงคลเป็นชื่ออื่น อ้างเป็นร้านที่ตนเองสร้างมากับมือ พร้อมบอกว่าได้จดทะเบียนถือกรรมสิทธิ์ไว้แล้ว ถ้าโอปอล์จะใช้ชื่อนี้ขอให้จ่ายเงินซื้อแฟรนไชส์แทน ด้านโอปอล์เตรียมดำเนินคดีกลับ รับเสียใจเพราะไม่คิดว่าคนใกล้ตัวจะทำให้เสียใจมากที่สุด และธุรกิจนี้ตนตั้งใจทำให้กับพ่อ
กลายเป็นบทเรียนบทใหญ่ที่สำคัญในชีวิตไปแล้ว สำหรับสาวอารมณ์ดี โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล หลังถูกอดีตคู่หมั้นของน้องชายทำแสบ ยื่นโนติสท์ส่งถึงตนเองว่าให้เลิกใช้ชื่อร้านกาแฟมงคล เพราะอ้างว่าตนเองได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้ว ซึ่งอดีตคู่หมั้นของน้องชายโอปอล์นั้นมี 10 สาขาด้วยกัน และตัวโอปอล์เองมีแค่ 5 สาขา ถ้าครอบครัวของโอปอล์จะเอาชื่อนี้ไปใช้ให้จ่ายเป็นค่าแฟรนไชส์แทน มิเช่นนั้นลูกค้าจะสับสน หลังจากที่สาวโอปอล์พยายามเจรจากับคู่กรณีอยู่นานแต่ไม่เป็นผล งานนี้โอปอล์จึงได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมทนายความ เพื่อให้ทุกคนเกิดความเข้าใจตรงกันถึงสาเหตุที่ร้านกาแฟของโอปอล์เปลี่ยนชื่อเป็น O'S Coffee และชี้แจงว่าหากอีกฝ่ายยังไม่หยุดกระทำให้ฝ่ายตนเสียหาย ตนก็พร้อมที่จะดำเนินคดีกลับทันที โดยเช้านี้โอปอล์พร้อมด้วยคุณสิทธิชัย เพชรโมกุล ทนายความส่วนตัว ได้จัดแถลงข่าวขึ้น ณ ร้าน O'S Coffee ยูเนี่ยนมอลล์ ชั้น 4 ว่า
เล่าถึงที่มาที่ไปของการแถลงข่าวในครั้งนี้? "ปอล์อยู่วงการมาเกือบ 10 ปีถ้าไม่นับงานแต่งงาน ปอล์ก็ไม่เคยแถลงข่าวอะไรเลย ไม่ว่าข่าวจะแรงแค่ไหน จะโดนด่าแค่ไหน ปอล์ก็เลือกที่จะนิ่งให้มันผ่านไป แต่คราวนี้มันเกี่ยวพันกับชื่อเสียงในครอบครัวปอล์แล้วก็คนที่ปอล์รักจริงๆ ปอล์เลยขอพูดให้ชัดเจน อย่างที่ทุกท่านได้ทราบว่าปอล์และครอบครัวมีธุรกิจเล็กๆ เป็นร้านกาแฟ ซึ่งร้านกาแฟนี้ตั้งขึ้นมาครั้งแรกปลายปี 49 ตอนนั้นเข้าวงการได้สักพักแล้วเริ่มมีเงินเก็บ ก็เลยอยากจะทำฝันของพ่อให้เป็นจริง คือพ่อปอล์อยากมีร้านกาแฟ ก็ไปเช่าที่หน้าบ้านตัวเองเลยค่ะ เปิดเป็นร้านกาแฟเล็กๆ มีต้นไม้ร่มรื่นภายในร้าน (พร้อมกับชูภาพร้านกาแฟร้านแรกในนิตยสารให้ดู) ซึ่งมันเป็นความฝันของพ่อ ตอนเปิดร้านปอล์ก็คุยกับพ่อว่าตั้งชื่อร้านอะไรดี ร้านกาแฟร้านของพ่อปอล์จะไม่เหมือนร้านกาแฟทั่วไป จะมีโต๊ะนักเรียนที่พ่อสะสมไว้ เป็นโต๊ะนักเรียนเด็ก โต๊ะหนึ่งเขียนประมวลคงเป็นชื่อเค้าแหละ อีกโต๊ะหนึ่งเขียนมงคล พ่อก็บอกว่างั้นร้านกาแฟเราชื่อ "ประมวลมงคล" เลยดีกว่า มันก็เลยเป็นที่มาของร้านกาแฟร้านแรกชื่อประมวลมงคล ซึ่งเป็นธุรกิจภายในครอบครัว มีพ่อคิดชื่อร้าน แล้วพ่อกับโอเปกน้องชายคนโต แล้วพ่อกับน้องชายคนโตก็แยกกันไปเรียนสูตรกาแฟและนำมาพัฒนากันเรื่อยๆ แม่คอยเสิร์ฟ ส่วนปอล์ช่วยพีอาร์ จนผ่านไปเดือนนึงเรารู้สึกว่าทำกันเองไม่ไหวแล้ว ก็เลยไปทาบทามแฟนของน้องชายปอล์ตอนนั้น เขาเป็นคู่หมั้นกันนะคะ ให้มาช่วยที่ร้าน เพราะมันธุรกิจครอบครัวและเราก็เห็นว่าเขาเป็นครอบครัว เขาก็บอกว่าได้ลาออกจากงานประจำ และเขาขอมาทำงานที่ร้านเราด้วย เราก็ตกลง ตอนนั้นธุรกิจร้านประมวลมงคล ก็ดำเนินมาได้ปีกว่าขายดีมาก จนเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่ ท่านแก่แล้วค่ะ และร้านเราไม่จ้างใครเลย มีแต่คนกันเองทั้งนั้น ปอล์เลยเริ่มรู้สึกว่าเราต้องปิดร้านกาแฟสาขาแรกที่หลักสี่แล้ว แต่ก็ยังเสียดายสูตรกาแฟเพราะพ่อเราคิดมา เอาเพื่อนไปเทสต์กาแฟกว่าจะได้แต่ละแก้ว ก็เลยไปหาทำเลใหม่กันดีกว่า เอาที่ใกล้แหล่งชุมชน คนเข้าถึงได้ง่าย เปกน้องชายก็เลยไปหาจนได้อยู่ที่สยาม อยู่ตรง 29 พลาซ่า ปอล์ก็บอกพ่อว่าถ้ากาแฟเราไปสยามแล้วชื่อ ประมวลมงคล คนคงไม่เข้าใจ เปลี่ยนชื่อดีกว่า พ่อก็เลยบอกว่าตัดคำว่าประมวล แล้วเอาคำว่า "กาแฟมงคล" ความหมายดีและคนเข้าใจด้วย ปอล์ก็ลงทุนด้วยเงินเก็บก้อนแรกของปอล์ให้เปกเปิดร้านกาแฟที่สยามใช้ชื่อว่าร้าน "กาแฟมงคล" โดยที่ปอล์พีอาร์เหมือนเดิม แล้วเปกกับแฟนเขาก็ช่วยกันดูแลร้าน ร้านกาแฟมงคลก็เจริญเติบโตไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร"

"จนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เปกกับแฟนเลิกกัน ซึ่งมันเป็นปัญหาส่วนตัว เราก็ไม่ยุ่ง เรารู้สึกว่าในเมื่อทำร้านมาด้วยกัน พอเลิกกันก็ต่างคนต่างแยกกันไปทำสาขาสิ เขาก็ไปทำร้านสาขาของเขา ไปขายแฟรนไชส์ ส่วนร้านของปอล์กับเปกไม่มีแฟรนไชส์ต้องทำกันเองเพราะมีไม่กี่สาขา ถ้ารวมที่เปิดที่ยูเนี่ยนมอล์ได้เดือนนึงก็มีแค่ 5 สาขาเอง เรื่องราวผ่านไปไม่มีอะไรเลยค่ะ จนเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เขาส่งหมายจากทนายของเขามาว่าให้โอปอล์ โอเปกและครอบครัวเลิกใช้คำว่า "กาแฟมงคล" ที่พ่อปอล์คิดขึ้น เพราะเขาไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ประหลาดใจ ก็พยายามที่จะมีการพูดคุยกันและอีก 1 เดือนต่อมา 16 มิถุนายน เขาก็โทร.มาหาปอล์ซึ่งพี่โอ๊คเป็นคนรับสาย เขาโทร.มาบอกว่า ขอยืนยันให้ปอล์และครอบครัวเลิกใช้คำว่า กาแฟมงคล ไม่งั้นเขาจะดำเนินคดีทางกฎหมาย ปอล์ก็ถามเขาว่าปัญหามันคืออะไร ทำไมเราไม่คุยกันดีๆ ก่อน เพราะว่าคุณก็รู้อยู่ดีกว่าร้านกาแฟนี้เป็นร้านของบ้านฉัน แล้วชื่อนี้พ่อฉันก็เป็นคนคิด เรามาคุยกันไหมว่าปัญหามันคืออะไร เขาก็บอกว่าปัญหาคือเขามีแฟรนไชส์เป็น 10 สาขา ปอล์มีแค่ 5 สาขา แต่พอเวลาพูดคำว่ากาแฟมงคล คนจะเข้าใจว่าเป็นร้านของปอล์หมด ซึ่งเขาไม่ได้เครดิต เขารู้สึกว่าทำงานแล้วโดนเอาเปรียบ ปอล์ก็เลยบอกว่าเพื่อเห็นแก่อดีตที่เราโตกันมาเป็น 10 ปีนะ ถ้าปัญหามีแค่นี้ เดี๋ยววันต่อมาพี่ปอล์จะขึ้นไอจีเลยว่าร้านกาแฟมงคลของพี่ปอล์จริงๆ มีแค่ 5 สาขาเท่านั้น สบายใจไหม เขาก็บอกโอเคสบายใจ วันต่อมาปอล์ก็เลยอัพไอจีว่าร้านกาแฟของปอล์มีแค่ 5 สาขาเท่านั้น ส่วนสาขาอื่นเป็นของเขา เราดำเนินการด้วยดี แทนที่ทุกอย่างจะจบ เขาดันโกรธขึ้นมาอีก แล้วก็เริ่มตั้งสเตตัสทั้งเฟซบุ๊กและไอจี ให้การบิดเบือนข้อเท็จจริง จงใจให้เกิดการเกลียดชังครอบครัวปอล์ เช่น เขาตั้งสเตตัสว่า เขาเป็นคนเปิดร้านกาแฟมงคลขึ้น และร่วมกันบุกเบิกกับพี่ชายเขา เปิดกิจการครั้งแรกและดูแลร้านเป็นอย่างดี อันนี้คือสิ่งที่เขาบอกกับพี่ชายเขา ซึ่งข้อเท็จจริงมันมีอยู่ว่าเขาจะมาบุกเบิกร้านที่พ่อปอล์คิดชื่อ ร้านที่ใช้เงินปอล์ลงทุนและน้องชายปอล์บริหารได้อย่างไร หรืออีกอันที่เขาบอกว่า เขาเป็นคนคิดสูตรเมนูทุกสูตรของร้านนี้ เลือกเมล็ดพันธุ์ทุกอย่างด้วยตัวเขาเอง ซึ่งข้อเท็จจริงมันมีอยู่ค่ะว่า ถ้าเอาสูตรแรกเลยคือพ่อปอล์คิดด้วยซ้ำ และหลังจากนั้นทุกคนช่วยกันพัฒนาสูตรกันขึ้นมา ไม่ว่าเขาจะโพสต์อะไรในเรื่องของร้านฝั่งเขา เขาจะแท็ก มงคลยูเนี่ยนมอลล์ซึ่งเป็นร้านปอล์ เช่น มงคลยูเนี่ยนมอลล์อร่อยไหม ถ้าอร่อยเป็นเพราะสูตรเขา จะทำแบบนี้ตลอดเป็นเวลาหลายอาทิตย์เลยค่ะ ปอล์พยายามใจเย็น ไม่เป็นไรคนเคยรู้จักกัน จนฟางเส้นสุดท้ายมาขาดวันที่ 21 มิถุนายน เขาโทร.หาอีกครั้งนึงเพื่อบอกให้ปอล์ขึ้นขอโทษเขาทางไอจีว่าเขาคือ ออริจินัล แต่ปอล์ไม่ใช่ และปอล์ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนั้น และสองถ้าปอล์ยืนยันจะใช้ชื่อร้านกาแฟมงคลก็ต้องขอให้เจรจาซื้อแฟรนไชส์กับเขา สิ่งตรงนี้ปอล์คิดว่ามันเกินไปนะคะ"

"วันนี้ปอล์ตั้งโต๊ะขึ้นมาเพื่อจะชี้แจงว่า หลังจากนี้ปอล์และครอบครัวไม่มีความเกี่ยวข้องกับร้าน "กาแฟมงคล" หรือ "มงคลคอฟฟี่" สาขาใดนอกจาก 5 สาขาที่ปอล์มีคือ ยูเนี่ยนมอลล์ ชั้น 4, จามจุรี สแควร์ ชั้น 2, ยูเซ็นเตอร์ จุฬา 42, อโศก, หาดใหญ่ และเพื่อความชัดเจนปอล์ขอเปลี่ยนชื่อร้านกาแฟเป็น O’S Coffee แปลว่า กาแฟของโอปอล์ โอเปก โอเปิ้ล จะได้ชัดเจนไปเลย และปอล์มีความจำเป็นต้องขอดำเนินการทางกฎหมายกับเขา เพราะว่าสิ่งที่เขาให้ข้อมูลใดๆ ทั้งเฟซบุ๊ก ไอจี เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงและจงใจให้เกิดความเสียหาย และเกลียดชังต่อครอบครัวปอล์ทั้งสิ้น ซึ่งปอล์ไม่ได้เป็นคนยิ่งใหญ่ ร่ำรวยจากไหนเลย (เสียงสั่น น้ำตาคลอเบ้า) ร้านกาแฟนี้ปอล์ตั้งใจจริงๆ ที่จะทำให้กับพ่อและครอบครัวปอล์ เลยมีความจำเป็นของดำเนินการทางกฎหมาย"
ทางทนายความส่วนตัวของโอปอล์ยังได้ชี้แจงต่อว่า "ขอแจ้งให้ทราบว่าทางทีมทนายของเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย ทั้งทางแพ่งและอาญากับคู่กรณี สำหรับประเด็นที่ฝ่ายนั้นโชว์หลักฐานการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า และได้มีการแชร์ข้อมูลนี้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ผมก็ขอแจ้งให้ทราบว่านั่นเป็นแค่หลักฐานทางทะเบียนนะครับ หากเรามองย้อนกลับมามองถึงสิทธิ์ที่แท้จริงของการเป็นเจ้าของ ของเครื่องหมายการค้าแล้ว จะพบว่าเขาไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับเครื่องหมายการค้านี้เลยนะครับ เขาไม่ใช่คนคิดและใช้เครื่องหมายการค้านี้เป็นคนแรก ดังนั้น เมื่อเขาเอาไปจดทะเบียนอย่างไม่มีสิทธิ์ ทางเราจำเป็นต้องฟ้องเพื่อถอนเครื่องหมายการค้ารายนี้ ที่ผ่านมามีการเพิกถอนเครื่องหมายการค้าในลักษณะนี้หลายเครื่องหมายแล้ว ในเมื่อไม่มีสิทธิ์เอาไปจดทะเบียน เราเป็นเจ้าของที่แท้จริงก็ต้องฟ้องเพิกถอนนะครับ ทางเรามีพยานหลักฐานสำคัญที่พร้อมจะพิสูจน์การในศาลเพื่อให้ความจริงได้ประจักษ์ว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นของใครกันแน่ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ผมไม่สามารถเปิดเผยได้ในที่นี้ เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี เอาไว้ค่อยไปว่ากันในศาลนะครับ ขอบคุณครับ"

โอปอล์ได้บอกต่อว่า "ตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ปอล์และทีมทนายได้รวบรวมหลักฐานที่เขาบิดเบือนข้อเท็จจริงเอาไว้ทั้งหมด ดังนั้นจะแจ้งไปทางเขาและพวกพ้องของเขาว่า ให้หยุดกระทำการใดๆ ที่จะนำความเสื่อมเสียให้ปอล์และครอบครัว เพราะนั่นจะกลายเป็นหนึ่งหลักฐานสำคัญที่เราใช้ในชั้นศาล มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ของคนอื่นนะคะ แต่นี่เป็นความตั้งใจจริงๆ เพราะเราทำงานเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ขึ้นมา อยากจะดูแลครอบครัวเราด้วยธุรกิจที่เราตั้งขึ้นใจทำมาหลายปีแล้ว อยากให้เรื่องปอล์เป็นบทเรียนสำหรับทุกคนเลยค่ะ คนที่อยากมีธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง ของครอบครัว อะไรที่เป็นลิขสิทธิ์ของคุณจดมันให้ถูกต้องนะคะ อย่าไว้ใจคนที่โตมากับคุณ อย่าไว้ใจคนที่คุณดูแล เลี้ยงดู คนที่รู้จักคุณมาเป็นสิบปี คนที่คุณคิดว่าเขาเป็นครอบครัวเพราะมันไว้ใจไม่ได้จริงๆ ค่ะ"
เสียความรู้สึกกับสิ่งที่คู่กรณีกระทำต่อครอบครัว? โอปอล์ "เสียใจค่ะ อย่างที่บอกว่าเราเข้าใจจริงๆ ว่าเขาเป็นคนในครอบครัว เราโตกันมา เขาเห็นตอนลำบาก เขารู้ว่าร้านกาแฟนี้พ่อปอล์ตั้งชื่อ แล้วปอล์ก็ตั้งใจจะทำให้พ่อปอล์ เขารู้ทุกอย่าง พอเป็นคนใกล้ชิดมันก็เลยเสียใจค่ะ" สาเหตุที่เปลี่ยนชื่อนี้? ทนาย "ตอนนี้ถ้ายังใช้ชื่อเดิม ผู้บริโภคเองยังสับสนอยู่ ของเราเป็นการหยุดใช้ชั่วคราว เมื่อเราทวงแบรนด์คืนมาได้ เราก็จะเอามาบริหารจัดการต่อนะครับ" คู่กรณีได้ยื่นฟ้องเราหรือไม่? ทนาย "เขายื่นโนติสท์ให้หยุดใช้เครื่องหมายการค้านี้ครับ" จะมีการเคลียร์กันหรือไม่? โอปอล์ "ปอล์พยายามขอเจรจามาหลายครั้ง เขายืนกรานจริงๆ เราก็เลยไม่คุยแล้วดีกว่า".


