
เวลาจะพิสูจน์ คสช.
18 วันผ่านพ้นไปหลัง คสช.เข้าควบคุมอำนาจ ยังต้องฝ่าด่านอีกหลายด่านกว่าจะไปสู่เป้าหมาย แม้กระทั่งด่านยากคือ คสช.เองที่จะต้องได้รับการ พิสูจน์ว่ามีความโปร่งใสมากน้อยแค่ไหน
ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้หลังจากนี้ไปอีกเพียงไม่กี่วันก็จะเข้าสู่เทศกาลฟุตบอลโลกที่คนไทยคงตื่นตา ตื่นใจไม่ต่างกับการเข้าควบคุมอำนาจประเทศของ คสช.
ข่าวแนะนำ
เป็นความสุขที่มาในเวลาไล่เลี่ยกันพอดิบพอดี
ยังไงเสีย คสช.ก็คงต้องบริหารเงื่อนไขเวลาให้เกิดความสมดุลระหว่าง “เคอร์ฟิว” กับ “บอลโลก” ว่าจะทำยังไงให้เกิดความเหมาะสม
ด้านหนึ่งคือความมั่นคง หากเชื่อมั่นว่าสามารถเอาอยู่ก็ควรจะคลี่คลายเคอร์ฟิวเพื่อให้คนไทยได้ชมฟุตบอลโลกอย่างมีความสุข
แต่อีกด้านหนึ่งหากว่ายังไม่มั่นใจก็ต้องทำใจ เพราะความสำคัญมันอยู่ที่การพิจารณาในประเด็นเรื่องหลักเรื่องรอง
หลังจาก คสช.เข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศท่ามกลางความพึงพอใจของประชาชนส่วนใหญ่และสามารถคลี่คลายปัญหาของประเทศได้ระดับหนึ่ง
จะมีเสี้ยนตำเท้าอยู่บ้างก็ต้องค่อยๆแคะออกมา
แม้ว่าการเรียกบุคคลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่ผ่านมาเพื่อเคลียร์ใจกัน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือ มีแนวโน้มไปในทางที่ดี
แต่จากนี้ไปที่จะเข้าสู่ความปรองดองเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้ก้าวไปสู่ระยะที่ 2–3 ต่อไปได้
จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย
เหนืออื่นใดที่น่าสังเกตก็คือแนวทางการทำงานของ คสช.จะแตกต่างจาก คมช.นั่นคงศึกษามาจากบทเรียนที่ผ่านมา
ข้อสังเกตที่ชัดเจนก็คือ คสช.ไม่ตั้ง คตส.ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ยังคงใช้องค์กรอิสระทำหน้าที่ตามปกติและพร้อมที่จะให้การสนับสนุน
เหตุผลสำคัญก็คือไม่ต้องการให้เกิดภาพว่า คสช.เข้ามาเพื่อไล่ถล่มรัฐบาลชุดที่แล้วจนทำให้เกิดความแตกแยกและถูกมองว่าเป็นการจัดการแบบสองมาตรฐาน
แต่ให้องค์กรอิสระทำหน้าที่ต่อไป
ว่าอะไรผิดก็ว่าไปตามผิด อย่างการทุจริต โครงการรับจำนำข้าว ที่ ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่
อย่างเช่นการตรวจสอบทรัพย์สิน 5 ราย คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นายยรรยง พวงราช นายภูมิ สาระผล
เนื่องจากมีข้อมูลที่ผิดสังเกต
ขณะเดียวกัน ก็มีการเรียกร้องให้ คสช.แสดงบัญชีทรัพย์สินเพื่อความโปร่งใส แต่ ป.ป.ช.ระบุว่าไม่มีกฎหมายบังคับใช้
คสช.เองก็คงจะระมัดระวังในประเด็น นี้ไม่น้อย จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อแสดงความโปร่งใส
เพราะนอกจากการรีบดำเนินการเพื่อใช้งบประมาณปี 58 ให้ทันเดือนตุลาคม เพื่อไม่ให้เกิดความชะงักงันและเป็นการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ
นอกจากนั้นยังมีโครงการใหญ่ๆที่ คสช.ต้องดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่บรรดาเสือหิวกำลังจ้องกันตาเป็นมัน
นี่คือจุดที่ประชาชนกำลังจับจ้องว่าจะมาอีหรอบเดิมหรือเปล่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ยืนยันกับบรรดาพ่อค้าชาวจีนที่เข้าพบว่าอีก 3 เดือนจะได้รัฐบาลใหม่ นายกฯคนใหม่และขอให้สบายใจได้ว่าจะควบคุมเอง ไม่ให้มีการทุจริตอย่างเด็ดขาด
คสช.พยายามจะสร้างหลักประกันให้เห็นว่าจะไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น เพราะบ้านเมืองที่เกิดปัญหาขึ้นมาเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ “คอร์รัปชัน”
มันคือเดิมพันสำคัญว่า คสช.ของจริงหรือของปลอมกันแน่!!!
“ลิขิต จงสกุล”