พิม-พิมมาดา กับ กัปตัน-ภูธเนศ หันทำเบื้องหลัง นั่งแท่นผู้จัด-ผู้กำกับละครร่วมกัน รับมีปัญหาเรื่องงานบ้างแต่ช่วยกันแก้ไข ยันไม่ทิ้งวงการบันเทิงเบื้องหน้าแน่นอน...
อยู่ในวงการบันเทิงมานาน งานนี้ก็ได้เวลาที่สาวพิม-พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร กับพระเอก กัปตัน-ภูธเนศ หงส์มานพ จะได้ลองมาทำงานเบื้องหลังละครดูบ้าง โดยทั้งคู่ได้แปะมือแท็กทีมกันมาเป็นผู้จัดละครและผู้กำกับ ทำละครเรื่อง สองรัก สองวิญญาณ โดยได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง พี่แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง แคท-แคทรียา อิงลิช บีม-กวี ตันจรารักษ์ พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณ และนักแสดงคุณภาพอีกเป็นจำนวนมากมาร่วมงาน โดยได้ทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องละครเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่แอค สตูดิโอ ปทุมธานี ท่ามกลางอากาศร้อน แต่ทั้งนักแสดง ผู้จัด ผู้กำกับ และทีมงานก็ไม่หวั่น โดยพิม ในฐานะผู้จัดละคร กัปตันในฐานะผู้กำกับ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานในครั้งนี้ว่า
พิม "ตื่นเต้นมาก และสนุกมากในทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นเลยนะคะ รู้สึกว่ามันเป็นงานที่เราไม่เคยรู้เลยว่ามันยากหรือว่ามันเหนื่อยแค่ไหนกว่าที่จะผ่านขั้นตอนเหล่านี้ และรู้สึกมันท้าทาย และภูมิใจกับงานที่เราทำ ในทุกขั้นตอนทุกชิ้นที่มันจะออกมาสำเร็จค่ะ" ทำไมถึงตัดสินใจมาทำเป็นผู้จัดละคร? พิม "จริงๆ เริ่มจากการชักชวนกันเล่น เหมือนเป็นการพูดคุยกันเล่นๆ ว่าอยากลองทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วพี่ป้อน-นิพนธ์ กับพี่บอย-ถกลเกียรติ บอกว่าอยากๆ แต่ไม่ทำ อยากแล้วทำลงมือ ก็เหมือนกับเป็นการให้โอกาส เค้าก็อยากได้ไอเดียจากพวกเราบ้าง ดูซิเด็กๆ รุ่นใหม่มีไอเดียทำอะไรบ้าง" ยากไหม กว่าจะมาถึงขั้นตอนนี้? "มันก็ยากนะ กว่าจะมาถึงขั้นตอนนี้ กว่าจะได้ละครเรื่องนี้ได้มีการผ่านมาหลายบทหลายเรื่อง ว่าเราทำอันนี้ดีมั้ย" กดดันไหมกับการเป็นผู้จัดละคร? "จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของความรับผิดชอบในกองถ่าย มันเป็นหน้าที่ของพิมไงคะ พิมก็จะต้องให้มันรันไปอย่างสมูทที่สุด ไม่อยากให้มันสะดุดเวลาออกกอง อาจจะเป็นเรื่องของทีมงาน ต้องบอกว่าโชคดีมากที่ได้ทีมงานที่ดีแล้วก็มืออาชีพทุกคน ทุกคนสามารถช่วยพิมได้ในทุกแง่มุมเลย ถ้าไม่มีทีมงานที่ดีก็ลำบากเหมือนกัน" คุยกันนานไหมกับพี่กัปตัน? พิม "จริงๆ เราคุยกันเล่นๆ อย่างที่บอกไป อย่างพี่ตันเค้าเป็นนักแสดงมานาน ระดับต้นๆ ของเมืองไทย ฝีมือเค้าเก่งและงานเยอะมาตลอด ยังไม่มีโอกาสมาทำเบื้องหลัง เลยคุยกับเค้าและชวนเค้ามาเป็นผู้กำกับนะ เค้าก็อยากเป็นผู้กำกับอยู่แล้ว" ชวนนานไหม? "ไม่ต้องชวนค่ะ แค่จูงมือกันมาเลย (หัวเราะ)"
กัปตัน "อยากทำครับ อยากทำเรื่องคอมเมดี้แต่มีสาระ คือไม่ใช่คอมเมดี้ มันค่อนข้างจะยากเหมือนกันนะครับ คือละครไม่ใช่แค่ดูเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน ยังมีเรื่องคอมเมดี้อะไรต่างๆ คือดูแล้วคนดูได้อะไรกลับไป ผมว่าเรื่องนี้มีค่อนข้างครบ แล้วก็ด้วยเรื่องเราแค่นึกภาพตามมันสนุกแล้ว และมีความอยากทำ พอคุยกันปุ๊บก็เอาเลย เต็มที่" จากนักแสดงมาเป็นผู้กำกับละคร หลายคนก็จับตามอง กดดันไหม? กัปตัน "ผมไม่ค่อยกดดันตัวเองครับ ทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด ให้มันเต็มที่ ตอนนี้เราอยู่ในฐานะอะไร ทำหน้าที่อะไรก็ทำให้มันดีที่สุดครับ เคยเป็นนักแสดง เคยเป็นนักร้อง วันนี้มาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง" มีไปศึกษาข้อมูลไหม? "เยอะครับ ก็ได้ขอคำแนะนำจากพี่ๆ เพื่อนๆ แม้แต่ทีมงานกันเองก็มีถามว่าขั้นตอนหรือวิธีการต้องทำยังไงบ้าง การเตรียมตัวประมาณนี้ครับ" เรียกว่าต้องทำการบ้านหนักเลยสำหรับละครเรื่องนี้? "ก็ไม่ค่อยหนักครับ ตอนนี้หัวขาดไปครึ่งแล้ว (หัวเราะ)"
ด้วยความสนิทของ 2 คนรึเปล่า เลยมาทำงานร่วมกันในโปรเจกต์นี้? พิม "ก็อาจจะค่ะ หมายถึงเราร่วมงานกันมานาน เราเล่นละครด้วยกันมาหลายเรื่อง ก็สนิทกัน ด่ากันได้ ดุกันได้ สอนกันได้ เลยรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นอะไร แค่เปลี่ยนสถานะจากแค่ร่วมงานกันในการแสดงอย่างเดียวมาทำเบื้องหลังค่ะ มีทะเลาะกันทุกวันนะ (หัวเราะ) แต่มันเป็นเรื่องที่ดีค่ะ ไม่มีใครมีความคิดเห็นตรงกันเสมอไป หรือว่าเราคิดอะไรแล้วไม่ได้พูดออกไป ไม่ได้แก้ไขกัน มันก็จะไม่เกิดงานที่ดี ก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราคุยกันได้ทุกเรื่อง สอนกันได้ บอกกันได้ค่ะ" เห็นว่าน-ธนกฤต ขึ้นไอจีให้กำลังใจ ช่วยโปรโมตเต็มที่? พิม "ก็เป็นเรื่องของการให้กำลังใจค่ะ การที่เราทำอะไรสักชิ้นหนึ่ง เหนื่อยๆ เนอะ เราก็อาจจะได้รับกำลังใจดีๆ ก็ดี วันนี้แฟนคลับก็มากันเยอะมาก ก็รู้สึกขอบคุณที่มีกำลังใจที่ดี อยู่กันมายาวนาน ขอบคุณค่ะ" เอ้ก-บุษกร ให้กำลังใจกัปตันยังไงบ้าง? กัปตัน "ก็บอกตลอดว่าให้สู้ๆ เพราะว่าเค้ารู้ว่าเราต้องเหนื่อยขึ้นมาก ก็พยายามที่จะจัดสรรเวลาให้ดี เค้าก็เป็นห่วงเรื่องการพักผ่อน เราก็เต็มที่ครับ"
มาเป็นผู้จัดละคร เปลี่ยนตัวเรายังไงบ้าง? พิม "มันก็เปลี่ยนทุกอย่างเลยค่ะ อย่างที่พิมบอกค่ะ คือเราเคยรับผิดชอบในส่วนตัวเอง อ่านบท ทำการบ้าน มาทำงานให้ตรงเวลา ไม่สร้างปัญหา เป็นนักแสดงที่ดี แต่ว่าพอมาทำเป็นผู้จัด เป็นเบื้ิองหลัง เราต้องคิดแทนทุกคนทั้งหมดว่าแบบนี้มันจะโอเครึเปล่า แบบนี้แฮปปี้มั้ย พี่ตันเค้าก็ต้องคิดแทนคนดูว่าทำแบบนี้คนดูจะชอบมั้ย มันเหมือนเป็นการต้องคิดให้รอบคอบทุกอย่างมากกว่าเดิม" ถือว่าการที่เราเป็นนักแสดงมาก่อน เราได้เปรียบไหม? พิม "พิมว่าเราได้เปรียบนะ เวลาเราทำงานเราอยู่กองละคร อะไรที่เราชอบหรือไม่ชอบ เราสามารถนำมาเป็นบทเรียนได้ ถ้าเราเป็นทีมงานเราจะไม่ทำแบบนี้ให้คนร่วมงานดูไม่แฮปปี้ค่ะ" อย่างนักแสดงผันมาเป็นผู้จัดเยอะ กลัวว่าจะมีการแข่งขันกันไหม? "แข่งขันกันเถอะ เพราะมันมีช่องทางให้แข่งกันเยอะ พิมรู้สึกว่ามันหลากหลาย คนดูก็จะได้ดูหลากหลายด้วยค่ะ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะคะ" ไปเบื้องหลังแล้วก็ไม่ลืมเบื้องหน้า? กัปตัน "ยังครับๆ" พิม "คิดถึงการแสดงมาก (ยิ้ม)" กัปตัน "ผมก็ยังมีบ้านนี้มีรักอยู่ ก็มีรายการเรื่องของเรื่องอยู่ และกำกับละครเรื่องนี้"
ในส่วนของการกำกับละคร กัปตันลำบากใจไหม ที่ต้องมากำกับคนอื่นเพราะเมื่อก่อนตัวเองโดนกำกับ? "ใช่ครับ ก็มีนะครับ แต่อย่างที่บอกผมค่อนข้างโชคดีในเรื่องนี้ ได้ทั้งพี่แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แคท-แคทรียา ผมว่าน้องบีม-กวีเอง หรือพีค-ภัทรศยา ก็ไม่มีปัญหา ผมเชื่อว่าทุกคนก็พร้อมที่จะทำงาน ทุกคนมีระเบียบวินัยในการทำงานมาก แม้แต่พี่แท่งเองก็ช่วยเสริมมุกต่างๆ" เราคาดหวังอะไรกับละครเรื่องนี้บ้าง? กัปตัน "สำหรับผมนะ แค่ให้คนดูมีความสุข สนุก แล้วได้อะไรจากละครทุกเรื่องที่ผมทำ คือละครดูเพื่อความบันเทิง แต่ว่าบันเทิงแล้วได้สาระอะไรบ้างไม่มากก็น้อย ผมว่าตรงนั้นแหละ ประสบความสำเร็จสำหรับผมแล้ว" พิม "ก็คล้ายกัน หน้าที่เราเป็นผู้จัด อยากให้ละครของเราเป็นที่นิยมชมชอบของคนดู แล้วก็ให้คนทำงานมีความสุข ก็หวังว่ามันจะมีผลงานชิ้นต่อไปด้วยค่ะ".