“ชวน หลีกภัย” อภิปรายงบ 2569 แฉกลางสภาฯ ต้นเหตุ ฮ.ตำรวจตก งาบงบประมาณซ่อมบำรุงกองบินตำรวจ ทำเสียบุคลากรมือ 1 ลั่น ไม่ควรปล่อยให้สูญเสียชีวิตไปโดยไม่คิดแก้ไข
เมื่อ 12.55 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระแรก ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายถึงกรณีเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ประสบอุบัติเหตุตกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา จนทำให้นายตำรวจนักบินและช่างซ่อมบำรุงเสียชีวิตรวม 3 ราย ว่า
จากเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวที่เกิดขึ้นภายในรอบ 1 เดือน มีผู้เสียชีวิตที่เป็นนายตำรวจมือชั้นเยี่ยมถึง 9 ราย โดยเฉพาะ ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย นักบิน (สบ1) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ ที่เสียชีวิตจากเหตุ ฮ.ตกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นชาวตรัง และเป็นคนเก่งของจังหวัด ตนคุ้นเคยกับครอบครัวของเขา และเมื่อเชื่อมโยงมาถึงงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แม้เราจะไม่สามารถนำทั้ง 9 ชีวิตกลับคืนมาได้ แต่เราไม่ควรปล่อยให้สูญเสียชีวิตซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดไปโดยไม่คิดแก้ไข เตรียมตัว ป้องกัน
...
สถานภาพของกองบินตำรวจ มีโอกาสจะเกิดเหตุขึ้นอีก เพราะ ตร. มีเฮลิคอปเตอร์ในความดูแล ทั้งหมด 71 ลำ ใช้การได้ 24 ลำ อยู่ระหว่างซ่อมแซม 27 ลำ และรอปลดประจำการ 20 ลำ โดย 1 ใน 24 ลำที่ใช้การได้ก็เป็นเครื่องที่ประสบอุบัติเหตุตกนี้ อาจมองว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่เป็นการสูญเสียที่ไม่ใช่มาจากการปะทะกับคนร้าย กลับเกิดจากเครื่องมือไม่มีคุณภาพ ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น น่าเสียดายที่สุด ส่วนตัวแม้จะไม่รู้จักกับผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย แต่เป็นบุคคลที่มีฝีมือ มีอุดมการณ์ในระดับมือ 1 ส่วน ร.ต.อ.ทรงพล ตัดสินใจมาเป็นนักบิน เนื่องจากไม่อยากอยู่ในหน่วยงานเดิม เบื่อหน่ายการวิ่งเต้นเพื่อเป็นโน่นเป็นนี่
นายชวน กล่าวต่อไปว่า สำหรับงบฯ ซ่อมบำรุงของกองบินตำรวจ ในงบฯ ตร. ในปี 2569 ตั้งไว้ 950 ล้านบาท เหมือนปี 2568 มีข้อคิดจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ทำงานด้านนี้บอกตนว่าขอให้จัดงบฯ ให้พอในการซ่อมบำรุง โดยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนดังกล่าวพูดในฐานะส่วนตัว ไม่ขอพูดในนามราชการ คือการหาผลประโยชน์จากการซ่อมบำรุง มีการพูดถึงขนาดว่าหน่วยงานอื่นด้านความมั่นคงอาจมีการทุจริต แต่งบฯ ซ่อมบำรุงเขาจะไม่ยุ่ง แต่ ตร. เอาไม่เลือก จึงเป็นข้อครหา แต่เพื่อความยุติธรรมกับเจ้าหน้าที่ที่สุจริต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำไปพิจารณา ทั้งนี้ สิ่งที่เราควรป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีก ต้องดูสถานภาพของเฮลิคอปเตอร์ 24 ลำที่ใช้งานอยู่มีสภาพเป็นอย่างลำที่ตกเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมาหรือไม่
“ฮ.ลำที่เกิดอุบัติเหตุตก มีเพื่อนส่งข้อความมาหาผมว่า เครื่องอยู่ในสภาพที่ใช้การไม่ได้ ผมจึงโทรไปหาคนที่ส่งข้อความมาหาผม เขาบอกว่าคืนวันที่ 23 พฤษภาคม ก่อนวันที่จะบิน เขาอยู่ด้วยกันกับนักบิน ผมคิดว่านักบินเขารู้ว่าเครื่องอยู่ในสภาพที่ใช้ไม่ได้ แต่ ตร. ปล่อยเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่อยากตำหนิ แต่ขอให้เป็นตัวอย่างทบทวน เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียบุคคลที่เป็นกำลังสำคัญของ ตร. และบ้านเมืองมากไปกว่านี้อีก หวังว่าขอให้กรณีนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุอันเกิดขึ้นจากความบกพร่องของอะไหล่ ฮ. หรือเครื่องบิน เข้าใจว่าการดูแลซ่อมบำรุง หรือดีลเลอร์ ยังไม่เป็นระบบเท่ากับของกองทัพอากาศบก กองทัพอากาศที่มีระบบซ่อมบำรุงที่ดี ผมคิดว่าพวกเราที่ไปอยู่ใน กมธ.วิสามัญฯ คงจะช่วยดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ และจะส่งเรื่องนี้ให้ กมธ.การตำรวจ ไปหารือในชั้น กมธ.ต่อไป”
(ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย)