วันนี้ (30 พ.ค.2568) ที่รัฐสภา ในการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 3 สมาชิกผู้แทนราษฎรทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้ร่วมอภิปรายงบ โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เข้าชี้แจง ซึ่งไทยรัฐออนไลน์ ได้รวบรวมวาทะเด็ดบางส่วน
ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน อภิปรายถึงประเด็นการจัดสรรงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดของกระทรวงมหาดไทย โดยยกข้อมูลจากเวิลด์แบงค์ ที่ชี้ว่าการใช้จ่ายของรัฐกระจุกอยู่ในกรุงเทพฯ แต่เกินครึ่งของจังหวัดในประเทศไทยพัฒนาต่ำกว่าศักยภาพ กล่าวคือสามารถสร้างเม็ดเงินและเติบโตได้ดีแต่รัฐไม่สนับสนุน
แต่ในการจัดงบประมาณ2569 ก็ยังจัดสรรงบประมาณแบบเดิมๆ งบที่ลงไปในจังหวัดเล็กเกินครึ่งเป็นงบก่อสร้างถนน สะพาน อีกส่วนก็เป็นการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ที่เหลือก็เป็นการก่อสร้างกระจุกกระจิกและงบอบรมสัมนา แต่กลับไม่มีโครงการแก้ปัญหาการศึกษา ความยากจน การเข้าถึงสาธารณสุข (อ่าน: “สส.ลิซ่า” ซัดจัดงบฯ กระทรวงมหาดไทย ไม่ตอบโจทย์-สุดเหลื่อมล้ำ)
...
พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน อภิปรายงบกระทรวงการศึกษา พบงบประมาณเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 4% แต่ใช้ไม่ตรงจุดและไม่คุ้มค่า พร้อมแนะรีเซ็ตใหม่ 6 ด้าน (อ่าน : “พริษฐ์” ชำแหละงบการศึกษา ลั่นต้องรีเซ็ต 6 ด้านด่วน ย้ำต้องปฏิรูปวาระเร่งด่วน รอไม่ได้)
“การศึกษาเป็นบริการแรกๆ ที่เราได้รับจากรัฐ หลังเราเกิดมาในประเทศนี้ ดังนั้นหากเราต้องการให้ประชาชนมีสัมผัสแรกกับรัฐที่ดี เป็นสัมผัสแรกที่ทำให้เขามีความหวังว่ารัฐนี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ผมเห็นว่าวาระปฏิรูปการศึกษาเป็นวาระที่เร่งด่วนและรอไม่ได้ เหมือนกับที่มีท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า ไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน”
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน อภิปรายทวงการขึ้นเงินอุดหนุนเด็ก เบี้ยผู้สูงอายุและผู้พิการ ยกคำแถลงนายกฯ อิ๊งค์ จะให้สวัสดิการที่เพียงพอเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต ถามเหมาะสมอย่างไร
“คำแถลงของนายกรัฐมนตรีหน้าที่ 18 ท่านพูดไว้เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ว่า ให้ได้รับการคุ้มครองที่มีสวัสดิการสังคมที่เพียงพอ เหมาะสมต่อการดำรงชีวิต ไอ้ที่ให้ ๆ กันอยู่เนี่ย ถ้าท่านประกาศแบบนี้ ท่านกำลังบอกว่าที่ให้กันอยู่เหมาะสมแก่การดำรงชีวิตแล้ว ท่านลองให้บุพการีท่านลองใช้ชีวิตตามเงินที่ได้ดูสิ ว่ามันเหมาะสมตามการดำรงชีวิตอย่างไร”
พุธิตา ชัยอนันต์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ซัดรัฐบาลมีปัญหาดูแลแม่และเด็ก ระบุไม่ใช่ว่าคนสมัยนี้ไม่อยากมีลูก แต่เพราะสภาพเศรษฐกิจและโครงสร้างสังคมปัจจุบันไม่เอื้อต่อการมีลูกเลย พร้อมยกข้อมูลอัตราการฝากครรภ์ปลอดภัย อัตราการเสียชีวิตของทารกแรกเกิดและคุณแม่หลังคลอด และพัฒนาการเด็กปฐมวัยของประเทศไทยตกเกณฑ์ที่รัฐบาลตั้งไว้ทั้งหมด
แต่ในการจัดงบประมาณ 2569 ที่ทางกรมอนามัยของบประมาณจัดทำโครงการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไปกว่า 500 ล้านกลับได้รับจัดสรรงบมาแค่ 45 ล้านเท่านั้น ขอให้นายกฯ ที่ได้แสดงบทบาทแม่ลูก 2 ให้แสดงบทบาทของนายกฯ หญิง เพื่อเป็นแม่ให้เด็กๆ ทุกคนในประเทศนี้
...
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ชื่นชมโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ชี้เป็นต้นแบบขององค์กรระหว่างประเทศ หากจัดอันดับประเทศที่มีโครงสร้างสาธารณสุขดีที่สุด ประเทศไทยบางปีติดท็อป 5 ท็อป 3 ของโลก พร้อมอภิปรายสนับสนุนโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ในการลงทุนด้าน Digital Health ที่งบไม่มากเพียง 335 ล้านบาท ในการใช้เทคโนโลยีในการคัดกรองโรค ลดภาระบุคลากร ลดการเข้าโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น
...
เกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายสนับสนุนงบประมาณ 2569 โดยในตอนหนึ่งกล่าวถึงงบประมาณปรับปรุงรัฐสภา ที่มีการถกเถียงกันในที่ประชุมอย่างดุเดือด ระบุว่า ตนเห็นด้วยในการจัดที่จอดรถเพิ่ม ปรับปรุงศาลาแก้ว มีโรงภาพยนตร์ 4D ให้เด็กนักเรียนมาดู รวมถึงปรับปรุงฉากหลังบัลลังก์ เพียงแต่ว่าขอให้ใช้งบอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน อภิปรายถึงงบการท่องเที่ยว ชี้งบประมาณส่วนมากกว่า 4.2 พันล้านเน้นไปกับการโฆษณาแบบผักชีโรยหน้า เข้าใจว่าต้องสร้างความเชื่อมั่น แต่นักท่องเที่ยวไม่มาไทยเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย มาแล้วอาจถูกลักพาตัว ถูกหลอกไปทำงาน โดนโกงราคา ถูกเอาเปรียบ ไหนจะเรื่องจีนเทา รัสเซียเทา สักพักจะมีอินเดียเทา ขณะที่งบดูแลด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวและการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวนอมินีกลับน้อยนิด
ด้าน สรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา โต้กลับว่าต้องลงทุนเสริมภาพลักษณ์ PR เพราะประเทศถูกดิสเครดิตแบบนี้ เสียใจได้ยินคำนี้จากปากผู้แทนราษฎรโดยเฉพาะ สส.จากจังหวัดท่องเที่ยว ยันไม่ใช่การปิดข่าวเสีย แต่ภาพลักษณ์ประเทศสำคัญทุกคนต้องช่วยกัน ยอมรับว่านักท่องเที่ยวจีนลดลงจริง แต่ภาพรวมยังลดลงแค่ 2% โดยเปลี่ยน KPI จากปริมาณเป็นคุณภาพ ดึงนักท่องเที่ยวอยู่ไทยนานขึ้นใช้จ่ายมากขึ้น
...
วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายงบกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนของงบแพทย์แผนไทย มีการตั้งเงินรางวัล 60 ล้านบาทกระตุ้นการเบิกจ่ายยาสมุนไพร ในโรงพยาบาลแพทย์แผนปัจจุบัน ชี้ไม่ได้บอกว่าสมุนไพรไม่ดีแต่ต้องถูกที่และถูกทาง มีการเปรียบเทียบโดสว่ายาแผนไทยตัวไหนแทนยาแผนปัจจุบันตัวไหน ซึ่งบางอันมีวิจัยรองรับแต่บางอันก็ยังไม่มี ลั่นอย่าให้คนไทยเป็นหนูทดลอง (อ่าน : “วาโย” ย้อน “สมศักดิ์” ญาติเปิดร้านสมุนไพร เลยต้องสร้างศูนย์การแพทย์แผนไทยหรือ)
ด้าน สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข แจงไม่ใช่เงินรางวัลแต่เป็นการสนับสนุนในด้านการประชาสัมพันธ์ให้แต่ละโรงพยาบาลลดการใช้ยาฝรั่ง หันมาใช้ยาไทยใน 5 กลุ่มอาการ คือ ไอ ท้องอืด ท้องผูก ปวดกล้ามเนื้อ และริดสีดวง เท่านั้น (อ่าน : “สมศักดิ์” แจงงบฯ สธ. ย้ำ 60 ล้านไม่ใช่เงินรางวัลใช้สมุนไพร ยันหลานไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย)