ประธานวิปรัฐบาล ไม่กังวลคดี “ทักษิณ” หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งให้ “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้คดีจำนำข้าว ชี้คนละคดีกัน บอกเรื่องความยุติธรรมทุกคนมองออก ฝั่งหนึ่งโดนอีกฝั่งไม่โดน เผยเพื่อไทยมุ่งหน้าดันงบอย่างเดียว ออกตัวชะลอดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพราะไปทำอย่างอื่น

วันที่ 24 พ.ค. 2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำตัดสินให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องชดใช้ค่าเสียหายส่วนระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) มองว่าจะเป็นสัญญาณลบไปถึงคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนกรณีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละคดี เมื่อถามว่าหากผลออกมาเป็นลบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะบริหารประเทศต่อได้หรือไม่ เพราะหลายฝ่ายมองว่านายกฯเหมือนตกเป็นตัวประกัน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ น.ส.แพทองธาร บริหารประเทศไม่ได้มีนายทักษิณ หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้ามาเกี่ยวข้อง เราเชื่อว่าผลออกมาด้านบวก ไม่มีอะไรน่ากังวล ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่าคือการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ให้ผ่านวาระ 1 เรื่องอื่นยังไม่ได้คิดเลย เมื่อถามว่า สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ เหมือนตุลาการภิวัฒน์กำลังทำงานเหมือนช่วง 10-20 ปี ที่ผ่านมาหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ทำให้สังคมคิดได้ เขาอาจจะคิดกันอย่างนั้น แต่ขณะนี้บ้านเมืองกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจ สิ่งที่สำคัญที่สุดเราต้องโฟกัสเรื่องงบประมาณให้ผ่านก่อน เรื่องอื่นไม่ได้คิดเลย ปีที่ผ่านมามีปัญหาส่วนหนึ่งคืองบประมาณค่อนข้างช้า ฉะนั้นเราอยากให้งบประมาณผ่าน เพราะฉะนั้นโฟกัสทุกอย่างอยู่วันที่ 28-31 พ.ค. เรื่องอื่นไม่ได้กังวล เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับคดีในยุครัฐประหารที่ไม่มีผู้ถูกลงโทษ เช่น กรณีเรือดำน้ำ หรือเหมืองทองอัครา นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นกระบวนการยุติธรรมที่ทุกคนมองเห็นได้อยู่แล้ว ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ ทุกคนก็เห็น ไม่ใช่พอฝั่งหนึ่งโดนฝั่งหนึ่งไม่โดนแล้วก็เอนไปตามนั้น ต้องมองเรื่องความเป็นธรรม ต้องดูดีๆ ถ้าไร้ซึ่งความยุติธรรมความสงบสุขมันไม่ค่อยจะเกิดขึ้น

...

เมื่อถามว่าการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2569 ระหว่างวันที่ 28-31 พ.ค. จะกำชับอะไร สส. หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า งบประมาณที่พูดกันเยอะที่สุดคือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ อะไรที่ไม่จำเป็นที่ไม่ควรทำก็อย่าทำ อะไรที่ไม่เดือดร้อนก็อย่าทำ บางอย่างเราเห็นบางอย่างเราต้องช่วยกันตรวจสอบ โดยเฉพาะกรรมาธิการงบประมาณต้องช่วยกันดูอย่างเต็มที่ สื่อต้องช่วยติดตาม อะไรที่ไม่จำเป็นต้องช่วยกัน เพราะประเทศชาติบ้านเมืองไม่ใช่ของคณะใดคณะหนึ่ง ช่วยกันดูแลอย่าให้มีการทุจริต ขณะที่บ้านเมืองเราต้องการเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเรื่องที่มีความคิดว่าใครดึงเงินเข้าจังหวัดตัวเองได้มาก ได้เก่ง แต่ในความคิดตนการเอาไปทุกบาททุกสตางค์ต้องเกิดคุณค่ากับประเทศชาติ บ้านเมือง และประชาชน เมื่อถามว่าเสียงสะท้อนชะลอแจกเงิน 10,000 ประชาชนอยากให้กลับมาแจกอีกหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นการชะลอแจกนำเงินไปใช้ด้านอื่น ตอนนี้ทุกจังหวัดที่มีโครงการค้างไว้ก็ไปทำโครงการนั้นก่อนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องตัดสินใจไว อย่าช้าอีก ถ้าไว เม็ดเงินออกไปจะมีการจ้างงานเกิดขึ้น ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องถนน และเรื่องอาชีพที่รัฐบาลส่งไปทางจังหวัด ทางจังหวัดต้องดูแลในภาพรวมหลังของบประมาณไป