“นันทนา” ยอมรับรวมชื่อ 20 สว. ยากกว่าที่คิด เผย “เทวฤทธิ์” จองกฐินร้องให้ชะลอเลือกกรรมการ ป.ป.ช. ลั่น ถ้าล้ม สว.ทั้งกระดานก็ยินดี แต่ต้องแก้รัฐธรรมนูญปิดรูโหว่ก่อน “ทนายอั๋น” วอน สว.อิสระ ร่วมลงชื่อ พร้อมปกป้อง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แถลงที่อาคารรัฐสภา ถึงความคืบหน้ากรณีรวมชื่อ สว. เพื่อขอให้ สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า กรณีนี้เป็นเรื่องการขัดแย้งผลประโยชน์อย่างรุนแรง เพราะ สว.เสียงข้างมาก กำลังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเข้าสู่ตำแหน่งโดยมิชอบ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังตรวจสอบ ซึ่งหากปล่อยให้มีการแต่งตั้ง กกต. เข้าไปก็จะเป็นสิ่งที่เรียกว่าต่างตอบแทน เช่นเดียวกับศาลรัฐธรรมนูญที่จะเป็นผู้วินิจฉัย การกระทำนี้จะไม่เท่ากับตั้งผู้พิพากษามาพิจารณาตัวเองหรือ

รวมถึงหากในอนาคตมีการให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ ในขณะที่การตรวจสอบ สว.เสียงข้างมาก ยังไม่ชัดเจน ถ้ามีการดำเนินคดีไปถึงที่สุด หรือศาลมีคำพิพากษาให้ สว. ที่เป็นเสียงข้างมากนั้นมีความผิด จะทำให้ผลแห่งการลงมติของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ กลายเป็นมรดกบาปที่ สว. ได้ทิ้งไว้ให้กับประเทศนี้หรือไม่ ซึ่งมีผลต่อสถานะขององค์กรอิสระมาก เพราะหากองค์กรอิสระเป็นองค์กรภายใต้กำกับพรรคการเมือง หรือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะบิดเบี้ยวไปอย่างไร จะเป็นองค์กรที่เป็นกลางเที่ยงธรรมหรือไม่

น.ส.นันทนา กล่าวต่อไปว่า แม้กระบวนการนี้จะยากลำบาก แต่ขณะนี้สังคมได้รับรู้ว่ากระบวนการได้มาซึ่ง สว. ส่วนใหญ่มิชอบ สังคมเอาใจช่วยในการผลักดันกระบวนการไม่ให้ สว. ได้ลงมติในเรื่องนี้ และยังมี นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ไปร้องกับ กกต. แล้ว ยังมี นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ จะยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ภายในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ และนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. จะยื่นญัตติชะลอการเลือกกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ในการประชุมวุฒิสภา วันที่ 30 พฤษภาคมนี้ โดยทำเป็นหนังสือ ซึ่งต้องรอการบรรจุระเบียบวาระ

...

แม้ทุกมติของเราจะไม่เคยผ่านเลย แต่เป็นช่องทางที่เราต้องทำรวมถึงภาคประชาชน ทุกฝ่ายต้องติดตามว่ากระบวนการไหนจะสำเร็จหรือบรรลุเป้าหมายได้ก่อน ทั้งนี้ สาเหตุของเรื่องมาจากรัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดให้การเลือก สว. เป็นการเลือกกันเองของกลุ่มอาชีพ และเกิดช่องว่าง จนกระทั่งมีการฮั้วกันเข้ามาแบบมโหฬารเช่นนี้ เรื่องที่เกิดส่วนนี้เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และสิ่งที่เราต้องเริ่มคิดทำต่อไป คือการแก้รัฐธรรมนูญที่มีปัญหา ทำให้เกิดวิปริตในการได้มาซึ่ง สว.

เมื่อถามว่าสรุปตอนนี้รายชื่อ สว. มีไม่ถึง 20 คนใช่หรือไม่ น.ส.นันทนา ตอบว่า เราเพิ่งร่างคำร้อง และกฎหมายตามไม่ทันกับเรื่องที่เกิด เราต้องพลิกกฎหมาย ยอมรับว่าไม่ใช่เส้นทางที่ราบรื่น เราได้ชื่อราว 10 คน หากรวมรายชื่อ สว. ได้ 20 คนแล้วจะต้องยื่นต่อประธานวุฒิสภาที่เป็น 1 ใน 55 คนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วย ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะเป็นการถอนรากถอนโคน ไม่ใช่แค่การชะลอไม่โหวตเลือกคนเข้าเป็นกรรมการในองค์กรอิสระใช่หรือไม่ น.ส.นันทนา ระบุว่า เราพยายามหาข้อกฎหมายมารองรับให้การร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ต้องถอดถอน แต่ ไม่มีกฎหมายใดรองรับ ตนจึงเรียกร้องให้ สว.ทั้งหมด ใช้จิตสำนึกหยุดปฏิบัติหน้าที่เอง โดยไม่ต้องใช้กฎหมายมาบังคับ พร้อมยอมรับกังวลว่าการทำเรื่องนี้จะช้า ซึ่งเหลืออีก 9 วัน

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ยื่นเรื่องร้องอนุ กกต.ชุดที่ 26 ยุติการสอบสวนกรณีการฮั้ว สว. นั้น น.ส.นันทนา เผยว่า เป็นสิทธิที่เขาปกป้องตัวเอง แต่โดยกระบวนการยุติธรรมสามารถทำได้หรือไม่ สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ที่กำลังตรวจสอบตนเองได้หรือไม่ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป ในคำถามย้ำว่าถือเป็นการแทรกแซงหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า เปรียบตำรวจถูกผู้ที่ถูกกล่าวหาฟ้อง ขณะที่ประชาชนจับตาดูว่าผู้ที่ถูกกล่าวหามีความผิด แต่กลับร้องเจ้าหน้าที่ อาจเป็นเพราะผู้ถูกร้องมีสถานะที่ไม่ใช่ประชาชนทั่วไป จึงขึ้นอยู่ว่าจะมองอย่างไร

ขณะที่คำถามจะเป็นการฟอกขาว กกต. และ สว. หรือไม่ น.ส.นันทนา ตอบกลับว่า เราจึงเรียกร้องมาตลอดว่าองค์กรอิสระต้องโปร่งใสจากรัฐบาล การเมือง และต้องมีการตรวจสอบอย่างที่ทำตรงไปตรงมา ไม่ปล่อยให้มีการลงมติผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ โดย สว. ที่มีที่มาไม่ชัดเจน ซึ่งถ้ากระบวนการยุติธรรมเดินไปจนสุดทางแล้ว กลุ่ม สว.เสียงส่วนใหญ่นี้พ้นหน้าที่ไป ก็ยังมี สว.สำรอง ที่พร้อมจะเลื่อนรายชื่อขึ้นมาเป็นองค์ประชุมได้ ส่วนจะไปถึงการล้มทั้งกระดานหรือไม่นั้น น.ส.นันทนา ย้อนถามสื่อกลับว่าด้วยเหตุผลอะไร ถ้าจะล้มทั้งกระดาน เพราะคนอื่นที่เข้ามาแบบปกติก็มี ที่ไม่ได้อยู่ในข้อกล่าวหาว่าฮั้วกัน แต่ถ้าถึงที่สุดจะต้องล้มกระดานกันด้วยเหตุผลว่าเกี่ยวพันกันไปกันมา ก็ยินดี แต่ขอให้แก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ สว.ก่อน หากยังไม่แก้ครั้งหน้าจะฮั้วแบบไม่มีหลักฐานหรือร่องรอยทิ้งไว้เลย ก็จะยิ่งแย่กว่าเดิม

ทางด้าน ทนายอั๋น กล่าวเสริมว่า เราทราบกันดี สว.สีน้ำเงิน ที่มีปัญหาอยู่ในกระบวนการมีเพียง 138 คน หมายความว่ามีมากกว่า สว.สายอิสระ แต่วันนี้จำนวน สว. เพียงแค่ 20 คน ที่จะทำการรวมชื่อดูเหมือนว่าโทรศัพท์ไปไม่รับสายบ้าง จึงตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น พี่น้องประชาชนรวมถึงตนอยากเห็นซุปเปอร์ฮีโร่เกิดขึ้นในวุฒิสภา ท่ามกลางการศรัทธาความเชื่อมั่นขององค์กรวุฒิสภาเช่นนี้ พฤติการณ์ของกลุ่ม สว. ที่ได้มาโดยมิชอบ ไม่สุจริตเที่ยงธรรม นำไปสู่การถูกดำเนินคดี และถูกเรียกตัว เป็นเรื่องที่ยอมรับได้หรือไม่ ตนจึงหวังว่าเสียงสะท้อนวันนี้จะไปถึง สว.อิสระ หรือสายสีขาวทั้งหลาย ให้ร่วมกันมาลงชื่อร่วมกับ น.ส.นันทนา เพราะคือทางที่ใกล้ที่สุด แค่ 20 คนไม่เกินไป

ทั้งนี้ หากมองในแง่ร้ายที่สุด สมมติไม่มีใครมาเข้าชื่อ ตนจะไปยื่นที่ศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครอง แต่ก็ไม่หวังอยากไปถึงจุดนั้น อยากเห็น สว. แสดงความกล้าหาญ ส่วนใครที่กลัวว่า สว.สีน้ำเงิน จะเอาคืนในเงื่อนไขในเรื่องของการตั้งกรรมการมาสอบเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมของใครก็แล้วแต่ที่มาร่วมลงชื่อ นั่นหมายถึงว่าพวกคุณกลัว โดยตนให้คำมั่นว่าหากใครถูก สว.สีน้ำเงินเอาคืน ตนและประชาชนพร้อมปกป้อง.