“นายกฯ อิ๊งค์” ย้ำคำเดิม “ทักษิณ” ป่วยจริง ชี้ยังไม่มีแพทยสภาคนไหนบอกไม่ป่วย ยอมรับเรื่องนี้กระทบความรู้สึก งงข่าวยุบสภา หลังพรรคภูมิใจไทยไม่พอใจ สว. ถูกเรียกสอบ มั่นใจคุมสถานการณ์อยู่
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 13 พ.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ กรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ รวมถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเตรียมไต่สวนเรื่องดังกล่าว เป็นการสะท้อนว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมและชนชั้นนำไม่ไว้ใจพยายามล้อมกรอบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดย น.ส.แพทองธาร ย้อนถามว่า แบ่งเป็นชนชั้นใช่หรือไม่ ความจริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติ ยังไม่มีแพทยสภาคนใดออกมาพูดว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่จริง ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ แต่จะแปลว่าอย่างไรไม่ทราบ จะเป็นชนชั้นอะไรอย่างไรก็ไม่ทราบเพราะไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ เมื่อถามว่าหลังแพทยสภามีมติอะไรออกมา มีผลกระทบอะไรมาถึงนายทักษิณหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มี คุณพ่อเตรียมชี้แจงก็แค่นั้น โดยจะชี้แจงตามข้อเท็จจริง เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีและนายทักษิณยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่มีแพทย์ถูกตักเตือน น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ต้องชี้แจงกันต่อไป จะบอกว่าไม่มีผลกระทบก็ไม่ใช่ เพราะกระทบมาตลอด ถามว่าเราจะทำอย่างไรมันมีคำถามว่ากระทบอย่างไร มันกระทบตั้งแต่ตอนได้รับคดีนี้พูดถึงความรู้สึกว่ารู้สึกอย่างไรมันรู้สึกมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ถามว่าเราทำอะไรได้บ้างดีกว่าสิ่งที่ทำได้คือชี้แจงข้อเท็จจริงตามหลักฐานและสิ่งที่เกิดขึ้น
แจงเริ่มและจบก่อนเป็นนายกฯ
...
น.ส.แพทองธาร ยังย้ำด้วยว่า เรื่องนี้ ชี้แจงได้ ตนพูดมาตลอดว่าท่านทักษิณอายุมากแล้ว ป่วยเป็นโควิดตั้งแต่ก่อนกลับมาประเทศช่วงที่อายุ 72 ปี ตอนนั้นไม่สบายหนัก มีประวัติการป่วยอยู่แล้วตั้งแต่รักษาที่ต่างประเทศมันเกี่ยวเนื่องกันมา ทางการแพทย์จริงๆ มีประวัติการรักษาสามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว ส่วนที่โจมตีว่าป่วยทิพย์นั้นเราชี้แจงตามข้อเท็จจริง ถ้าใครจะคิดอย่างไรก็ไม่สามารถห้ามได้ เรื่องผลกระทบที่จะมาถึงตนนั้นขอทำความเข้าใจว่า “เรื่องชั้น 14 เริ่มและจบลงก่อนดิฉันเป็นนายกฯ พูดไปหลายรอบแล้ว แต่ก็มีหลายฝ่ายพยายามทำให้เข้าใจผิดว่าดิฉันเข้าไปยุ่งกับกระบวนการไปแทรกแซงต่างๆ ซึ่งดิฉันไม่มีอำนาจอะไรเลย จะแทรกแซงอย่างไร มันจบเรื่องคุณพ่อชั้น 14 ก่อนที่ดิฉันเป็นนายกฯ ตั้งหลายเดือน มันชัดเจนด้วยกรอบเวลา อันนี้ก็ไม่รู้จะชี้แจงอย่างไร และจากที่ได้เจอกับท่านทักษิณวันที่ 12 พ.ค. ได้คุยกันว่าจะไปชี้แจงศาลในวันที่ 13 มิ.ย.”
ยันคำเดิม “ทักษิณ” ป่วยจริง
เมื่อถามย้ำว่ายังยืนยันว่านายทักษิณป่วยจริงเหมือนที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า “ใช่ค่ะ ยังยืนยันเหมือนเดิม” เมื่อถามอีกว่าคำแถลงของแพทยสภาเหมือนสวนทาง น.ส.แพทองธาร ย้อนถามว่า “ท่านป่วยจริงหรือไม่” สื่อจึงตอบว่าไม่ได้ชัดขนาดนั้นระบุเพียงว่าแพทย์มีความบกพร่องในการทำหน้าที่ น.ส.แพทองธาร จึงตอบว่า เขาก็ต้องชี้แจงกันต่อไป
ย้อนถามทำไมต้องยุบสภา
นายกรัฐมนตรียัง ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวอาจจะมีการยุบสภาฯ ช่วงสุดสัปดาห์ ว่า จริงๆ ได้สอบถามคนในพรรคเพราะงงกับข่าวที่ออกมาว่าทำไมถึงยุบสภาฯ พร้อมย้อนถามสื่อว่าจะยุบเพราะอะไร สื่อจึงตอบไปว่า พรรคภูมิใจไทยจะคว่ำร่าง กม. งบประมาณปี 69 เพราะไม่พอใจคดีฮั้ว ส.ว. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มีเลย จริงๆ การทำร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่มีเรื่องของการยุบสภาฯ อะไรเลย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยผ่าตาอยู่ ซึ่งตนไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับนายอนุทิน เพียงแต่อวยพรให้หายเร็วๆ และความจริงสื่อช่วยกันคิดก็ได้ว่าทำไมถึงมีข่าวแบบนี้ออกมา เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เหมือนเดิมไม่มีอะไร
คุมสถานการณ์ได้ไม่เกินมือ
เมื่อถามว่าสถานการณ์ตอนนี้ที่ผู้นำทางจิตวิญญาณสองคน คือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทยกำลังสู้รบกันอยู่ เกินมือนายกฯ ที่จะจัดการปัญหาแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธาร หัวเราะก่อนตอบว่า สื่อชอบโยง โยงนั้นโยงนี้ โยงจนบางทีงงว่าบางเรื่องมันเกี่ยวข้องกันจริงๆ หรือไม่ แต่ไม่มีอะไรทั้งสองท่านคิดว่าคุยกันนอกรอบได้อยู่แล้ว แต่เรื่องปัญหาของรัฐบาลเรามีหน้าที่รักษาเสถียรภาพอยู่แล้ว ถามว่าเกินมือหรือไม่ที่ตัวดิฉันเองจะเข้าไปเกี่ยวข้อง จะเกินมือได้อย่างไรในเมื่อดิฉันเป็นนายกฯ อยู่ เรื่องเสถียรภาพรัฐบาลต้องมั่นใจอยู่แล้วต้องคุมให้ได้ อีกเรื่องถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นผู้นำทางจิตวิญญาณหรืออะไรต้องเกิดขึ้นนอกระบบ แต่ถ้าอยู่ในระบบอยู่ในการจัดตั้งรัฐบาลมันคงเกิดขึ้นไม่ได้เพราะทั้งสองท่านไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล เมื่อถามว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนดื้อจะจัดการอย่างไร น.ส.แพทองธาร หัวเราะก่อนตอบว่า “พูดเหมือนเป็นลูกไม่ใช่นะคะ บอกแล้วว่าการมีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคมีความคิดเห็นไม่ตรงกันอยู่แล้ว ในพรรคยังคิดไม่ตรงกันเลยแต่ต้องหาข้อสรุปจนได้ อะไรที่ติดขัดต้องช่วยกันพูดคุยกันเท่านั้น พอมันถึงเรื่องใหญ่พรรคร่วมรัฐบาลก็โทรหากันอยู่แล้วต้องคุยกันนอกรอบก่อน”
เมื่อถามว่าเวลามีกฎหมายสำคัญเข้าสภาฯ เช่นเรื่องเอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ หรือกฎหมายงบ ต้องมีประเด็นเพื่อไทย-ภูมิใจไทยตลอด น.ส.แพทองธาร ตอบว่า นั้นซิ สื่อมวลชนช่วยตอบให้หน่อยทำไมเป็นข่าวทุกทีเลย เป็นเพราะสื่อหรือไม่