กลายเป็นเรื่องเป็นราวที่ส่อจะบานปลายอีกจนได้ เมื่อกลุ่มการเมืองภาคประชาชนยื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกา กรณี "พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ กรณีเป็นบุคคลต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิรับสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส.หรือไม่ เนื่องจากพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เคยถูกสั่งให้พ้นจากการเป็นข้าราชการ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยุครัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช 

พร้อมกันนี้ยังขอให้ กกต.ทำหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ให้ออกคำสั่ง เลื่อนการประกาศรับรอง ส.ส. จากวันที่ 9 พฤษภาคม ออกไปอีก 180 วัน ด้วยเหตุผลว่า ยังมีข้อโต้แย้งเรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ อีกทั้งยังมีการร้องให้ยุบพรรคการเมืองหลายพรรค รวมถึงปัญหาคุณสมบัติของว่าที่ ส.ส. ดังนั้นเพื่อให้การได้มาซึ่ง ส.ส. ที่จะไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎรไม่ให้มีมลทิน จึงควรชะลอเวลา เพื่อให้ปัญหาทุกเรื่องมีความชัดเจน ทั้งจากศาลรัฐธรรมนูญและศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งก่อน

-เส้นทางสีสันมันๆ "เสรีพิศุทธ์" ฉายาวีรบุรุษนาแก ปากดุ ปราบเหี้ยน มาเฟีย ป.

เส้นทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 

 "เสรี เตมียเวส" หรือ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส จบจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 8 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 24 เคยรับราชการอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อสู้กับฝ่ายคอมมิวนิสต์อย่างเข้มข้น ที่จังหวัดนครพนม  ช่วง พ.ศ. 2515-2524 ได้ต่อสู้ปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ จนบ้านเมืองสงบเรียบร้อย และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร และเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1 ซึ่งต่อมาประชาชนเรียกขาน และยกย่องว่าเป็น "วีรบุรุษนาแก"

...

ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา นอกจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้รับพระราชทานรางวัล “คนไทยตัวอย่าง” รางวัล “บุคคลดีเด่นของชาติ” จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รางวัล “ข้าราชการที่ประพฤติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริต” จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากหลายมหาวิทยาลัย

ถูกวางระเบิดห้องทำงาน ขณะเป็นผู้บังคับการกองปราบ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เคยดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการกองปราบปราม เมื่อ พ.ศ. 2533-2534 ขณะนั้น พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กระทั่งในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2534  เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เพราะได้มีคนลอบวางระเบิดห้องทำงาน ในขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบปราม ต่อมาต้องพ้นจากตำแหน่ง ภายหลังเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2534 ได้เปลี่ยนชื่อจาก "เสรี" เป็น "เสรีพิศุทธ์" เพื่อแก้เคล็ด เนื่องจากชื่อไม่ถูกโฉลก 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีภาพลักษณ์เป็นนายตำรวจมือปราบที่ซื่อตรง ได้ฉายาว่า "มือปราบตงฉิน" เคยจับกุมนักการเมือง รัฐมนตรี เจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลหลายต่อหลายคน ทำให้ได้รับผลกระทบจากการเมืองบ่อยครั้ง โดยมักถูกโยกย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ได้ควบคุมกำลัง เช่น กองวิทยาการตำรวจ หรือประจำกรมตำรวจ ฯลฯ 

ต่อมาได้รับความไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้ "ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง" และดำรงตำแหน่ง "จเรตำรวจแห่งชาติคนแรก" ต่อมาโดนย้ายไปดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษา สบ 10 

ได้นั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยุค "คมช."

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ได้รับคำสั่งให้นั่งเก้าอี้รักษาการแทน ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ที่นั่งเก้าอี้เป็นตัวจริง โดนไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ภายหลัง คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งมีพลเอกสนธิ บุญยรัตกลินเป็นหัวหน้าคณะ โค่นรักษาการนายกรัฐมนตรี ดร. ทักษิณ ชินวัตร นับเป็นรัฐประหารในรอบ 15 ปี

ต่อมาได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2550  ในปีเดียวกัน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้มีประกาศ ฉบับที่ 1 แต่งตั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ 

...

ขั้วอำนาจเก่าผงาด "สมัคร สุนทรเวช" ปลด "เสรีพิศุทธ์" ออกจากราชการ 

เมื่อต้นปี พ.ศ. 2551 ภายหลังพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง นายสมัคร สุนทรเวช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พ.ต.อ.ทินกร มั่งคั่ง อดีตนายเวร ที่ถูก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ปลดออกจากราชการ ลงนามหนังสือร้องเรียนถึงนายสมัคร ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีได้ลงรับหนังสือร้องเรียนทั้ง 3 ฉบับ ไว้พร้อมกันในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 และในวันรุ่งขึ้น นายสมัครก็ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ทันที โดยข้ามขั้นตอนไม่ทำการสืบสวนข้อเท็จจริงตามกฎหมายเสียก่อน และในวันเดียวกันนั้นก็ได้ออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษาราชการแทน 

ต่อมา วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2551 นายสมัคร ก็ได้ออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 73/2551 ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากราชการไว้ก่อน โดยที่ยังไม่ทันได้เริ่มทำการสอบสวนใดๆ ทั้งสิ้น และแต่งตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. แทน หลังจากนั้น ในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ได้แถลงข่าวที่โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ ถึงเรื่องที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยกล่าวว่าตนถูกปล้นตำแหน่ง ไม่ได้รับความเป็นธรรม 

...

"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ยกเลิกคำสั่ง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 

ต่อมาเมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้สั่งให้ยุติการสอบสวน และยกเลิกคำสั่งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากราชการไว้ก่อน กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ฟ้องร้อง พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ในคดีหมิ่นประมาท แต่ศาลได้มีคำสั่งยกฟ้องในที่สุด 

วิพากษ์วิจารณ์ กองทัพ คณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาลผ่านสื่อ 

ภายหลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีท่าทีที่เปลี่ยนไป และได้วิพากษ์วิจารณ์กองทัพ คณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาลผ่านสื่อหลายครั้งหลายคราว ทางด้านรัฐบาลเองได้ตอบสนอง ด้วยการออกหมายเรียก วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ในข้อหากระทำการที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ

แพ้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2556

ในวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เปิดตัวแสดงเจตนาที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ในนาม "กลุ่มพลังกรุงเทพ" โดยได้เบอร์ 11 และได้รับคะแนนทั้งสิ้น 166,582 คะแนน โดยมีคะแนนเป็นอันดับสามต่อจากพรรคการเมืองใหญ่ทั้ง 2 พรรค และอันดับหนึ่งจากผู้สมัครอิสระที่ไม่สังกัดพรรคอีก 23 คน

...

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย 

พรรคเสรีรวมไทย พรรคการเมืองของไทย ที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เป็นลำดับที่ 13/2556 โดยมีนายไพบูลย์ พึ่งทองหล่อ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ต่อมาในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 คณะกรรมการบริหารพรรคชุดแรก ได้ขอลาออกจากตำแหน่งทั้งคณะ ทางพรรคจึงเตรียมการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคโดยได้เชิญ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาเป็นว่าที่หัวหน้าพรรค

โดยทางพรรคเสรีรวมไทยได้มีกำหนดจัดประชุมใหญ่ของพรรคครั้งแรก ในวันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ณ เวสต์เกต ฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต จังหวัดนนทบุรี เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 

คะแนนเลือกตั้งเป็นอันดับ 6 

ในการเลือกตั้ง 62 พรรคเสรีรวมไทย แม้จะเป็นพรรคการเมืองใหม่แกะกล่อง แต่ก็ส่งผู้สมัคร ส.ส. เขตครบทั้ง 350 เขต ยื่นใบสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน โดยส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว นั่นคือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หรือ “ตู่” เข้าชิงชัยกับแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งรวมถึง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรคพลังประชารัฐด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แสดงความมั่นใจว่า จะได้คะแนนสนับสนุนจากประชาชนจนทำให้มี ส.ส. จากพรรคเสรีรวมไทยเข้าไปนั่งในสภาฯ อย่างน้อย 100 คน 

กระทั่งผลการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ผลปรากฏว่า คะแนนมหาชนแบบป๊อปปูลาร์โหวต พรรคเสรีรวมไทย ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับที่ 6 ด้วยคะแนน 826,530 และคาดว่าจะมี ส.ส.ในมือถึง 11 ที่นั่ง แต่ท้ายที่สุดถูกโดนเบรกด้วยปมปัญหาเก่าเน่านานจากการร้องเรียนของกลุ่มการเมืองภาคประชาชนยื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกา

กรณี "พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ กรณีเป็นบุคคลต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิรับสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส.หรือไม่ เนื่องจากพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เคยถูกสั่งให้พ้นจากการเป็นข้าราชการ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยุครัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช.