เด็กชายหญิงลูกครึ่งไทย-สวิส 2 คนที่รอดชีวิตจากเหตุตกตึกเมื่อปีก่อน หนีออกจากบ้านและเดินเท้าไกลกว่า 20 กม. เพื่อตามหาพ่อ โดยอ้างว่าถูกแม่ทำร้าย แต่ผู้เป็นแม่ปฏิเสธ...
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 30 มี.ค. กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) รายงานข่าวว่า นายรณสิทธิ์ พฤษยาชีวะ ประธานกรรมการมูลนิธิรณสิทธิ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ และความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ได้พาเด็กชายและเด็กหญิงลูกครึ่งไทย-สวิส อายุ 12 กับ 11 ปีตามลำดับ เข้าพบ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.กก.ดส. เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกแม่แท้ๆ ทำร้ายร่างกายจนทนไม่ไหว หนีออกจากบ้านพักย่านรามคำแหง เพื่อออกตามหาพ่อ
นายรณสิทธิ์ กล่าวว่า การพาเด็กทั้ง 2 คนเข้าขอความช่วยเหลือต่อ กก.ดส. เนื่องจากเมื่อเวลา 18.00 น. มูลนิธิรณสิทธิ์ ได้รับการประสานงานจาก “เพจล่า” ว่ามีพลเมืองดีพบเด็กชาย หญิง 2 คนอายุประมาณ 11-12 ปี ลักษณะเหมือนจะหลงทาง จากนั้นทีมงานจึงลงพื้นที่จนพบเด็กทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ และจากการสอบถามเบื้องต้นเด็กระบุว่าได้หนีออกจากบ้านมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มี.ค. เพื่อมาตามพ่อชาว สวิตเซอร์แลนด์ หลังถูกแม่ซึ่งเป็นคนไทยทำร้ายร่างกายหลายครั้งเพราะทำความสะอาดห้องไม่เรียบร้อย จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านมาเพื่อมาตามหาพ่อที่พักอยู่ในซอยมีสทีน (รามคำแหง160) โดยเดินมาไกลกว่า 20 กม. แต่ไม่พบเนื่องจากผู้เป็นพ่อติดทำธุระกิจอยู่ต่างประเทศ จนกระทั่งมีคนมาพบและประสานไปยังกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อเข้าดูแลและใช้อำนวจตามพรบ.คุ้มครองเด็กและสตรี ในการรับตัวเด็กไปดูแล เนื่องจากเด็กระบุว่าไม่อยากกลับไปอยู่กับแม่
...
จากสภาพเด็กที่พบครั้งแรกมีท่าทีที่อิดโรยเนื่องจากเดินเท้าเป็นเวลานาน อีกทั้งตัวเด็กหญิงมีอาการเจ็บบริเวณต้นขาข้างซ้ายที่เกิดจากการผ่าตัด ครั้งที่ตกตึกลงมาเมื่อวันที่ 1 พ.ค.61 ทางมูลนิธิจึงพาทั้ง 2 คนมาร้องขอความช่วยเหลือต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประสานทาง พม.เข้ามาดูแลในเบื้องต้น ทั้งนี้ทางมูลนิธิมองว่าการกระทำของแม่ของเด็กทั้ง 2 คนนั้นเป็นการกระทำที่รุนแรง อีกทั้งยังไม่อยู่ในสถานะที่จะดูแลเด็กทั้ง 2 อีกต่อไปเนื่องจากเด็กให้ข้อมูลว่า เคยพบเห็นแม่ถืออะไรบ้างอย่างเป็นแผ่นสีเงิน เดินเข้าไปในห้องน้ำ ในส่วนนี้คงต้องให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบถามข้อมูลจากเด็ก หากเสร็จสิ้นทาง พม. จะรับไปดูแลจนกว่าผู้ปกครองที่มีสิทธิ์อันชอบธรรมด้วยกฏหมายจะมารับกลับไปดูแลต่อไป
ต่อมาเวลา 20.40 น. น.ส.รัตติกาล ประกายแก้ว อายุ 37 ปี แม่ของเด็กทั้งสอง พร้อมนางรัตนา หรือ แอ๊ด อายุ 64 ปี ยายของเด็ก เดินมาที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เพื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ข้อมูลและขอรับตัวลูกทั้งสองคนกลับไปดูแล จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสอบถามข้อมูลก่อนจะออกจากห้องสอบสวนในเวลาประมาณ 21.20น. โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า ตนไม่ทราบว่าลูกหนีออกมาจากบ้าน ส่วนการทำร้ายร่างกายตนยืนยันว่าเป็นการดุด่า ส่วนเรื่องยาเสพติดน.ส.รัตติกาลยืนยันว่า ไม่มี จากนั้นได้ขึ้นรถออกไปโดยทันที
อนึ่ง ในส่วนของการดำเนินคดียังไม่พบข้อมูลว่าเด็กถูกแม่ทำร้ายจริงหรือไม่ แม้เด็กจะให้การว่าถูกทำร้าย เนื่องจากถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะเป็นปัญาหาในครอบครัว ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบกับเด็กต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามได้ประสานไปยังพ่อของเด็กทราบแล้วซึ่งระบุว่าจะรีบเข้ามาให้ข้อมูลเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเด็กทั้ง 2 คน เคยตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปีก่อน หลังรอดชีวิตจากการพลัดตกลงจากห้องพักชั้น 4 อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านรามคำแหง พร้อมน้องสาวกับน้องชาย อายุ 7 ปีและ 5 ปี แต่ทั้ง 2 เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนเด็กชายวัย 11 ปีและเด็กหญิง 10 ปี (อายุขณะนั้น) รอดชีวิต ก่อนจะเกิดกรณีการแย่งสิทธิ์การเลี้ยงดูระหว่างผู้เป็นแม่และพ่อ ก่อนที่สุดท้ายผู้เป็นแม่จะได้รับสิทธิ์ในการดูแลลูกที่รอดชีวิตทั้ง 2 คนในเวลาต่อมา