ในร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 70 ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราสามารถอดอาหารได้ติดต่อกันได้เป็นสัปดาห์ แต่ถ้าขาดน้ำจะเสียชีวิตภายใน 2-3 วัน มากกว่านั้นกลุ่ม Healther (กลุ่มคนรักสุขภาพ) ยังให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำมากๆ เพราะนอกจากจะจำเป็นต่อร่างกายแล้ว น้ำยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดอาการอ่อนเพลีย ขจัดสารพิษในร่างกาย ช่วยเพิ่มเมตาบอลิซึม ช่วยเรื่องระบบไหลเวียนเลือด ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย และยังลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เป็นที่รู้กันดีว่าเราควรดื่มน้ำอย่างน้อยให้ได้ 2 ลิตร หรือ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อลดอาการขาดน้ำ และตามมาด้วยโรคภัยต่างๆ ดังนั้นเมื่อรู้ว่าน้ำสำคัญขนาดไหน จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันคนหันมาใส่ใจในเรื่องน้ำดื่มกันมากขึ้น แต่สำหรับโลกยุคนี้สภาพแวดล้อมของเรา รายล้อมไปด้วยมลภาวะ การเลือกดื่มน้ำจึงเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกมาพูดและให้ความสำคัญมากขึ้น ไม่ใช่แค่น้ำอะไรก็ได้ เพราะผลวิจัยหลายสถาบันชี้ว่า การดื่มน้ำไร้แร่ธาตุเป็นเวลานาน เสี่ยงโรคร้ายแรง และอาจเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จึงเป็นประเด็นถกเถียงกันมากเกี่ยวกับน้ำ RO ระบบการกรองคู่คนไทยหลายสิบปีว่า การกรองที่สะอาดบริสุทธิ์แต่พร่องแร่ธาตุ ดื่มแล้วเป็นคุณหรือโทษมากกว่ากัน แล้วในยุคนี้คนไทยควรดื่มน้ำระบบนี้ต่อไปหรือไม่ วันนี้เราจะมาชำแหละระบบการกรองแบบ Reverse Osmosis หรือ RO นี้กัน
RO ระบบกรองน้ำคู่คนไทยมาหลายสิบปี ดีจริงหรือ?
ขอเกริ่นก่อนว่าการดื่มน้ำในแต่ละครั้ง สิ่งที่ควรได้รับนอกจากน้ำที่ดื่มเข้าไปแก้อาการกระหายนั่นคือ แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แร่ธาตุสำคัญที่มีอยู่ในน้ำ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟลูออไรด์ ซิลิก้า และซิงค์ เป็นต้น แร่ธาตุเหล่านี้จำเป็นต่อการซ่อมแซมและเสริมสร้างกระดูกและฟัน รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ ให้ร่างกาย กระแส น้ำ RO บั่นทอนสุขภาพคนไทยจริงหรือไม่ อาจต้องเล่าก่อนว่า น้ำดื่มระบบ RO หรือ Reverse Osmosis เป็นระบบกรองน้ำที่มีความละเอียดสูง แผ่นกรองมีรูพรุนขนาดเล็กมาก แม้แต่จุลินทรีย์ก็ผ่านไม่ได้ จึงเป็นระบบที่กรองได้มีความบริสุทธิ์สูง จนแทบไม่มีสารอะไรตกค้างอยู่เลย แร่ธาตุก็เช่นกัน ดังนั้นใช่ว่าน้ำระบบ RO ไม่ดี หากแต่แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายไม่สามารถหาได้ในการกรองน้ำชนิดนี้ ถ้าจุดประสงค์ในการดื่มน้ำของคุณเพียงเพื่อดับกระหาย และป้องกันอาการขาดน้ำเท่านั้น น้ำ RO ก็ถือว่าตอบโจทย์ แต่หากคุณเป็นคนที่มองหาประโยชน์จากการดื่มน้ำ เน้นแร่ธาตุจากน้ำเป็นสำคัญ น้ำ RO ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่คู่ควร จึงไม่แปลกที่กลุ่ม Healther หรือคนรักสุขภาพ ไม่เลือกดื่มน้ำระบบนี้
RO = DEAD WATER มหันตภัยในชีวิตประจำวัน?
สำหรับประเทศไทยเอง น้ำดื่มหลายแบรนด์ หรือเครื่องกรองน้ำในหลายๆ ครัวเรือน นิยมใช้ระบบ RO อย่างมาก นั่นเป็นเพราะความละเอียดในการกรองสูง จึงมั่นใจได้ว่ากรองได้บริสุทธิ์ แต่ปัจจุบันมีนักวิชาการ และผลงานวิจัยจากหลายๆ สถาบัน ออกมาบอกว่า ด้วยความที่กรองได้บริสุทธิ์ใกล้เคียงน้ำกลั่นที่ใช้ในอุตสาหกรรม หรือทางการแพทย์ จึงไม่เหมาะสมที่จะใช้ดื่มในชีวิตประจำวัน เพราะไม่มีแร่ธาตุหลงเหลืออยู่แล้ว งานวิจัยทางระบาดวิทยาของสวีเดน ยืนยันว่า การดื่มน้ำ RO เหมาะสมกับการดื่มในระยะสั้น หรือในสภาวะที่ขาดน้ำเท่านั้น เช่น นักบินอวกาศสหรัฐฯ ก็ใช้เครื่อง RO ในยาน เพราะมีประสิทธิภาพในการกรองสูงมากขนาดสามารถเปลี่ยนน้ำปัสสาวะของนักบินอวกาศ ให้กลับมาเป็นน้ำที่ดื่มได้ แต่นั่นถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น และนักบินอวกาศดื่มน้ำ RO ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่สำหรับคนทั่วไปที่ดื่มน้ำ RO ทุกวัน เป็นปีๆ น่าจะทำให้เกิดภาวะพร่องแร่ธาตุ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อน้ำ RO ที่เราดื่มเข้าไปทุกวันไม่มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์อยู่เลย หากดื่มติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน แร่ธาตุที่สะสมตามอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย จะถูกดึงออกไปด้วย โรคที่ตามมาจากการที่ร่างกายเกิดภาวะพร่องแร่ธาตุ เช่น ร่างกายเสียสมดุล ทำให้เวียนศีรษะ หน้ามืด กล้ามเนื้อเป็นตะคริว ผิวเคลือบฟันถูกทำลายส่งผลให้ฟันผุ ระบบไหลเวียนของเลือดผิดปกติ เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
ท่ามกลางกระแสถกเถียง และข้อกังขาเกี่ยวกับการดื่มน้ำ RO ว่าเป็นคุณหรือโทษมากกว่ากัน หวังว่าบทความนี้จะช่วยคลายความสงสัยได้บ้าง เอาเป็นว่าไม่ใช่น้ำดื่ม RO เลวร้ายถึงขั้นดื่มไม่ได้ แต่ถ้าวันนี้เราทราบแล้วว่าการดื่มน้ำให้ส่งผลดีต่อสุขภาพ ต้องดื่มเพื่อการดับกระหายและได้แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เราก็ควรเลือกน้ำดื่มที่ผ่านระบบการกรองที่สะอาด แต่ยังคงไว้ซึ่งแร่ธาตุต่างๆ เพื่อเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ น้ำที่เห็นว่าใสสะอาด แท้จริงแล้วคุณค่าอาจต่างกัน หากคุณเป็นคนใส่ใจสุขภาพ วันนี้คงรู้แล้วว่าจะดื่มน้ำอย่างไร ให้ได้คุณค่ามากที่สุด