นายคนใหม่ "สงกรานต์" แจงปมงานใกล้บ้าน ว่าง สบาย ล่าสุด ยังไม่มารายงานตัว

ภายหลังจากที่มีคำสั่งเด้งฟ้าผ่า ร.ต.อ.สงกรานต์ เตชะณรงค์ ออกมาสู่สาธารณะ เสียงฮือฮาในวงการสีกากี และกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาก็ดังกระหึ่ม...

เมื่อไล่เรียงดูแล้ว พบว่าการโยกย้ายของ ร.ต.อ.สงกรานต์ ในครั้งนี้ ถูกย้ายไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจ บก.ฝรก. โดยมีการระบุด้วยว่า ให้ ร.ต.อ.สงกรานต์ ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผกก.ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจ บก.ฝรก. มอบหมาย

ล่าสุด ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ พ.ต.อ.อมรวิทย์ มั่นทอง ผกก.ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจ บก.ฝรก. หรือในฐานะ ผู้บังคับบัญชา(ล่าสุด)โดยตรงของ ร.ต.อ.สงกรานต์ ถึงกรณีดังกล่าว ได้ความว่า เบื้องต้น ร.ต.อ.สงกรานต์ ยังไม่ได้เข้ามารายงานตัวรับตำแหน่งใหม่ ซึ่งอาจจะมาจากติดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และโดยส่วนตัว ตนกับ ร.ต.อ.สงกรานต์ นั้น ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ทั้งนี้ ที่ทำการของ ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจ บก.ฝรก. นั้น มีที่ตั้งอยู่ที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (ห่างจากโบนันซ่า เขาใหญ่ ราว 21.2 กิโลเมตร หรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 28 นาที)

ส่วนที่มีกระแสข่าวลือว่า ศูนย์ฝึกอยู่ใกล้บ้านพักที่เขาใหญ่ นั้น พ.ต.อ.อมรวิทย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “มันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าครับที่หน่วยของผมมันไปอยู่ตรงนั้น”

ขณะที่ ประเด็นที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า งานที่ ร.ต.อ.สงกรานต์ ได้รับมอบหมาย ไม่ได้ยากเย็นอะไร อีกทั้งยังมีเวลาว่างเยอะนั้น พ.ต.อ.อมรวิทย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ไม่เกี่ยวหรอกครับ คนทำงาน ไปอยู่ตรงไหนก็มีงานทั้งนั้นแหละครับ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่า ผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาความเหมาะสมอย่างไร ส่วมผมเป็นหน่วยรองรับ คงไม่สามารถก้าวล่วงตรงนั้นได้ แต่บอกได้เลยว่า ทุกหน่วยงาน ย่อมมีงาน มีภารกิจหน้าที่ของเขาทั้งนั้น”

“ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจ ก็มีงานจันทร์ถึงศุกร์ งานฝึกอบรมมันมีตลอดครับ มันไม่ได้สบายอย่างที่คนอื่นเขาคิด” พ.ต.อ.อมรวิทย์ กล่าว

ภาระหน้าที่ ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจ

ขณะที่ ภาระหน้าที่ของ ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจ กองบังคับการฝึกอบรมตำรวจกลาง (บก.ฝรก.) นั้น มีหน้าที่หลักๆ อยู่ 4 ประการ ดังต่อไปนี้

1. ฝึกอบรมงานเฉพาะทางให้กับบุคลากรก่อนเข้ารับราชการตำรวจ และข้าราชการตำรวจทั้งชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาทิ งานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม งานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา งานจราจร งานควบคุมฝูงชน งานรักษาความสงบเรียบร้อยและการรักษาความปลอดภัยในกิจการของตำรวจ งานบริการประชาชน และงานการให้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชน ฯลฯ

2. ฝึกอบรมบุคลากรที่ทำหน้าที่ครูฝึกข้าราชการตำรวจ เพื่อพัฒนาความรู้ ศักยภาพ และทักษะทางด้านยุทธวิธีตำรวจ

3. ฝึกอบรมด้านความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานตำรวจให้กับองค์การภาครัฐและภาคเอกชน และด้านระเบียบวินัย คุณธรรม จริยธรรม ความสามัคคี ให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป 

4. ประสานความร่วมมือและปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันการศึกษา และองค์การอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ปมฉาวหย่าเมียไปคบกับ ‘แมท’ ชอบโชว์รอยสักลงโซเชียลบ่อยถูกเตือนทำเฉย

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 เพิ่มเติม ถึงสาเหตุการย้ายด่วนครั้งนี้ว่า สืบเนื่องมาจากปัญหาครอบครัวของ ร.ต.อ.สงกรานต์ ที่มีข่าวฉาวด้านลบเรื่องปัญหาการหย่าร้างกับดาราสาวแอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ยืดเยื้อยาวนานจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงในโลกโซเชียลมีเดีย

ต่อมาแทนที่เรื่องจะเงียบ ชื่อของ ร.ต.อ.สงกรานต์ กลับมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง เมื่อ ถูกกลุ่มแฟนคลับของแอฟ-ทักษอร ขุดคุ้ยถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับดาราสาวแมท-ภีรนีย์ คงไทย ที่ตอนแรกทั้ง 2 ออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง แต่พอถูกจับผิดมากๆ จึงยอมออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์ พร้อมกล่าวอ้างว่า เพิ่งปลูกต้นรักกันหลังจาก ร.ต.อ.สงกรานต์ เลิกรากับแอฟ-ทักษอร ไปแล้ว แต่หลายคนไม่เชื่อ ยังโจมตีอย่างหนัก แต่แทนที่จะหลบเสียงวิจารณ์ ทั้ง 2 คนกลับลงรูปคู่ขณะเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ถี่ยิบ

รวมถึงกรณี ร.ต.อ.สงกรานต์ ชอบโพสต์ภาพในโซเชียลมีเดีย มีหลายภาพโชว์รอยสักหลายจุดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตามประกาศของโรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.) กำหนดกรอบดุลพินิจพิจารณาวินิจฉัย การตรวจร่างกายฉบับลงวันที่ 5 พ.ย.2558 ข้อ 3.1 ระบุว่า รอยสักมีได้ แต่รวมทุกส่วนของร่างกายแล้ว ต้องมีไม่เกิน 16 ตารางเซนติเมตร จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่จะอยู่สังกัดหน่วยงาน บก.ตร.มหด. รอ.904 ที่เจ้าตัวสังกัดอยู่

โดยมีรายงานด้วยว่า ก่อนหน้ามีคำสั่งย้ายครั้งนี้ พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบก.ตร.มหด.รอ.904 เคยเรียก ร.ต.อ.สงกรานต์ มาตักเตือน และสั่งการให้แก้ไขปัญหาครอบครัวมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งนิสัยที่ชอบโพสต์รูปรอยสักลงในโซเชียลมีเดีย แต่หลังจากตักเตือนไปยังไม่มีความคืบหน้า แถมยังปรากฏภาพไม่สมควรในโซเชียลมีเดียอีก เป็นที่มาของคำสั่งย้ายข้ามกองบัญชาการในที่สุด.