ภายหลังมีการออก พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง พรรคการเมืองใหญ่ พาทีมงานออกมาเดินวัดพลังลงพื้นที่หาเสียงตามจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย ท่ามกลางการวางตัวหัวหน้าพรรค แต่ก็ยังไม่มีการประกาศรายชื่ออย่างชัดเจน หลายพรรคได้ชูตัวหัวหอกคนสำคัญ นำทีมเปิดหน้าเดินหาเสียง ทางทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ เปิดรายชื่อแคนดิเดตหัวหน้า 5 พรรคการเมืองสำคัญ ที่มีโอกาสคั่วเก้าอี้นายกรัฐมนตรี  ที่คาดว่าน่าจะถูกพรรคเสนอชื่อในบัญชีนายกฯ ในวันที่ 4 - 8 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ ภายหลัง กกต.มีการรับสมัครว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อย่างเป็นทางการ 

- พรรคพลังประชารัฐ -

- กลุ่มการเมืองที่ยื่นจดจองชื่อพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นลำดับที่ 3/2561 เมื่อวันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561 โดย นายชวน ชูจันทร์ ประธานประชาคมตลาดน้ำคลองลัดมะยม และ พันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล อดีต ส.ส. สงขลา พรรคความหวังใหม่ และอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เป็นผู้จดจองชื่อพรรค

พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคการเมืองที่มีแนวทางชัดเจนในการสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ภายหลังนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศมาตลอดหลังการรัฐประหารยึดอำนาจจากพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2557 และแน่นอนว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นหนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อเข้าเป็นหัวหน้าพรรค ในอนาคตอันใกล้นี้

...

ท่ามกลางความไม่แน่นอน ข่าวอีกกระแสก็ปล่อยออกมาว่า รองศาสตราจารย์ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ปัจจุบันเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ และยังเคยเป็น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหลายสมัย รวมไปถึงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติและอดีตสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 122/2557 อีกด้วย

มีตำแหน่งทางการเมืองการันตีขนาดนี้ จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะเป็นหนึ่งในรายชื่อที่อาจถูกเสนอให้เป็นหัวหน้าพรรค ตีคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ขณะเดียวกัน ยังมีรายชื่อของ  อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ถูกจับตามองว่า เป็นหนึ่งในผู้อาจจะถูกเสนอให้นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

- พรรคเพื่อไทย -

แน่นอนว่า ทั้งชื่อ ทั้งหน้า ลอยเด่นเป็นสง่าเห็นมาแต่ไกล คงหนีไม่พ้น "หญิงหน่อย" ดร.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรี เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญทั้งในรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร ประวัติโดยสังเขป คุณหญิงสุดารัตน์ เคยลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามของพรรคเพื่อไทย ได้เบอร์ 5 โดยคู่แข่งขันสำคัญ คือ นายสมัคร สุนทรเวช ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายสมัคร ชนะด้วยคะแนนที่ท่วมท้น

หลังจากนั้นในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี พ.ศ. 2544 คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ย้ายไปลงในระบบบัญชีรายชื่ออันดับต้นๆ ของพรรค รวมทั้งการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 ด้วย ในปี พ.ศ. 2548 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ทำให้สามารถใช้คำนำหน้านามว่า "คุณหญิง" โดยบทบาทในพรรคของคุณหญิงสุดารัตน์เป็นที่รับรู้กันว่า มีอิทธิพลสูง มีสมาชิกในสังกัดอยู่ในความดูแลหลายคน ซึ่งเป็น ส.ส. ในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งหมด โดยมีฉายาที่เรียกตามชื่อเล่นที่ชื่อ "หน่อย" ว่า "เจ๊หน่อย" ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 ฯลฯ 

"ก่อนจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2562 คุณหญิงหน่อย ได้เดินหน้าพบปะประชาชน เปิดตัวอย่างเป็นทางการ สื่อหลายแขนงจับจ้องกันว่าเธอนี่แหละหัวหอกสำคัญนำพรรคเพื่อไทยคว้าชัยชนะศึกเลือกตั้ง" แม้ล่าสุดกระแสของเพื่อไทย มันไม่น่าใช่เธอเสียแล้ว

อีกหนึ่งหนุ่มที่เพิ่งโผล่ขึ้นมาเป็นตัวชูโรง สำหรับ รองศาสตราจารย์ ดร. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตผู้ช่วยอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ เขามีสมญานามที่ประชาชนตั้งให้ว่า บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี

ภายหลังออกมามีบทบาท ลงสนามเปิดหน้าช่วยหาเสียงในนามพรรคเพื่อไทย จึงไม่แปลกที่ใครๆ จะเข้าใจได้ว่า เขาอาจจะเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่ถูกเสนอชื่อเข้าเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ต่างจาก "คุณหญิงหน่อย" ดร.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

อีกคนที่คาดว่า น่าจะถูกนำชื่อมาเป็นแคนดิเดตเพื่อไทยเป็นคนสุดท้าย คิดอะไรไม่ออกบอก พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยปัจจุบัน รายนี้เหมือนยาสามัญประจำบ้านของพรรคเพื่อไทย ยามยาก สามารถประสานงานกับคนในพรรคเพื่อไทยได้เกือบทุกสาย 

- พรรคประชาธิปัตย์ - 

คงไม่มีใครเปล่งรัศมี หรือมีความเหมาะสมได้เท่ากับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ดำรงตำแหน่งระหว่าง พ.ศ. 2551−2554 และยังเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน ยังไม่มีแนวโน้มว่าใครจะสามารถเข้ามาเสนอชื่อในการลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัติย์ ในอนาคตอันใกล้นี้

นายอภิสิทธิ์ เกิดที่ประเทศอังกฤษ เรียนจบวิทยาลัยอีตัน และสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร ใน พ.ศ. 2535 ขณะอายุได้ 27 ปี และได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังพรรคแพ้การเลือกตั้งเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 ต่อมา นายอภิสิทธิ์ ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ในวัย 44 ปี หลังศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นผลให้นายกรัฐมนตรีสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ้นจากตำแหน่ง เขาเป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในรอบกว่า 60 ปี

- พรรคชาติพัฒนา -
พรรคชาติพัฒนา หรือในชื่อเดิมว่า รวมชาติพัฒนา และ รวมใจไทยชาติพัฒนา และ ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เป็นพรรคการเมืองที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2550 โดยสมาชิกส่วนใหญ่เป็นสมาชิกจากพรรคการเมืองที่เคยมีอยู่แล้ว อาทิ กลุ่มของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นต้น จัดตั้งเป็นพรรคการเมืองโดยรวม กลุ่มรวมใจไทย เข้ากับ พรรคชาติพัฒนา 

พรรคชาติพัฒนา มีแคนดิเดตรายชื่อเข้าสมัครนั่งเก้าอี้พรรค เพียง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ นายทักษิณ ชินวัตร และอดีตรัฐมนตรีว่าการหลายกระทรวง ขอใช้สโลแกน "โน พรอบแบม" ของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี มาหาเสียง เป็นหนึ่งในแกนนำพรรครวมชาติพัฒนา (ปัจจุบันคือ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน) แต่ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไป 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เนื่องจากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

- พรรคไทยรักษาชาติ - 

เหมือนจะประกาศตัวอย่างเป็นทางการว่า พรรคนี้เน้นสนับสนุนคนรุ่นใหม่หัวใจประชาธิปไตย ชูนโยบาย "โลกก้าวไกล ไทยต้องก้าวทัน คิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง" ปัจจุบันเหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่า "ร้อยโท ปรีชาพล พงษ์พานิช" หรือ ป๋อม เป็นหัวหน้าพรรคนำทัพคนรุ่นใหม่อาสาแก้ไขพัฒนาประเทศชาติ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ และยังเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และอดีตประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม

ขณะเดียวกัน นักการเมืองรุ่นใหญ่ อย่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เขาได้รับการคัดเลือกจากนิตยสารเอเชียวีคให้เป็น 1 ใน 20 ผู้นำชาติเอเชียที่มีบทบาทโดดเด่นในศตวรรษที่ 20 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ กำลังลงพื้นที่ช่วย ส.ส.ในพรรค หาเสียงชูนโยบายเชิงรุก ดังนั้น นายจาตุรนต์ ฉายแสง จึงเป็นหนึ่งในผู้ที่อาจจะถูกเสนอชื่อให้เข้าเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ในเดือนหน้าก็เป็นได้

อย่างไรเสีย คนที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง หนีไม่พ้นบุคคลเหล่านี้เป็นแน่แท้ ทั้งหมด อยู่ที่พี่น้องประชาชนคนไทยจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกในวันที่ 24 มี.ค. นอกจาก ความรู้ ความสามารถ และมติของปวงชนชาวไทยทั่วทั้งแผ่นดินแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด"ใครหรือจะสู้พรหมลิขิต ที่ฟ้ากำหนดมา"....