ห่างหายจากหน้าจอทีวีไปนานพอสมควร สำหรับ ตลกชื่อดัง อย่าง เหลือเฟือ มกจ๊ก จนเกิดเสียงลือว่า เหลือเฟือ งานหด แถมยังป่วยเป็นโรคเอดส์ ล่าสุด เหลือเฟือ มาเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีหนิง ปณิตา และนุ้ย สุจิรา เป็นพิธีกร

ตอนนี้ไม่ได้เห็นพี่ในข่าวเลย พี่หายไปไหน?
"ไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในวงการบันเทิงนี่แหละ ยังเล่นละครอยู่ คือช่องมันจะเยอะคนไปดูช่องนู้น ช่องนี้ อาจจะไม่เห็นเรา มันเป็นช่วงชีวิตของใคร ของมัน ผมว่าคนก็ต้องเบื่อผมบ้างแหละ"

ก็ยังทำงานเหมือนเดิม รายได้ที่มีก็เหมือนเดิม?
"มันลดลงแน่นอนอยู่แล้ว มันไม่ใช่เฉพาะผม คนอื่นก็ลดเหมือนกัน แต่ว่าเราต้องอยู่ให้ได้"

หลายคนก็บอกว่าที่หายไป เพราะตกอับหรือเปล่า?
"คือผมไม่รู้ว่าคำว่าตกอับคืออะไร ผมก็อยู่แบบนี้ของผมอยู่แล้ว จะบอกว่าตกอับก็ได้ ผมไม่รู้ว่าคำว่าตกอับเป็นยังไง ถามว่าที่ผ่านมาลำบากไหม ก็ไม่นะ เพราะผมลำบากมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนเด็กๆ เราเคยลำบากที่สุดมาแล้ว"

...

ที่เชิญพี่เหลือเฟือมา อยากให้ชีวิตและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตพี่เป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายคน โดยเฉพาะเรื่อง ดูดบุหรี่ มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตพี่?
"ผมมีเรื่องข่าวเยอะเลย ข่าวมันจะวิ่งเข้ามาหาผมเอง จริงๆ ผมไม่อยากเป็นข่าวอะไร อย่างประเด็นบุหรี่ ผมดูดบุหรี่มาตั้งแต่ม.1-ม.2 สมัยก่อนถ้ามียาบ้าผมว่าผมติด เมื่อก่อนไม่มียาบ้า อย่างมากก็ดมกาวกัน"

แล้วพี่เริ่มสูบเพราะอะไร?
"เริ่มจากการคบรุ่นพี่ มันดูเท่ แล้วบ้านผมอยู่ในตลาด เวลาเจอคนเดินดูดบุหรี่เรามองว่าพอโตขึ้นต้องทำแบบนั้น"

ดูดหนักขนาดไหน?
"ก็เวลานอนพี่ไม่สูบ มันเป็นนิสัย มือมันพาไป อย่างสมมติไปเล่นตลกก่อนขึ้นเวทีก็ดูดๆ คือดูดต่อแม้กระทั่งของลูกน้องที่มันจะทิ้งผมก็เอามาดูดต่อ วันนึงผมนับอย่างต่ำต้องมี 2 ซอง"

เดือนนึงพี่หมดเงินกับบุหรี่ไปเท่าไร?
"เอางี้พี่เข้าร้านขายของอย่างต่ำต้องมี 500 บาท พี่ซื้อบุหรี่ 4-5 ซอง พี่ไม่เคยขอบุหรี่ใครดูด มีแต่คนอื่นมาขอ เพราะพี่มีติดตัวตลอด"

พี่มีปัญหากับลูกเมียเพราะเรื่องกลิ่นบุหรี่มั้ย?
"คือเขาไม่เคยพูดแต่เราสำนึกเอง คือผมดูดมาทั้งชีวิตแล้ว วันนึงผมคิดถึงลูกผม ครอบครัวผม ผมรู้สึกว่าผมเอาเปรียบเขา ผมก็เลยเลิก"

สุขภาพแย่ลงมั้ย ช่วงนั้นพี่ผอมมาก?
"ที่พี่ผอมเพราะพี่เลิกบุหรี่แบบไม่ถูกวิธี คือร่างกายผมไม่พร้อมที่จะหักดิบแล้วผมหักดิบเลิกบุหรี่พร้อมกับเลิกเหล้า"

พี่เหลือเป็นคนรักลูกมาก?
"รักมากคนข้างๆ เราก็มีพูดบ้าง แต่บางครั้งเราอาจไม่ได้ยินเท่าไร พี่คิดได้เองมากกว่า ก็เลยหักดิบเลย เลิกวันแรกก็เอาเว้ยได้วันนึงแล้ว พอวันที่ 2 เห็นคนดูดก็หันหน้าหนีไม่เอา คือมันอยากดูด จริงๆ อย่าคิดว่าร่างกายต้องมาอย่างเดียว ใจคุณต้องพร้อมด้วย พอผมเลิกได้แล้วมีคนถามผมเยอะมาก ผมก็บอกว่าถ้าคุณอยากเลิกเดี๋ยวมันก็เลิกได้เอง"

พอพี่หักดิบเลิกบุหรี่พี่ก็โดนครหาว่าเป็น HIV?
"พอพี่เลิกบุหรี่ร่างกายพี่ก็ผอมลง กินอะไรก็ไม่อร่อย ผอมขนาดนั่งพูดแบบนี้ไม่ได้เลย มันไอตลอด คนเลยเม้าท์พี่ แต่มันดีอย่างนึงคือเป็นการสแกนเพื่อนด้วย ตอนนั้นจากน้ำหนัก 55 เหลือ 41 กิโลฯ"

...

แล้วช่วงนั้นครอบครัวซัพพอร์ตยังไง?
"คือช่วงนั้นโชคดีละครหยุดถ่าย แล้วเราไม่รับงานอย่างอื่น เพราะเรารับสภาพตัวเองไม่ได้ แต่ผมบอกแม่ บอกลูกว่าไปงานต่างจังหวัด เพื่อไปหาลูกน้องเก่าที่ไม่ดูดบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ก็ขับรถไปทั่วประเทศให้มันเพลิน"

แล้วพี่ทำยังไงกับคนที่คิดว่าพี่เป็นเอดส์?
"เราก็สแกนมันออก พี่พิสูจน์ตัวเองด้วยการไปหาหมอ ถามว่าก่อนไปหาหมอคิดมั้ยว่าตัวเองจะเป็น ก็มีเพราะตอนหนุ่มๆ เราก็เป็นนักบู๊เหมือนกัน แต่เราก็บอกตัวเองว่าอย่าไปคิดมาก

ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ตอนนั้นก็ขับรถไปคนเดียวเลย หมอถามว่าเป็นอะไร ผมก็บอกว่ามาตรวจร่างกาย หมอก็ถามว่าตรวจ HIV มั้ย ผมบอกว่าตรวจ คือรอผลแบบลุ้นมาก คิดไปในทางลบหมดเลย แต่ผลก็ออกมาว่าไม่เป็น และหมอแนะนำว่าถ้าไม่พร้อมอย่าหักดิบ"

แล้วไปยังไง มายังไงทำไมลูกชายถึงโดนเบี้ยวค่าตัว?
"พี่เป็นคนรับงาน น้องมิ๊กซ์เป็นคนทำเพลงออกมา แล้วมีคนติดต่อมาว่าวันเด็กอยากได้น้องมิ๊กซ์ไปเล่นแล้วถ้าได้พี่เหลือด้วยก็ดีนะ ก็ไปด้วยกันพอถึงวันเล่น หกโมงกำลังจะออกจากบ้าน เขาก็บอกว่าขอจ่ายเงินให้พรุ่งนี้ได้มั้ย

...

เขาบอกต้องเก็บเงินจากโต๊ะจีนก่อน เราก็ไปเล่นเขาก็แฮปปี้ดี พอลงเวทีเขาก็บอกว่าพรุ่งนี้โอนให้ชัวร์ แต่พอเราทวงไปเขาก็เงียบ แต่เรารอบคอบ อัดคลิปทุกอย่างและไปแจ้งความเอาไว้แล้ว".

...