ผบ.ตร.ลงพื้นที่ชายแดนใต้ ติดตามคดีลอบยิง อส.4 ศพและบุกยิงโรงพักนาประดู่ ฆ่าตำรวจคาป้อมยาม ยันคดีคืบหน้าไปมาก เผยห้ามเหตุไม่ให้เกิดไม่ได้ แต่จะตามจับคนร้ายมาให้ได้

เวลา 16.00 น. วันที่ 16 ม.ค.62 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วยคณะนายตำรวจระดับสูงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 เดินทางมาที่ สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อตรวจเยี่ยมขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และตรวจสถานที่จุดเกิดเหตุหลังจากเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา คนร้าย 6 คนได้บุกเข้ามายิง ส.ต.อ.เฉลิมพล คมขำ เสียชีวิตขณะเข้าเวรยามอยู่ภายในป้อม ก่อนจะยิงใส่อาคารโรงพักแล้วชิงอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่หลบหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นถือว่าคนร้ายปฏิบัติการอุกอาจเป็นอย่างมาก โดย ผบ.ตร.ได้ลงจากรถเดินมาดูป้อมยามจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกคนร้ายบุกยิงเสียชีวิต

จากนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ร่วมประชุมกับหัวหน้าโรงพักทั้ง 15 แห่งใน 12 อำเภอเพื่อมอบนโยบายการปฏิบัติพร้อมรับฟังสรุปสถานการณ์ความคืบหน้าการคลี่คลายคดีและการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยมี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี กล่าวรายงานทั้งคดีลอบยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.ยะรัง เสียชีวิต 4 นายขณะดูแลความปลอดภัยภายในโรงเรียนบ้านบูโกะ อ.ยะรัง เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา การสอบสวนขยายผลผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว 2 ราย คดีลอบยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน และคดีบุกยิงตำรวจที่ สภ.นาประดู่

...

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยว่า คดีมีความคืบหน้ามาก และได้เร่งรัดให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว ส่วนในรายละเอียดไม่สามารถเป็นเผยได้ ซึ่งกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ

"ได้กำชับมาตลอดว่า ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองต้องเดินไปด้วยกันในเรื่องการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าไทยพุทธหรือมุสลิม ส่วนกับผู้ก่อการร้ายก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย ส่วนจะกำชับไม่ให้เกิดเหตุขึ้นกับโรงพักอีกนั้น หัวหน้าโรงพักใน 3 จังหวัด รู้สภาพปัญหาดีและสามารถปรับแผนได้ตลอดเวลา ถ้าจะกำชับไม่ให้เกิดเหตุนั้น ห้ามไม่ได้ ถ้าห้ามเกิดเหตุได้บ้านเมืองคงสงบสุขไปแล้ว ซึ่งจะห้ามในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ได้ แต่จะพยายามจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้ ส่วนคนร้ายที่ถูกควบคุมตัวนั้นได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ไม่บอกในรายละเอียด" ผบ.ตร. กล่าว

ขณะที่ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 ม.ค. พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ทพ.43 พ.ต.อ.เอกชัย วิเชียร ผกก.สส.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย สามารถจับกุมตัว นายอับดุลสตอปา สุหลง อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นแกนนำระดับปฏิบัติการกลุ่มก่อความไม่สงบและมีหมายจับคดีความมั่นคง 6 หมาย พร้อมยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก 

โดยการจับกุมได้ครั้งนี้ผู้ต้องหาได้ลอบเข้ามาหลบซ่อนตัวที่บ้านของพี่ชายในพื้นที่ ม.6 ต.ปะกาลือสง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ที่ก่อเหตุคดีลอบวางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2558 โดยทำหน้าที่ขนย้ายระเบิดนำไปก่อเหตุ จำนวนกว่า 40 ลูก ขณะนี้ได้นำตัวไปควบคุมเพื่อสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ซักถามภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี.