"สุเทพ" เดินคารวะประชาชนที่โคราช ชาวบ้านโผกอด ขอเซลฟี่แน่น ขณะที่พ่อค้าขายมะนาว ตลาดประปา ไม่รับไหว้ จี้ให้หยุด เพราะทำให้ประเทศชาติพังมามากแล้ว ด้าน “สุเทพ” ไม่ฟันธงหนุน "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯ แต่พร้อมสนับสนุน หากมาถูกต้องตามกฎหมาย...
วันที่ 16 ธันวาคม ที่ตลาดประปา และตลาดหัวรถไฟ และตลาดแม่กิมเฮง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมด้วยนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตร และทันตแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี แกนนำ กปปส. จ.นครราชสีมา และคณะ ได้เดินคารวะแผ่นดินเพื่อหาเสียงกับพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่พรรคพลังประชาชาติไทย และการสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทหารจากกองทัพภาคที่ 2
โดยบรรยากาศที่ตลาดประปา มีพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนมาขอถ่ายภาพและถ่ายเซลฟี่คู่กับ นายสุเทพ เป็นที่ระลึกอย่างคึกคัก และในโอกาสนี้นายสุเทพได้แนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 1 คือนายสมชาย พงษ์พินิจกุล นักธุรกิจ เจ้าของ บจก.โคราช ฟูดส์ โปรดักศ์ ให้กับประชาชนได้รับทราบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสุเทพเดินคารวะประชาชนในตลาดประปา เมื่อเดินมาถึงแผงขายผัก มะนาว มะเขือ ของนายคณิศ จริยะประพร อายุ 63 ปี นายสุเทพได้ยกมือไหว้ทักทาย แต่นายคณิศได้โบกมือ ไม่รับไหว้ และกล่าวสวนออกไปว่า ประเทศชาติยังพังไม่พออีกเหรอ ที่ผ่านมาพวกคุณบอกว่าทำเพื่อประชาชนและประเทศชาตินั้นไม่จริง มีแต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น หยุดได้แล้ว ในขณะที่นายสุเทพไม่ได้ตอบโต้อะไร พูดแต่เพียง ครับ ครับ แล้วก็เดินต่อไป
จากนั้น นายสุเทพ และคณะได้เดินทางไปที่ตลาดหัวรถไฟ ถนนมุขมนตรี เขตเทศบาลนครราชสีมา เพื่อเดินคารวะพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนภายในตลาด ซึ่งมีประชาชนมาขอถ่ายรูปด้วยจำนวนมาก บางคนก็วิ่งเข้ามากอด หอมแก้มอย่างชื่นมื่น
...
ในจำนวนนี้มีนางอรุณรัตน์ กุยกระโทก หมอเพลงโคราชหลานสาวของ "กำปั่น บ้านแท่น" ศิลปินเพลงโคราชชื่อดัง ได้เข้ามาร้องเพลงโคราช อวยพรให้กับนายสุเทพ โชคดี มีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุข ทำเอานายสุเทพยิ้มจนแก้มปริ
ก่อนจะเดินออกมาคารวะผู้ประกอบการร้านค้า ร้านทอง แผงลอยฟุตปาทในตัวเมือง ผ่านอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ยกมือไหว้องค์ท้าวสุรนารี ขออนุญาตมาคารวะพี่น้องชาวโคราช
อย่างไรก็ตาม ระหว่างเดินตลาด มีแม่ค้าชาวโคราชยืนถามว่า บ้านเมืองเสียหายแค่นี้ยังไม่พออีกหรือ ก่อนที่นายสุเทพจะมีการชี้แจงสาเหตุให้ฟังจนเป็นที่พอใจ
นายสุเทพ กล่าวว่า จากการเดินคารวะพี่น้องชาวโคราชในวันนี้ ประชาชนได้ให้การต้อนรับพวกเรา คึกคัก มีชีวิตชีวาดีเข้ามาจับไม้จับมือ เข้ามากอดมาถ่ายรูป บางคนก็มาเลี้ยงขนมก็มีน้ำใจ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขายทั้งหลาย ต้องกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนขาวโคราช เท่าที่สังเกตดูตลาดที่โคราชดีกว่าตลาดภาคใต้ ภาคตะวันออก ที่เคยไปเดินมา ไม่ถึงขนาดซบเซา แต่ก็มีแม่ค้าบ่นบ้าง เพราะขายของได้น้อยลง แต่ไม่เท่ากับที่ภาคใต้ ภาคกลางตอนล่าง หรือภาคตะวันออก
ตอนนี้ก็ได้เตรียมว่าที่ผู้สมัครในโคราชไว้ทั้ง 14 เขตแล้ว เหลือเพียงการทำไพรมารีโหวต (primary vote) ซึ่งเป็นหลักของพรรครวมพลังประชาชาติไทย คือผู้ที่จะลงสมัครในนามของพรรค จะต้องผ่านความเห็นชอบของประชาชนในแต่ละพื้นที่ก่อน ส่วนผู้ที่สนใจลงสมัครก็ได้มีการเสนอตัวกันมาแล้ว นโยบายของทางพรรคจะเน้นที่เศรษฐกิจของชาวบ้าน เชื่อมั่นว่าถ้าประชาชนแต่ละครอบครัวมีฐานะทางเศรษฐกิจดี เศรษฐกิจข้างล่างดี คนมีรายได้ คนมีงานทำ การค้าขายระดับล่างก็จะดี ตลาดระดับล่างก็จะดี เพราะตอนนี้ตลาดระดับล่างยังมีปัญหา ปล่อยไว้ก็จะทบกันมาเรื่อยๆ
ส่วนเป้าหมายจำนวน ส.ส.ที่โคราช ว่าจะได้กี่ที่นั่ง ก็ขึ้นอยู่ที่พี่น้องประชาชน ไม่มีใครตอบได้ วันนี้พี่น้องประชาชนมีความตื่นตัว ตื่นรู้ทางการเมืองมากขึ้น ผมเชื่อว่าการเลือกตั้งคราวนี้จะเห็นปรากฏการณ์แสดงชัดเจนว่า ประชาชนคิดกันอย่างไรเรื่องบ้านเมือง ผมก็เดินมาครึ่งประเทศแล้ว ก็เห็นพี่น้องประชาชนเอาจริงเอาจังคาดหวังกับการเลือกตั้งมาก หวังไว้สูงว่าเลือกตั้งแล้วประเทศต้องดีขึ้น ชีวิตประชาชนจะดีขึ้น ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนจะสร้างปรากฏการณ์ทางการเมืองที่พิเศษกว่าครั้งก่อนๆ
ต่อข้อถามพรรครวมพลังประชาชาติไทย จะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้ยึดที่ตัวบุคคล ยึดหลักการมากกว่าว่า ประการที่ 1.คนที่จะให้สนับสนุนในการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องเอาจริงเอาจังในเรื่องของการปฏิรูป เปลี่ยนแปลงประเทศ ตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน
ประการที่ 2.ต้องเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาวบ้าน และที่สำคัญจะต้องเข้ากันได้กับอุดมการณ์ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยคือ จงรักภักดีเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ยึดธรรมะ ยึดความถูกต้องเป็นหลักในการทำงานบ้านเมือง เคารพประชาชน ฟังเสียงประชาชนและก็เดินหน้าปฏิรูปประเทศ
ต่อข้อถามบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องลงสมัคร ส.ส.ใช่หรือไม่ นายสุเทพ ตอบว่า เรื่องนี้ต้องว่าไปตามกฎหมาย กฎหมายให้ทำอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้น ใครอยากเสนอตัวเป็นนายกฯ ก็ให้พรรคการเมืองเสนอเข้ามาหรือถ้าไม่อยากจะเสนอตัวก็ต้องรอรอบสอง รอบสาม ซึ่งถ้าปฏิบัติตามกฎหมายพรรค เราก็ไม่ขัดข้อง ขึ้นอยู่ที่ว่าความยาก ความง่าย จะเป็นอย่างไรเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้ง พรรคที่ได้เสียง ส.ส.เป็นอันดับหนึ่งต้องเป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น ต้องดูตามหลักเกณฑ์ในรัฐธรรมนูญ ใครรวบรวมเสียงมากของรัฐสภาได้ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยเราเป็นพรรคของประชาชนจะอยู่ตรงไหนก็ต้องทำงานให้ประชาชน จะเอาความทุกข์ยากของประชาชนมาเป็นภาระ เป็นหน้าที่ของพรรคที่จะต้องแก้ไข จะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล พรรคเราจะทำงานเพื่อประชาชนต่อ ถึงไม่ได้เป็นอะไรเลยก็จะทำต่อ เพราะเราคือพรรคการเมืองของประชาชน ต้องทำตัวเป็นเครื่องมือที่ดีในทางการเมืองให้กับประชาชน เพื่อสร้างการเมืองที่ดีสำหรับประเทศและประชาชน.