“ทนายนิด้า” เปิดเผย คนไข้สาวร้องขอความช่วยเหลือ ซ้ำขอหมอสูติฯว่าอย่าทำ ยันเรื่องเงิน 3 แสน ไม่มีลับลมคมใน เร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด มั่นใจสู้คดีได้แน่นอน ปูดมีเหยื่อโผล่แฉอีก
วันที่ 16 พ.ย. 61 ทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ เปิดเผยในรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ หลาวเพ็ชร ซึ่งวันนี้ดำเนินรายการโดย ภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีหญิงสาวอายุ 29 ปี ร้องทุกข์ว่า ถูกสูตินรีแพทย์อายุ 52 ปี ข่มขืนขณะเข้าใช้บริการที่คลินิกใน จ.นครสวรรค์ ว่า ตอนนี้กำลังให้ทีมทนายความร่างฟ้องคดี เพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลเอง
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้เข้าใช้บริการที่คลินิกดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 61 จึงโดนข่มขืน ตอนแรกยังไม่ประสงค์ดำเนินคดี กระทั่ง 6 ต.ค. ไปแจ้งความ แต่หลังจากนั้นยังไม่มีความคืบหน้า จึงติดต่อไปทาง บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ช่วงกลางค่อนปลาย ต.ค. ว่าให้ช่วยเหลือเพราะถูกข่มขืน กระทั่งติดต่อมายัง ทนายนิด้า ซึ่งทุกอย่างเป็นพยานแวดล้อมหมด ส่วนที่ตัดสินใจแจ้งความภายหลังเพราะรู้สึกเป็นทุกข์ตั้งแต่วันโดนกระทำจนต้องไปพบจิตแพทย์
...
สำหรับเตียงในคลินิกเป็นลักษณะนอนราบยกขาขึ้นที่หยั่ง ทำให้ไม่เห็นด้านล่าง อีกทั้งมีการปิดไฟในห้องตรวจ ผู้เสียหายรู้สึกได้ว่าไม่ใช่เครื่องมือแพทย์ คงแน่ใจตั้งแต่ออกจากห้องแต่ลังเลในลักษณะที่ว่าควรจะดำเนินคดีหรือไม่ และตอนนั้นมีการต่อสู้ดิ้นรัดขัดขืนตามสมควร ร้องขอความช่วยเหลือ ขอว่าอย่าทำหนูเลย
ต่อคำถามที่ว่าเรื่องเงิน 3 แสนบาท มีลับลมคมในหรือไม่ ทนายนิด้า ตอบทิ้งท้ายว่าไม่มีแน่นนอน 100% ยืนยัน สู้ได้แน่ และจะรวบรวมให้มากและดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายชาวปทุมธานี เคยไปที่คลินิกนี้ที่ จ.นครสวรรค์ ติดต่อมาว่าเคยโดนในลักษณะนี้เช่นกันด้วย
ทางด้าน ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินรีแพทย์ชื่อดัง เปิดเผยเรื่องขั้นตอนการตรวจภายในว่า โดยปกติก่อนตรวจแพทย์ต้องอธิบายให้ทราบว่าจะตรวจอะไรบ้าง แล้วให้คนไข้ตัดสินใจว่าจะตรวจทุกอย่างหรือไม่ ส่วนการหรี่ไฟในห้องตรวจเป็นขั้นตอนของการตรวจแบบเครื่องอัลตราซาวนด์ แต่ก็ไม่ใช่ปิดไฟจนมืด เพราะจะหยิบเครื่องมือไม่ได้ และที่สำคัญต้องมีผู้ช่วยผู้หญิงเท่านั้นอย่างน้อย 1 คนอยู่ด้วย สำหรับเครื่องมือที่ต้องสวมถุงยางอนามัยมีเพียงเครื่องอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอด.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่นี่
(ขอบคุณภาพส่วนหนึ่งจากเฟซบุ๊ก ทนายนิด้า)