ปัดรับรักษาคนป่วยมีโทษทั้งจำทั้งปรับ จ่อสอบ ‘มาตรฐาน’
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) แย้มกรณีญาติสาวถูกสาดน้ำกรดร้อง รพ.พระราม 2 ไม่รับรักษาจนทำให้เสียชีวิต พบการกระทำผิดบางเรื่องมีอัตราโทษค่อนข้างสูง ทั้งจำและปรับกับผู้ประกอบการ ด้านตำรวจ สน.ท่าข้าม ระบุอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ประมวลเรื่องส่งให้แพทยสภาพิจารณาต่อ ด้านสามีโหดมือสาดน้ำกรดสุดเครียด ถูกฝากขังส่งเข้าเรือนจำ พิเศษธนบุรี ส่วนศพสาวเหยื่อผัวโหดถึง จ.ขอนแก่น บ้านเกิด หน่วยงานภาครัฐรีบระดมความช่วยเหลือลูกสาวคนตายให้ได้กลับมาเรียนอยู่กับญาติฝ่ายแม่
ยังเป็นที่จับตาของสังคม ในประเด็นการได้รับสิทธิเข้ารับรักษาตัวจากเหตุฉุกเฉินของโรงพยาบาลต่างๆ หลังเกิดเหตุสะเทือนใจนางช่อลัดดา ทาระวัน พนักงานขายของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางแค ถูกนายคำตัน สิงหนาท โชเฟอร์แท็กซี่ ผู้เป็นสามี ใช้น้ำกรดสาดเข้าที่ใบหน้าขณะนอนหลับอยู่ในบ้านพัก จนบาดเจ็บ สาเหตุจากความหึงหวงระแวงภรรยาจะปันใจให้ชายอื่น ทำให้บุตรสาววัย 12 ปี ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อรักษาอาการเบื้องต้นที่ รพ.พระราม 2 ก่อนเจ้าตัวจะขึ้นรถแท็กซี่ไปรักษาตัวต่อที่ รพ.บางมด ตามสิทธิประกันสังคม กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา ท่ามกลางความกังขาของญาติผู้ตายว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของ รพ.พระราม 2 ปฏิบัติหน้าที่ให้การรักษาตามที่ควรจะเป็นหรือไม่ มีหน่วยงานที่รับผิดชอบในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมตรวจสอบ พร้อมๆกับที่ญาติผู้ตายแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องที่ สน.ท่าข้าม ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.ท่าข้ามพื้นที่เกิดเหตุ สามารถติดตามจับกุมนายคำตัน สามีโหดมือสาดน้ำกรดรายนี้ได้ที่ จ.นครสวรรค์
...
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 พ.ย. นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีโรงพยาบาลเอกชนไม่รับรักษาผู้ป่วยถูกสาดน้ำกรดจนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมาว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ลงไปสอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ได้ข้อสรุป พบการกระทำผิดบางเรื่องที่มีอัตราโทษค่อนข้างสูง ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นเรื่องอะไร เพราะต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง คาดจะทราบผลภายในสัปดาห์นี้ ก่อนส่งข้อมูลให้พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินการต่อ
“กรณีนี้มีโทษทั้งจำและปรับ ส่วนใหญ่เป็นการลงโทษผู้ประกอบการฐานไม่กำกับดูแลให้เป็นไปตามที่กำหนด ส่วนเรื่องของมาตรฐานของสถานพยาบาลนั้นเป็นอีกเรื่อง ขณะนี้ส่งให้เจ้าหน้าที่อีก 1 ชุดลงไปสอบสวนอยู่ว่าสถานพยาบาลดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ต้องพิจารณาทั้งเครื่องมือ ขั้นตอนการส่งต่อผู้ป่วย ปฏิบัติตามมาตรฐานหรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ทาง สบส. ต้องสั่งให้โรงพยาบาลแห่งนั้น ปรับปรุงแก้ไขภายในเวลาที่กำหนดและถ้าไม่แก้ไขตามเวลาที่กำหนด จะถูกลงโทษตั้งแต่พักใบอนุญาต ไปจนถึงเพิกถอนใบอนุญาตเปิดสถานพยาบาล จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงประเด็นนี้ขึ้นมาแต่อย่างใด” นพ.ณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการเยียวยาความเสียหายแก่ญาติผู้ตาย นพ.ณัฐวุฒิกล่าวว่า เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเอกชน ดังนั้น จึงไม่เข้าข่ายได้รับการชดเชยความเสียหายตาม ม.41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แต่ทราบว่ากรณีญาติผู้ป่วยและโรงพยาบาลน่าจะสามารถพูดคุยกันได้
ขณะที่การดำเนินการกับสามีโหดมือสาดน้ำกรดรายนี้หลังจากติดตามจับกุมได้ที่ จ.นครสวรรค์ และพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วนั้น ที่ สน.ท่าข้าม เวลา 09.30 น. ร.ต.อ.บีดัน สาริปา รอง สว. (สอบสวน) สน.ท่าข้าม คุมตัวนายคำตัน สีหนาท อายุ 50 ปี ผู้ต้องหารายนี้ ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี โดยคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เป็นที่สนใจของประชาชนและเกรงว่าจะหลบหนี เจ้าตัวมีท่าทางอิดโรย เงียบขรึม ภายหลังศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง ออกหมายขังไปยังเรือนจำพิเศษธนบุรี โดยไม่มีญาติมายื่นประกันตัว ด้าน พ.ต.ท.สกนธ์ ศรีวัฒกพงษ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม กล่าวว่า กรณีที่ทางญาติผู้เสียชีวิตมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ รพ.พระราม 2 นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์และรวบรวมหลักฐานต่างๆ อาทิ กล้องวงจรปิดของ รพ.พระราม 2 และ รพ.บางมด เพื่อประมวลเรื่องทั้งหมดส่งไปให้แพทยสภาพิจารณาต่อ
ที่ จ.ขอนแก่น มีพิธีบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.ช่อลัดดา ทาระวัน ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 9 บ้านแสงอรุณ ต.โนนทอง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้ตาย บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาตินำศพตั้งไว้ที่บริเวณชั้น 1 ของบ้าน เพื่อให้คนในครอบครัวได้ร่วมไว้อาลัย พร้อมนิมนต์พระสวดอภิธรรมศพ 1 คืน กำหนดฌาปนกิจศพในวันที่ 14 พ.ย. ส่วนบุตรสาววัย 12 ปีของผู้ตาย ญาติตกลงจะให้ย้ายภูมิลำเนากลับมาเรียนที่ จ.ขอนแก่น
นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น ที่เดินทางมาร่วมงาน เปิดเผยว่า เดินทางไปดูแลครอบครัวของ น.ส.ช่อลัดลา เบื้องต้นอนุมัติการให้ความช่วยเหลือแยกเป็นเงินช่วยเหลือจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น 10,000 บาท เงินช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม 110,000 บาท นอกจากนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะทำเรื่องการศึกษาของบุตรสาวผู้ตาย ให้โอนย้ายมาศึกษาที่ จ.ขอนแก่น เพื่อจะได้รับสิทธิ์ตามระเบียบของทางราชการ เรียนฟรีจนจบชั้น ม.ปลาย ขณะเดียวกันสั่งการให้สำนักงานพัฒนาสังคมฯทำเรื่องครอบครัวอุปถัมภ์เพื่อให้บุตรสาวผู้ตายได้รับการช่วยเหลือแบบรายเดือนตามระเบียบกำหนดไว้