ศาลสั่งจำคุก 3 ปี พุทธะอิสระ ยำ 2 ตร.สันติบาล รับผิดลดกึ่งหนึ่ง เหลือ 1 ปีครึ่ง โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี ญาติธรรม กล่าวสาธุๆๆ ลั่น เตรียมบวชใหม่ 1 ธ.ค. แต่ยังไม่ระบุวัด ส่วนการเมืองปล่อยตามเกม

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่ห้องพิจารณา 814 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.2499/61 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 59 ปี หรืออดีตพระพุทธะอิสระ อดีตพระวัดอ้อน้อย อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ

กรณีเมื่อระหว่าง 23 พ.ย.56 - 1 พ.ค. 57 ต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มีพฤติการณ์เป็นอั้งยี่ซ่องโจร เป็นหัวหน้า ผู้สั่งการกลุ่ม กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ หน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยปลุกระดม ยุยง ชักชวนประชาชน และแนวร่วมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส. เข้ายึดหน่วยงานและสถานที่ราชการหลายแห่งโดยร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ใช้กำลังประทุษร้าย ร.ต.ต.สมคิด เชยกมล, ด.ต.วชิรพงศ์ อุ่นนวลบูรพงศ์ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินรวม 8 รายการ มูลค่า 60,900 บาท สูญหาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309, 310 เหตุเกิดแขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จำเลยรับสารภาพ และศาลได้มีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะ และพินิจประวัติของจำเลย แล้วส่งให้ศาลเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาพิพากษา

โดยวันนี้ อดีตพระพุทธะอิสระ ซึ่งได้รับการประกันตัวจากศาลราคาประกัน 2 แสนบาท และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เดินทางมาถึงศาลตั้งแต่ช่วงเช้า โดยต้องนั่งรถวีลแชร์ และมีลูกศิษย์ที่ยังศรัทธา ประมาณ 50 คนเดินทางมาให้กำลังใจ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิด ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น อันเป็นบทหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310 พิพากษาจำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 6 เดือน

...

พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะฯ แล้วเห็นว่า จำเลยไม่เคยกระทำผิดมาก่อน ประกอบกับจำเลยได้บรรเทาผลร้ายในคดี จนผู้เสียหายพอใจ และไม่ติดใจเอาความ จึงให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ มีกำหนด 1 ปี ส่วนที่อัยการโจทก์ ขอให้ศาลนับโทษต่อคดีร่วมกันก่อการกบฏนั้น เนื่องจากคดีดังกล่าวยังไม่มีคำพิพากษา จึงให้ยกคำขอ

ภายหลังฟังคำพิพากษา ผู้ที่ยังศรัทธาพระพุทธะอิสระ ซึ่งเข้าร่วมฟังคำพิพากษาในห้องพิจารณา มีอาการดีใจ และกล่าวคำว่า สาธุๆๆ

ทั้งนี้ อดีตพระพุทธะอิสระ กล่าวภายหลังถึงผลคำพิพากษาของศาล ว่า เป็นความเมตตาของศาล ก็ยังมีอาการป่วยอยู่ ส่วนที่จะกลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ก็เป็นความจริง ตนเตรียมจะบวชในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ แต่จะเป็นวัดอ้อน้อย หรือวัดใดนั้น ยังปฏิเสธที่จะตอบ ส่วนเรื่องการเมืองให้ฝ่ายการเมืองดูแลจัดการไป และปฏิเสธตอบเรื่องการออกมาเคลื่อนไหวการเมือง