แร็ป ‘ประเทศกูมี’ ทะลุ 5 ล้านวิวแล้ว หลัง ‘ศรีวราห์’ ระบุจะให้ปอท.เชิญมาสอบปากคำ ‘พุทธิพงษ์’ ชี้ทำประเทศเสียหาย แนวร่วมโผล่เพียบ กลุ่มพั้งก์ต้านเผด็จการนัดรวมตัว มธ.

จากหลัก 1 ล้านเพิ่มเป็นกว่า 5 ล้านวิว ในเวลาอันรวดเร็ว แร็ป ‘ประเทศกูมี’ ทั้งนี้ ภายหลัง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ออกมาระบุว่า ต้องให้ตำรวจ บก.ปอท.ตรวจสอบว่า เนื้อหาเข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช. หรือไม่ ส่วนผู้ที่อยู่ในคลิปจะต้องเชิญตัวมาให้ปากคำ มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย หรือขัดคำสั่ง คสช. ด้วยหรือไม่ และเตือนว่า อย่าทำอะไรที่มันสุ่มเสี่ยงต่อกฎหมายบ้านเมือง เพราะไม่เป็นผลดีกับตัวเองและครอบครัว หากผิดกฎหมาย

จากนั้น นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลรู้สึกเสียใจในเรื่องนี้ คิดว่าเยาวชนน่าจะใช้ความสามารถด้านดนตรีในทางที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ไม่อยากให้คิดว่าทำแบบนี้แล้วเท่ ไม่แน่ใจว่าผู้ทำเพราะความตั้งใจของตัวเอง หรือมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ฝากเตือนแม้เนื้อหาส่อไปในทางต่อว่ารัฐบาล แต่สุดท้ายที่เสียหายมากสุดคือประเทศชาติ เพราะมีการเผยแพร่ไปทั่วโลก คนทำอาจสนุกสนานใช้ข้อมูลตอบโต้หรือว่า กล่าวรัฐบาล แต่สุดท้ายคนที่เสียหายมากที่สุดคือประเทศไทย ขณะนี้มีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ติดตามเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่รัฐบาลรู้สึกเสียใจ ไม่อยากให้เยาวชนทำร้ายประเทศไทยอีกแล้ว ทั้งนี้ การเผยแพร่คลิปต่างๆ สามารถไปได้หลายทาง แม้จะปิดต้นตอก็ยังสามารถแชร์ต่อได้ การควบคุมจึงไม่ใช่เรื่องง่าย จากการตรวจสอบเชิงเทคนิค ทำให้รู้ได้ว่าคลิปมีที่มาจากแหล่งใด

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กก.3 บก.ปอท. ในฐานะรองโฆษก บก.ปอท. ได้กล่าวถึงกรณีมีการแพร่คลิปเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” ที่มีเนื้อหาเสียดสีทางการเมืองอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน รวมทั้งความเหลื่อมล้ำของกฎหมาย กำลังแพร่หลายอยู่ในโลกโซเชียล ว่า พ.ต.อ.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รรท.ผบก.ปอท. สั่งการให้ฝ่ายสอบสวนประชุมพิจารณาว่าเข้าข่ายข้อกฎหมายใดและให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบว่าผู้ปรากฏในคลิปเป็นใคร เพราะว่าเนื้อหาค่อนข้างให้ร้ายประเทศไทย ทำให้เสียหายอยู่หลายเรื่อง เบื้องต้นจากการตรวจสอบน่าจะเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 (2) ที่ระบุว่า ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

...

“ส่วนที่กลุ่มศิลปินหรือผู้เกี่ยวข้องชี้แจงว่าเนื้อหาของเพลงเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้พาดพิงถึงบุคคลใด ถือเป็นสิทธิที่จะโต้แย้งได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงต้องรวบรวมพยานหลักฐานว่าผิดหรือไม่ต่อไป หากพิจารณาแล้วเข้าข่ายความผิดและมีบุคคลที่ได้รับความเสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ จะต้องเชิญกลุ่ม ศิลปินที่อยู่ในคลิปเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณา ส่วนกรอบระยะเวลาดำเนินการเรื่องนี้จะต้องดำเนินการอย่างเร็วที่สุด เพราะความหมายในเนื้อเพลงอาจกระทบกระเทือนกับเศรษฐกิจ อาจทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ยังเปิดเผยอีกว่า ภาพที่ปรากฏในมิวสิกวิดีโอบางส่วนคล้ายกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในอดีต มีการจำลองหุ่นแขวนอยู่บนต้นไม้และมีกลุ่มคนคอยเชียร์ให้คนในคลิปนำเก้าอี้ฟาดหุ่น อาจเข้าข่ายเรื่องการก่อความรุนแรงหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ แต่จากภาพรวม อาจเข้าข่ายความผิดใน พ.ร.บ.คอมฯ ส่วนกรณีผู้ที่แชร์ส่งต่ออาจเข้าข่ายความผิดตาม ม. 14 (5) มีโทษอัตราเดียวกันกับผู้โพสต์ คือจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

ขณะที่นายธีระวัฒน์ รุจินธรรม ผู้กำกับชื่อดัง ทำหน้าที่กำกับภาพในคลิปวิดีโอเพลง “ประเทศกูมี” เผยว่า เหตุที่ใช้เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 มาเป็นฉาก เพราะแสดงถึงความเป็นจริงของประเทศที่มีบทเรียนอย่างยาวนาน แต่กลับไม่มีใครคิดถอดบทเรียน ประกอบเพลงนี้มีเนื้อหาทางการเมืองค่อนข้างแรงจึงเหมาะสมกัน ทั้งหมดเป็นความร่วมมือของเพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิง หากตำรวจจะเชิญตัวผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหมดมาตรวจสอบนั้นก็ยินดี เพราะไม่มีสิทธิปฏิเสธอยู่แล้ว ส่วนประเด็นที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจมีบุคคลอยู่เบื้องหลังนั้น ยืนยันไม่มีแน่นอน ทั้งหมดร่วมกันทำโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งใจสะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบอบเผด็จการออกมาเป็นบทเพลงแร็ปเท่านั้น

สำหรับมิวสิกวิดีโอเพลงดังกล่าวเผยแพร่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ต.ค. พบมียอดผู้เข้าชมหรือยอดวิวรวมกว่า 1 ล้านครั้ง โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นมีผู้ใช้ที่ใช้ชื่อว่า “พรรคอนาคตใหม่” เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “ขอคารวะในจิตวิญญาณนักสู้...”

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงาน มีผู้เข้าชมเพลงนี้ในยูทูบแล้วกว่า 5.2 ล้านครั้ง ขณะเดียวัน หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาเพลงแร็ป ของกลุ่ม Rap Against Dictator-ship ได้มีกลุ่มนักดนตรีแนวพั้งก์ เสียดสีการเมือง ที่รวมตัวกัน 6 วง ตั้งเพจเฟซบุ๊กชื่อ “จะ 4 ปีแล้วนะไอ้...” ออกแถลงการณ์ระบุก่อนหน้านี้ทางกลุ่มเคยเปิดคอนเสิร์ตมา 2 ครั้ง แต่ถูกตำรวจจับไปทำประวัติทั้งวง พร้อมระงับการจัดคอนเสิร์ต ต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างไม่ใช่ความผิดของใคร ผู้ร้ายตัวจริงคือระบบเฮงซวยที่ปล่อยให้เผด็จการยึดอำนาจมาถึง 4 ปี ขอให้สหายทุกท่านเตรียมตัวให้พร้อม เราจะทำให้ประเทศนี้รู้ว่า ดนตรีพั้งก์ก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองได้ มาแสดงพลัง 3 พ.ย.นี้ ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ทางด้านครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) นำโดยนายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ “การคุกคามสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของพลเมือง กรณีกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship” ใจความสรุปว่า ตามที่มีข่าว พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. จะเรียกกลุ่มศิลปินแร็ปเข้าพบพนักงานสอบสวนบก.ปอท. เพื่อตรวจสอบว่าเพลงดังกล่าวเนื้อหาเข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช.หรือไม่ และมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ รวมถึงการห้ามแชร์คลิปเพลงดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการไม่ยอมรับในหลักการสิทธิและเสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นของประชาชน ที่ได้รับการคุ้มครองตาม รธน. ปี 60 ทั้งนี้ คนส.เห็นว่าการสื่อสารของศิลปินกลุ่มนี้เป็นการใช้ศิลปะกระตุ้นความรู้สึกนึกคิด ตามหน้าที่ของศิลปินในอารยประเทศ ประเด็นที่หยิบยกขึ้นล้วนเป็นประเด็นที่สังคมติดตามให้ความสนใจ คนส. ขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ และเจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้องยุติการข่มขู่ คุกคาม หรือพยายามเรียกตัวกลุ่มศิลปินเข้าให้ปากคำ ตลอดจนการคุกคามในรูปแบบอื่นๆ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะบทบัญญัติใน รธน.ปี 60 ที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพการแสดงความเห็น ทั้งนี้ คนส.จะร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ปกป้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของศิลปินกลุ่มนี้ ทั้งในแง่ของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและการเคลื่อนไหวอย่างถึงที่สุด

...