วัดโพธาราม สุพรรณบุรี แจง ไม่ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ส่วนวิหารทอง ก่อนหน้าชำรุดทรุดโทรม คณะผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันบูรณะถวาย หวังเป็นวิหารทองหลังแรกคู่กับเมืองอู่ทอง
จากกรณีชาวโซเชียลและกลุ่มสถาปนิก รวมถึงคนรักโบราณสถาน มีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์ถึง การบูรณะโบสถ์วัดโพธาราม จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ถือเป็นโบราณสถาน ด้วยการนำสีทองไปทา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมศิลปากร ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย และมีการทามาแล้วถึง 2 ปีนั้น (อ่านข่าวก่อนหน้า ผ่านไป 2 ปีแล้ว! ชาวเน็ตจี้ กรมศิลป์ ตื่นตรวจสอบคนทาสีทองทับโบราณสถาน)
ล่าสุด แฟนเพจเฟซบุ๊ก วัดโพธาราม มีการโพสต์ชี้แจงเรื่องวิหารทอง ว่า ทางวัดได้รับแจ้งจากคณะผู้มีจิตศรัทธา กลุ่มคนร่วมทาง พร้อมกับคณะผู้มีจิตศรัทธาขอทำการบูรณะถวายเป็นพุทธบูชาในพระพุทธศาสนา จุดประสงค์ของการทาสีทองทั้งหลัง ทางกลุ่มผู้บูรณะได้คิดว่าอยากจะให้เป็นวิหารทองคำที่สวยสดงดงาม คู่เมืองโบราณอู่ทอง ให้เป็นเอกลักษณ์ของอำเภออู่ทอง
ทางวัดก็คิดว่าเดิมเป็นอุโบสถหลังเก่าของวัดโพธารามที่ใช้งานมาถึงปี พ.ศ.2510 และเมื่อมีการสร้างอุโบสถหลังใหม่เสร็จในปี พ.ศ.2510 ก็ได้มีพิธีสวดถอนอุโบสถหลังเก่า ใช้อุโบสถหลังใหม่ ต่อมาก็เป็นที่พักอาศัย ของพระภิกษุสงฆ์ สามเณร จนช่วง พ.ศ.2540 วิหารชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก ทางวัดเลยงดการใช้งานวิหารและปล่อยทิ้งร้าง
จนเมื่อช่วงกลางปี พ.ศ.2557-2558 ได้มีคณะกลุ่มคนร่วมทาง มาทำการบูรณะถวาย และได้มีการทาสีทองทั้งหลังเพื่อให้เป็นวิหารทองหลังแรกคู่กับเมืองอู่ทอง ทางวัดไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานกับกรมศิลปากร ทางวัดก็จึงได้ให้คณะผู้มิจิตศรัทธาบูรณะถวายเป็นพุทธบูชา ไม่คิดว่าจะเป็นการทำลายโบราณสถาน คิดว่าผู้มีจิตศรัทธามาขอบูรณะก็น่าจะดีกว่าปล่อยให้วิหารพังทลายลงมา จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2559 ใช้เวลาในบูรณะเป็นเวลา 1 ปี กับ 6 เดือน และได้มีการฉลองวิหารทอง โดยจัดงานเมื่อช่วงเดือนเมษายน พ.ศ.2559
...
ขณะที่จากการเปรียบเทียบวิหารทอง จากกูเกิลแมพที่บันทึกไว้เมื่อปี ค.ศ.2012 หรือ พ.ศ.2555 พบว่ามีสภาพทรุดโทรมอย่างมาก.
(ขอบคุณเฟซบุ๊ก วัดโพธาราม และภาพจาก Google Map)