ภายหลังทางทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ได้นำเสนอเรื่องราวของครอบครัว ดาบตำรวจอำนวย แก้วเนียม ที่ถูก 2 พี่น้องใช้อาวุธสงครามยิงตาย เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2533 สืบเนื่องมาจาก น้องชายแท้ๆ ควงอาก้า-M79 บุกเดี่ยวชิงตัวพี่ชายที่ศาลจังหวัดสงขลา พิสูจน์คำคมที่ว่า "สายเลือดย่อมเข้มข้นกว่าน้ำ" ... เมื่อ นายสุนทร เพชรรัตน์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาหนีคดีค้าอาวุธสงคราม ได้ตัดสินใจควบกระบะสีแดงเพลิง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บุกชิงตัวพี่ชาย "นายสุพล เพชรรัตน์" อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ปลอมบัตรข้าราชการกระทรวงกลาโหม ซ้ำยังปลอมตัวเป็น ส.อ.สังกัดกองรบพิเศษ และค้าอาวุธสงคราม (ฟื้นคดีดัง 28 ปี! น้องในไส้ขนอาวุธสงคราม ถล่มศาลสงขลา ชิงตัวพี่ ปะทะ 5 ศพ)

เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ "นางจิราพร แก้วเนียม" ภรรยาของผู้ตาย ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูลูกชายวัยประถม ถึง 3 คน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเงินค่าบำเหน็จบำนาญของหัวหน้าครอบครัวที่ต้องสละชีพเพื่อชาติไป ไม่เพียงพอต่อการจุนเจือทุนการศึกษาลูกชายทั้ง 3 และถึงแม้ทางโรงเรียนอนุบาลสงขลา จะรับอุปถัมภ์ให้เรียนฟรีในช่วงนั้น นางจิราพร แก้วเนียม ก็ต้องทำหน้าที่เสาหลักของบ้าน เป็นแม่ค้ารับเนื้อหมูมาขายเพื่อหารายได้เสริมในตลาดเมืองสงขลา ได้กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง 

...

แต่สิ่งที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้ ต่อครอบครัว "แก้วเนียม" ภายหลัง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทราบเรื่องราวความเสียสละของดาบตำรวจอำนาจ จึงทรงมีพระเมตตาให้บุตรชายทั้ง 3 คน และภรรยาของ ดาบตำรวจอำนวย แก้วเนียม เข้าเฝ้าฯ ณ ท่าเรือวาสุกรี ในเวลาต่อมา โดยเด็กทั้ง 3 ต้องเดินทางเข้าเฝ้าฯ และรับพระราชทานทุนการศึกษาจากพระหัตถ์ด้วยตนเองทุกปี  ในความดูแลของมูลนิธิสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จนจบระดับปริญาตรี 

นางจิราพร แก้วเนียม ย้อนเล่าเรื่องราวว่า ในครั้งนั้นลูกๆ ทุกคนยังเด็กมาก ส่วนตนเองจำความทุกอย่างได้ดี รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีให้แก่ครอบครัวนายดาบตำรวจ และยอมให้ตนเองเข้าเฝ้าฯ ถึงแม้ว่าในครั้งนั้นตนเองจะสวมชุดสีดำ พระองค์ทรงห่วงใย และทรงมีพระเมตตาต่อลูกชายทั้ง 3 คนของตน โดยพระราชทานทุนการศึกษาทุกปีตั้งแต่ชั้นประถมไปจนเรียนจบระดับปริญญาตรี และสำหรับการเข้าเฝ้าฯ พระองค์ในครั้งแรก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตรัสว่า ให้เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ประพฤติปฏิบัติตัวเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง และมีความรู้สึกภาคภูมิใจ ที่พ่อได้เสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง ซึ่งลูกชายของตนได้ซึมซับมา

"ดิฉันโชคดีที่ลูกทั้ง 3 คนรักเรียน และมีความคิดที่อยากจะเป็นตำรวจเหมือนพ่อตั้งแต่เล็กๆ เมื่อพ่อต้องเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ทุกคนก็รู้ว่าแม่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ลูกๆ จึงไม่เคยทำให้เหนื่อยหน่ายหนักใจ ลูกดำรงตนเป็นคนดี ขยัน ตั้งใจเรียน กระทั่งสอบเข้าเป็นตำรวจได้ทั้ง 3 คน ส่วนลูกชายคนโต หลังเรียนจบนิติศาสตร์จาก ม.รามคำแหง ก็ได้ใช้สิทธิ์ของพ่อเข้าเป็นตำรวจ แต่น้องๆ อีก 2 คน สอบเข้าเป็นตำรวจเอง เป็นสัญญาบัตรกันทั้ง 3 นาย" 

ขณะที่ทายาททั้ง 3 คน ของดาบตำรวจอำนวย แก้วเนียม ได้ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านทางทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ว่า "ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้ เพราะ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระเมตตา สร้างความปลาบปลื้มใจเป็นล้นพ้นแก่คนในครอบครัว คำพูดของพระองค์เพียงไม่กี่ประโยค สามารถปลูกฝังให้พวกกระผมได้สำนึกในบุญคุณบิดามารดา ตั้งแต่เยาว์วัย เพราะมีพ่อเป็นแบบอย่างที่ดี มีแม่ที่มานะพยายาม ขยันทำงาน อดทนต่อความลำบากในการเลี้ยงลูกทั้ง 3 คน เพราะแม่ผมไม่เคยบ่นให้ได้ยินเลยว่าลำบากหรือเหนื่อย ในการเลี้ยงพวกเราทั้ง 3 คน"

...

"แต่มันกลับเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้พวกผมเห็นว่า แม่ทำงานไม่ได้มีวันหยุดตลอดทั้งปี ส่วนพวกผมเองก็ไม่ค่อยได้เที่ยวเหมือนครอบครัวอื่นๆ เพราะเห็นแม่ต้องทนลำบากเพื่อพวกผม จึงตั้งใจมาตลอดว่าสิ่งไหนที่เป็นความสบายใจของแม่ พวกเราจะทำให้ดีที่สุด และช่วยกันแบ่งเบารับผิดชอบภาระครอบครัว เลี้ยงดูส่งเสียแม่ ซึ่งวันนี้ทุกคนต่างก็ประสบความสำเร็จครึ่งหนึ่งของชีวิตแล้ว นอกจากนี้ที่ผ่านมา ญาติพี่น้อง ผู้บังคับบัญชา รวมไปถึงเพื่อนร่วมงาน ต่างเมตตาให้ความเอ็นดูเราทั้ง 3 คน เมื่อสอบเข้ามาเป็นตำรวจได้ ก็ตั้งใจไว้ว่าจะทำให้ดีที่สุด เป็นประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด" 

เพราะการเข้ารับราชการเป็นตำรวจ คือความฝันที่ยิ่งใหญ่ของพวกเรา ทุกตำแหน่งที่ยืนอยู่ล้วนแล้วมาจากความสามารถและความตั้งใจของตนเอง จนผู้บังคับบัญชาให้โอกาสเล็งเห็นความสำคัญ ในฐานะลูก ในฐานะหลาน และในฐานะของประชาชน พวกผมจะตั้งมั่นอยู่ในกรอบระเบียบความดีงาม มุ่งเน้นประโยชน์สุขในส่วนรวมเป็นที่ตั้ง  เพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดินเกิด ทดแทนพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานทุนค่าเล่าเรียนพี่น้อง 3 ชีวิต มาจนจบปริญาตรี มีการศึกษาเป็นสมบัติล้ำค่า เอามาดูแลทำประโยชน์เพื่อประชาชนในชาติสืบต่อไป กราบขอบพระคุณทุกโอกาส ทุกความเมตตา ที่มีให้ครอบครัวของพวกผมครับ"

พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม สว.สส.สภ.ปากท่า อยุธยา   

ร.ต.ท.อรรถพล แก้วเนียม รอง สวป สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี 

ร.ต.อ.เฉลิมรัฐ แก้วเนียม รอง สวป สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

...